สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาความต้องการธาตุอาหารรองแคลเซียมและกำมะถันจากยิปซั่มของข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในดินเค็มน้อยระดับไร่นาของพื้นที่ลุ่มน้ำลำสะแทค
ชาญณรงค์ เขตแดน - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การศึกษาความต้องการธาตุอาหารรองแคลเซียมและกำมะถันจากยิปซั่มของข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในดินเค็มน้อยระดับไร่นาของพื้นที่ลุ่มน้ำลำสะแทค
ชื่อเรื่อง (EN): Study to secondary macronutrient requirements (Calcium and Sulfur) from gypsum for Khao Dawk Mali105 in slightly saline soil on farm of Lam Sataet watershed area
บทคัดย่อ: การศึกษาความต้องการธาตุอาหารรองแคลเซียมและกำมะถันจากยิปซั่มของข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในดินเค็มน้อยระดับไร่นาของพื้นที่ลุ่มน้ำลำสะแทค ในพื้นที่เกษตรกร (นายบุญถิ่น คาโสจันทร์) ณ.บ้านงิ้ว ตำบลกุดจอก อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนคราชสีมา เพื่อศึกษาอัตราและปริมาณการใช้ยิปซั่มที่เหมาะสมในการเพิ่มธาตุแคลเซียมและกำมะถันต่อข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในดินเค็มน้อย โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD จำนวน 4 บลอก 6 ตำรับการทดลอง ดังนี้ ตำรับการทดลองที่ 1 ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม (control) ตำรับการทดลองที่ 2 ใส่ยิปซั่มในอัตรา 150 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 3 ใส่ยิปซั่มในอัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 4 ใส่ยิปซั่มในอัตรา 350 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 5 ใส่ยิปซั่มในอัตรา 400 กิโลกรัมต่อไร่ และ ตำรับการทดลองที่ 6 ใส่ยิปซั่มในอัตรา 450 กิโลกรัมต่อไร่ จากผลการทดลองพบว่าความสูงและจำนวนกอของข้าวในแต่ละระยะการเจริญเติบโตและแต่ละตำรับการทดลองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยความสูงของข้าว ที่ระยะแตกกอ และระยะกำเนิดช่อดอก แต่ละตำรับยิปซั่ม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับอัตรายิปซั่มที่เพิ่มขึ้นในลักษณะกราฟเชิงเส้นตรง แต่มีค่าความสูงใกล้เคียงกันไม่มีความแตกต่างกัน และ มากกว่าตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่มเพียงเล็กน้อย สำหรับความสูงของข้าวที่ระยะออกดอก และระยะเก็บเกี่ยว แต่ละตำรับยิปซั่ม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับอัตรายิปซั่มที่เพิ่มขึ้นในลักษณะกราฟเชิงเส้นตรง แต่มีค่าความสูงใกล้เคียงกันไม่มีความแตกต่างกัน และ มากกว่าตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่มโดยเฉพาะในตำรับยิปซั่มในอัตรา 400 กิโลกรัมต่อไร่ แตกต่างกันอย่างชัดเจน สำหรับจำนวนกอหรือจำนวนต้นต่อตารางเมตร ในระยะแตกกอ และ ระยะกำเนิดช่อดอก พบว่าตำรับยิปซั่มในอัตรา 150 และ 200 กิโลกรัมต่อไร่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสัมพันธ์กับอัตรายิปซั่มที่เพิ่มขึ้น และจะลดลงในตำรับยิปซั่มในอัตรา 350, 400 และ 450 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ซึ่งมีแนวโน้มลดลงตามอัตรายิปซั่มที่เพิ่มขึ้น ลักษณะกราฟระฆังคว่ำ แต่มีจำนวนต้นต่อตารางเมตรใกล้เคียงกันไม่มีความแตกต่างกัน และทุกตำรับยิปซั่ม มีจำนวนต้นต่อตารางเมตรมากกว่าตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่มเพียงเล็กน้อย ส่วนข้าวในระยะออกดอก และระยะเก็บเกี่ยว พบว่าตำรับยิปซั่มในอัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่ มีจำนวนต้นต่อตารางเมตรมากกว่าตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่มอย่างชัดเจน สำหรับตำรับยิปซั่มในอัตรา 150, 350, 400 และ 450 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ มีจำนวนต้นต่อตารางเมตร ไม่แตกต่างกันกับตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม แม้ว่าจะมีจำนวนต้นมากกว่าก็ตาม โดยตำรับยิปซั่มในอัตรา 400 กิโลกรัมต่อไร่ จะให้ผลผลิต (น้ำหนักเมล็ดข้าวเต็ม) เพิ่มขึ้นมากกว่าตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่มอย่างเด่นชัด ให้น้ำหนักเมล็ดข้าวเต็มเท่ากับ 447.95 กรัมต่อตารางเมตร สำหรับตำรับยิปซั่มอื่นๆ ให้น้ำหนักเมล็ดข้าวเต็มไม่แตกต่างกันกับตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ขณะที่ตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ให้น้ำหนักเมล็ดข้าวเต็มเท่ากับ 374.00 กรัมต่อตารางเมตร เมื่อพิจารณาคำนวณเปอร์เซ็นต์ผลผลิตเพิ่มเมื่อเทียบกับตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม พบว่าตำรับยิปซั่มในอัตรา 150, 200, 350 และ 450 กิโลกรัมต่อไร่ มีผลผลิตเพิ่ม 10.73, 11.55, 12.97 และ 14.31 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ส่วนตำรับยิปซั่มในอัตรา 400 กิโลกรัมต่อไร่ มีผลผลิตเพิ่มมากที่สุด 19.77 เปอร์เซ็นต์ สำหรับน้ำหนักแห้งตอซัง ตำรับยิปซั่มในอัตรา 400 กิโลกรัมต่อไร่ ให้น้ำหนักแห้งตอซังเพิ่มขึ้นมากกว่าตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่มอย่างเด่นชัด ซึ่งมีน้ำหนักแห้งตอซังเท่ากับ 570.05 กรัมต่อตารางเมตร สำหรับตำรับยิปซั่มอื่นๆ ให้น้ำหนักแห้งตอซังไม่แตกต่างกันกับตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ซึ่งสอดคล้องกับผลผลิต (น้ำหนักเมล็ดข้าวเต็ม) ส่วนน้ำหนักเมล็ดลีบ พบว่าตำรับยิปซั่มในอัตรา 150, 200, 350, 400 และ 450 กิโลกรัมต่อไร่ มีน้ำหนักเมล็ดลีบเท่ากับ 20.28, 19.14, 18.51, 17.21 และ 18.15 กรัมต่อตารางเมตร ตามลำดับ ซึ่งให้น้ำหนักเมล็ดลีบไม่แตกต่างกันกับตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ขณะที่ตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ให้น้ำหนักเมล็ดลีบเท่ากับ 20.82 กรัมต่อตารางเมตร และ จำนวนรวงข้าวของตำรับยิปซั่มในอัตรา 150, 200, 350, 400 และ 450 กิโลกรัมต่อไร่ มีจำนวนรวงข้าวเท่ากับ 145.88, 146.25, 151.13, 153.38 และ 151.88 รวงต่อตารางเมตร ตามลำดับ ซึ่งให้จำนวนรวงข้าวไม่แตกต่างกันกับตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ขณะที่ตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ให้จำนวนรวงข้าวเท่ากับ 136.88 รวงต่อตารางเมตร และน้ำหนัก 1,000 เมล็ด ของตำรับยิปซั่มในอัตรา 150, 200, 350, 400 และ 450 กิโลกรัมต่อไร่ มีน้ำหนัก 1,000 เมล็ด เท่ากับ 24.36, 24.40, 24.46, 25.57 และ 24.82 กรัมต่อตารางเมตร ตามลำดับ ซึ่งให้น้ำหนัก 1,000 เมล็ด ไม่แตกต่างกันกับตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ขณะตำรับที่ไม่ได้ใส่ยิปซั่ม ให้น้ำหนัก 1,000 เมล็ด เท่ากับ 23.74 กรัมต่อตารางเมตร ซึ่งสอดคล้องกับผลผลิต (น้ำหนักเมล็ดข้าวเต็ม)
บทคัดย่อ (EN): A study of secondary supplement of calcium and sulfur in gypsum needs to KhaoDawk Mali 105 (KDML105) in slightly saline on farm soil of Lam Sataet watershed area of Mr. BoontinCasochan area located at the Ban Nguw Sub-district, KutChok District, Bua Yai District, NakhonRatchasima Province. In order to study the appropriate gypsum utilization rate increasing calcium and sulfur amount in KDML 105 in slightly saline, we prepared 4 blocks of RCBD with 6 treