สืบค้นงานวิจัย
รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตแม่พันธุ์อ้อยปลอดโรคในระดับขยายผลสู่เกษตรกร
วัชรีพร โอฬารกนก - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตแม่พันธุ์อ้อยปลอดโรคในระดับขยายผลสู่เกษตรกร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วัชรีพร โอฬารกนก
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยชุดนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตต้นแม่พันธุ์อ้อยปลอดโรค ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ ระดับขยายผลในระยะอนุบาลและในแปลงขยายพันธุ์ของเกษตรกร ซึ่งเป้นการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะปฏิบัติงาน ดังนั้น การศึกษาวิจัยแยกกันดำเนินการโดยที่ระยะไม่มีความต่อเนื่องกัน ปัจจัยทดลองที่ใช้จึงแตกต่างตามความเหมาะสมของระยะเวลาโดยการศึกษาวิจัยในระดับห้องปฏิบัติการได้ศึกษาขนาดของท่อนพันธุ์อ้อนที่เหมาะสมในการนำไปแช่น้ำร้อนแบบต่อเนื่อง ผลการศึกษาโดยใช้ส่วนขยายพันธุ์อ้อย 3 แบบ คือ ท่อนพันธุ์ 1 ตา ซึ่งเป็นแบบที่เคยปฏิบัติอยู่เดิมเปรียบเทียบกับ ข้อ 1 ตาและชิ้นตากับอ้อย 3 สายพันธุ์ คือ เอฟ. 140, ฟิลิปปินส์ 58/260 และ อู่ทอง 2 นั้น ปรากฎว่า เวลา ที่ใช้ในการเตรียมแบบชิ้นตามีค่าเฉลี่ยสูงมากกว่าแบบอื่น คือ 118.25 นาทีต่อ 1000 ชิ้นตา ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่น 5 เปอร์เซ็นต์ กับเวลาเตรียมแบบท่อนพันธุ์ 1 ตา และแบบข้ออ้อย 1 ตา ซึ่งใช้เวลาในการเตรียมเท่ากับ 73.17 และ 72.67 นาที ต่อ 1000 ท่อนและข้อ ตามลำดับ ทั้งนี้ การเตรียมส่วนขยายพันธุ์ทั้ง 2 แบบหลังนี้ แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ในทางตรงกันข้ามค่าเฉลี่ยของน้ำหนักชิ้นตาอ้อยให้ค่าเฉลี่ยของน้ำหนักต่ำสุด คือ 14.22 กรัม ต่อ 1 ชิ้นตา แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับน้ำหนักของท่อนพันธุ์ 1 ตา คือ 483.73 กรัม ต่อ 1 ท่อน และน้ำหนักของข้ออ้อย 305.28 กรัม ต่อ 1 ข้อ และหลังจากที่นำส่วนขยายพันธุ์ทั้ง 3 แบบไปแช่น้ำร้อนแบบต่อเนื่องและเพาะชำให้งอกนาน 2 สัปดาห์ พบว่า ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์ความงอกของส่วนขยายพันธุ์ทั้ง 3 แบบ หลังเพาะชำเท่ากับ 71.88 ,66.32 และ 66.39 ตามลำดับ แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เช่นเดียวกับผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยของเปอร์เซ็นต์การปนเปื้อน เมื่อนำไปตัดเนื้อเยื่อเจริญเลี้ยงบนอาหารสังเคราะห์บ่มในสภาพปลอดเนื้อ นาน 2 สัปดาห์ และค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การอยู่รอดเมื่อบ่มนาน 3 เดือน พบว่าการขยายพันธุ์ทั้ง 3 แบบให้ค่าเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การปนเปื้อน และความอญุ่รอด แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ การศึกษาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ตัดชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยกับจำนวนชั่วโมงในการตัดชิ้นเนื้อเยื่อใต้กล้องจุลทัศน์ ตั้งแต่ 1 ถึง 8 ชั่วโมง ผลปรากฎว่าค่าเฉลี่ยของจำนวนชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยที่ตัดได้จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากชั่งโมงที่ 1,2 และสูงสุดในการปฏิบัติงานชั่งโมงที่ 3 คือ 16.53 ชิ้น แตกต่างอย่างเป็นนัยสำคัญทางสถิติกับค่าเฉลี่ยของจำนวนชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยที่ตัดได้ในชั่งโมงอื่น ๆ นอกจากนี้ ค่าเฉลี่ยของจำนวนชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยที่ตัดได้จะลดลงเป็นเป็นปฏิภาคผกผันกับจำนวนชั่งโมงที่ปฏิบัติงานนานขึ้นและเมื่อนำชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยที่ตัดได้ไปเลี้ยงบนอาหารสังเคราะและบ่มภายใต้สภาวะควบคุม นาน 2 สัปดาห์ ผลการวิเคราะห์ปรากฎว่าจำนวนการปนเปื้อนของชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยที่ตัดได้ในชั่วโมงที่ 1,2,3 และ 4 ซึ่งเท่ากับ 1.87 ชิ้น, 1.73 ชิ้น, 1.83 ชิ้น และ 2.00 ชิ้น ตามลำดับ ซึ่งแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติส่วนค่าเฉลี่ยของจำนวนชิ้นเนื้อเยื้ออ้อยที่อยู่รอดเมื่ออายุ 3 เดือน พบว่าจำนวนชิ้นที่อยู่รอดจากการปฏิบัติงานใต้กล้องจุลทัศน์เพิ่มขึ้นจาก 11.31 ชิ้น ในชั่งโมงที่ 1 และ 11.40 ชิ้น ในชั่งโมงที่ 2 และจำนวนชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยที่อยู่รอดสูงสุดจากการปฏิบัติงานในชั่งโมงที่ 3 คือ 11.67 ชิ้น ซึ่งจำนวนชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยที่อยู่รอดในชั่งโมงที่ 3 นี้ แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับจำนวนชิ้นเนื้อเยื่ออ้อยที่อยู่รอดในชั่งโมงอื่น ๆ จากนั้นความอยู่รอดจะลดต่ำลงตามลำดับชั่งโมงการปฏิบัติงานที่นานขึ้นจากชั่งโมงที่ 4-8 คือ 9.77 ชิ้น, 9.73 ชิ้น, 8.77 ชิ้น, 7.27 ชิ้น และ ต่ำสุดในชั่งโมงที่ 8 คือ 6.30 ชิ้น การศึกษาวิธีการเพิ่มปริมาณแม่พันธุ์อ้อนปลอดโรคระยะอนุบาลในโรงเรือน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายต้นอ่อนอ้อย ที่ผลิตจากห้องปฏิบัติการให้สามารถขยายลงแปลงได้มากขึ้น โดยนำต้นอ่อนอ้อยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 5 สายพันธุ์ คือ เอฟ. 140, ฟิลิปปินส์ 58/260 อู่ทอง 2 ,เค 84-200 และแรกนาร์ ออกจากขวดเพาะเลี้ยงส่งไปอนุบาลศูนย์ป้องกันและกำจัดจัดศัตรูอ้อยที่ 7 จังหวัดสุพรรณบุรี ใช้วิธีการอนุบาล 2 แบบคือ ปลูกอ้อยในโรงเรือนจนอายุ 8 สัปดาห์ โดยไม่แยกกอ กับปลูกอ้อยในโรงเรือนจนอายู 4 สัปดาห์แล้วแยกกอจากนั้นจึงอนุบาลต่อจนครบ 8 ยังโดยใช้อ้อย ผลปรากฏว่าเมื่ออายุ 8 สัปดาห์ความสูงของต้นอ่อนอ้อยทั้ง 5 สายพันธุ์ มีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยคัญทางสถิติ เช่นเดัยวกับความสูงเฉลี่ยที่ได้จากการอนุบาลทั้ง 2 แบบซึ่งไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ส่วนค่าเฉลี่ยจำนวนต้นอ้อยจาก 1 กอเดิมจากขวดเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเมื่อนำไปปลูกลงแปลง นั้น การอนุบาลแบบไม่แยกกอได้ค่าเฉลี่ยจำนวนต้นเท่ากับ 10.56 ต้นต่อ 1 กอเดิมจากขวดเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และการอนุบาลแบบแยกกอได้ค่าเฉลี่ยจำนวนต้นเท่ากับ 11.96 ต้นต่อ 1 กอเดิมจากขวดเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติ (P<0.01)การทดสอบเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของต้นอ่อนอ้อยจากาการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อซึ่งเป็นวิธีการปลูกอ้อยแบบใหม่กับการปลูกโดยใช้ท่อนพันธุ์ 2 ตาแบบเดิม โดยใช้อ้อย 2 สายพันธุ์คือ เอฟ.140 และ เอฟ.156 ทดสอบในแปลงขยายพันธุ์ของเกษตรกรให้ทราบข้อมูลคุณภาพอ้อย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนการส่งเสริมการจัดทำแปลงพันธุ์อ้อยปลอดโรคจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ผลการทดสอบเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของความสูง เมื่ออายุ 1 เดือนวิธีการปลูกให้ค่าเฉลี่ยแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติและเมื่ออ้อยอายุ 2 และ 3 เดือน พบว่าเกิดปฏิกิริยาระหว่างสายพันธุ์อ้อยกับวิธีการปลูก เมื่ออายุ 5 เดือน อ้อยที่ปลูกด้วยท่อนพันธุ์ 2 ตา อ้อยสูงเฉลี่ย 190.63 เซนติเมตร ส่วนอ้อยที่ปลุกด้วยต้นอ่อนอ้อยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อสูง 184.77 เซนติเมตร แตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่ออ้อยอายุ 6 ความสูงของอ้อยที่ปลูกด้วยท่อนพันธุ์ 2 ตา ให้ความสูง 206.04 เซนติเมตรการปลุกด้วยต้นอ่อนอ้อยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อให้ความสูงเฉลี่ย 193.52 เซนติเมตร แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากนั้นเมื่ออ้อยเจริญเติบโตอายุ 7,8 เดือน พบว่าค่าความสูงเฉลี่ยเปรียบเทียบระหว่างสายพันธุ์และวิธีการปลูกพบว่าไม่แตกต่างกันทางสถิติ ด้านคุณภาพผลผลิตอ้อยเมื่ออายุ 8 เดือนปรากฏว่าค่าเฉลี่ยจำนวนลำต้นต่อกอจากการปลูกด้วยท่อนพันธุ์ 2 ตาเท่ากับ 7.14 ลำต่อกอ แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับการปลูกด้วยต้นอ่อนอ้อยจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ซึ่งมีค่าเท่ากับ 11.21 ลำต่อกอ และค่าเฉลี่ยขนาดเสันผ่าศูนย์กลางลำ อ้อยจากการปลูกแบบใช้ท่อนพันธุ์ 2 ตา มีค่าเท่ากับ 2.97 เซนติเมตร แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับต้นอ่อนอ้อนปลอดโรค ซึ่งมีค่าเท่ากับ 2.03 เซนติเมตร จากผลการศึกษาวิจัยข้างต้นสามารถสรุปและเสนอแนะได้ว่า ขนาดของท่อนพันธุ์อ้อยเหมาะสมในการนำไปแช่น้ำร้อนก่อนนำเข้าตัดเนื้อเยื่อ นั้น ใ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: เกษตรกร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตแม่พันธุ์อ้อยปลอดโรคในระดับขยายผลสู่เกษตรกร
กรมส่งเสริมการเกษตร
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
สภาพการปลูกอ้อย และการใช้ท่อนพันธุ์อ้อยปลอดโรค-แมลง ของเกษตรกร อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เปรียบเทียบการใช้ชนิดและปริมาณปุ๋ยอินทรีย์ในการปลูกอ้อยเพื่อเกษตรกรรายย่อยใน อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ โครงการ : การทดสอบผลผลิตอ้อยโคลนก้าวหน้าในระดับภูมิภาค (อ้อยตอปีที่ 1) สภาพการผลิตอ้อยของเกษตรกรในจังหวัดอุดรธานีกรณีศึกษาเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตอ้อยปี 2546 การจัดทำแปลงพันธุ์ขยายอ้อยปลอดโรคใบขาว ความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยส่งโรงงานที่มีต่อการส่งเสริมการผลิตอ้อยปลอดโรคและแมลง ในจังหวัดกำแพงเพชร การขยายผลเทคโนโลยีการผลิตต้นพันธุ์อ้อยปลอดโรคใบขาว การศึกษาเพื่อพัฒนาบ่อแช่ฟอกปอของเกษตรกรในประเทศไทย ศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตและขยายต้นอ้อยปลอดโรคใบขาวโดยอาศัยเทคนิคปลอดเชื้อ การผลิตท่อนพันธุ์อ้อยปลอดโรคใบขาวแบบประณีตแนวใหม่ในสภาพโรงเรือนอนุบาลและแปลงปลูก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก