สืบค้นงานวิจัย
การอนุบาลจักจั่นทะเล (Emerita emeritus) ในโรงเพาะฟัก
วรวุฒิ เกิดปราง - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ชื่อเรื่อง: การอนุบาลจักจั่นทะเล (Emerita emeritus) ในโรงเพาะฟัก
ชื่อเรื่อง (EN): Nursing of Sand Crab (Emerita emeritus) in Hatchery
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วรวุฒิ เกิดปราง
บทคัดย่อ: การทดลองเลี้ยงจักจั่นทะเล (Mole cralb หรือ Sand crab, Emeriu emeritus) ในน้ำ ความเค็ม อัตราการปล่อยและชนิดของวัสดุรองพื้นแตกต่างกัน เพื่อศึกษาการเจริญเติบ โตและอัตรา รอคตาย สำหรับเป็นข้อมูลพื้นฐานในการเลี้ยงจักจั่นทะเลในระบบโรงเพาะฟักต่อไป โดยการ ทดลองที่ 1 เลี้ยงจักจั่นทะเลด้วยน้ำความเค็ม 25, 30 และ 35 ส่วนในพัน (pp) การทคลองที่ 2 ใช้ วัสดุรองพื้นจาก 2 แหล่ง คือ ทรายจากหาดไม้ขาว จังหวัดกูเก็ต และหาคราชมงคล จังหวัคตรัง โดย ทั้ง 2 การทดลอง ปล่อยจักจั่นทะเลถังละ 10 ตัว และการทคลองที่ 3 เลี้ยงจักจั่นทะเลในอัตราความ หนาแน่น 400, 800 และ 1200 ตัวต่อตารางเมตร โดยทั้ง 3 การทคลองเลี้ยงจักจั่นทะเลในถัง พลาสดิกกลมขนาคเส้นผ่านศูนย์กลาง 18 เซนดิเมตร รองพื้นด้วยทรายทะเลหนา 3 เซนดิเมตร ปริมาครน้ำ 4 ลิตร ชุดการทคลองละ 4 ซ้ำและใช้ระบบน้ำหมุนเวียนด้วยถังพักน้ำขนาค 100 ลิตร ตรวจเช็คความเค็มและเปลี่ยนถ่ายน้ำในถังพักน้ำ 50 เปอร์เซ็นด์ทุกวัน ให้อาร์ทีเมียแรกฟักเป็น อาหาร ทำการเลี้ยงเป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ ในการทดลองที่ 1 และ 12 สัปตาห์ ในการทคลองที่ 2 และ 3 เมื่อสิ้นสุดการทคลองพบว่า จักจั่นทะเลที่เลี้ยงในน้ำความเค็ม 23, 30 และ 35 ppt มีอัตรารอด ตายแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P 0.03) โคยมีน้ำหนักเฉลี่ย 0.148 และ 0.129 กรัม ตามลำคับ และจักจั่นทะเลที่เลี้ยงใน ทรายจากจังหวัดภูเก็ด และจังหวัดตรังทรายจาก มีน้ำหนักเฉลี่ย 0.1100 และ 0.0925 กรัม ตามลำดับ ซึ่งไม่มีความแตกต่างทางสถิติ (P> 0.05) ขณะที่อัตรารอดตาย 6.67 และ 63.633 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และมีความแตกต่างทางสถิติ (P -0.05) ส่วนจักจั่นทะเลที่เลี้ยงด้วยความหนาแน่น 400, s00 และ 1,200 ตัวต่อตารางเมตร มีน้ำหนักเฉลี่ย 0.0925, 0.0799 และ 0.0680 กรัม ตามลำดับ และ อัตรารอดตาย 63.33 , 36.67 และ 25.56 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ และไม่มีความแตกต่างทางสถิติ (P>0.05) ของน้ำหนักและอัตรารอดตายระหว่างชุดการทคลอง
บทคัดย่อ (EN): Nursing of Sand Crab (Emerita emeritus Linn. 1767) in Hatchery Worawut Koedprang1 Tantipong Phetchaiya and Suthip Khakhong Abstract Sand crab or Mole crab, Emerita emeritus (Linn. 1767) were reared in different salinity, density and substrate to estimate the growth performances and survival rate. The information from this study would be useful for mole crab culture in the future. The 1st experiment was reared the sand crab in salinities; 25, 30 and 35 ppt. The 2nd experiment was reared in two different substrates; sand from Mai Kao beach, Phuket province and from Rajamangala beach, Trang province. These two experiments were stocked 10 individuals of sand crab per tank. The 3rd experiment was reared with three different stocking densities; 400, 800 and 1,200 individuals per m2. All experiments were set up with 4 replications. The 18 cm diameter plastic tanks were covered with 3 cm thickness of sand on the bottom. The water flow systems were applied with 100 L storage tank and 4 L of water was contained in rearing tank. The salinity was maintained and 50% of water in storage tank was daily changed. The sand crabs were feed with Artemia naupilius. The 1st experiment was carried in 8 weeks duration while the 2nd and 3rd experiments were carried in 12 weeks duration. The survival rate of sand crab in 25, 30 and 35 ppt groups at the end of the experiment were 17.50, 32.50 and 0 % respectively and statistically significant difference (P0.05) among groups. The final weight of sand crab in Mai Kao and Rajamangala beach sand groups were 0.1100 and 0.0925 g respectively and there were not statistically significant difference (P>0.05) among groups while survival rate were 6.67 and 63.33 % respectively and statistically significant difference (P0.05) among groups. Keywords: Mole crab, Sand crab, Emerita emeritus, Salinity, Density Growth, Substrate, Growth rate, Survival rate 1 Department of Fisheries Technology, Faculty of Science and Fisheries Technology, Rajamangala University of Technology Srivijaya, Trang Campus, 2Department of Aquaculture, Faculty of Agricultural Technology, Phuket Rajabhat University.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
คำสำคัญ: จังหวัดตรัง
คำสำคัญ (EN): nursing
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

วรวุฒิ เกิดปราง. "การอนุบาลจักจั่นทะเล (Emerita emeritus) ในโรงเพาะฟักNursing of Sand Crab (Emerita emeritus) in Hatchery". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. 2557

วรวุฒิ เกิดปราง. "การอนุบาลจักจั่นทะเล (Emerita emeritus) ในโรงเพาะฟักNursing of Sand Crab (Emerita emeritus) in Hatchery". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
การอนุบาลจักจั่นทะเล (Emerita emeritus) ในโรงเพาะฟัก
วรวุฒิ เกิดปราง
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
30 กันยายน 2557
การเพาะเลี้ยงโคพีพอดเพื่อการอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนในโรงเพาะฟัก การผลิตพ่อแม่พันธุ์ปูทะเล (Scylla paramamosain Estampador, 1949) จากลูกพันธุ์ที่เพาะฟักได้จากโรงเพาะฟัก การศึกษาการเพาะพันธุ์และการอนุบาลปลาค้อลายดวง การผลิตลูกพันธุ์หอยแครงจากโรงเพาะฟัก การผลิตเศษซากเซลล์เดียวจากสาหร่ายทะเลเพื่อใช้ทดแทนสาหร่ายเซลล์เดียวในการอนุบาลลูกหอยตะโกรมกรามขาวในโรงเพาะฟัก การเพาะและอนุบาลปลาดุกเนื้อเลน วิจัยการเพาะเลี้ยงกบติดผาเหลือง การจัดการที่เหมาะสมในการลำเลียงพ่อแม่พันธุ์ปลาทู Rastrelliger brachysoma (Bleeker,1851) จากแหล่งทำการประมงสู่โรงเพาะฟัก การเพาะพันธุ์ อนุบาล และพัฒนาการของตัวอ่อนปลิงทะเลกาหมาด (Stichopus horrens) จากพ่อแม่พันธุ์ที่เลี้ยงในโรงเพาะฟัก การอนุบาลลูกปลาสลิดขนาด 2-3 เซนติเมตรให้ได้ขนาด 5-7 เซนติเมตรในบ่อดินที่มีระบบการเติมออกซิเจน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair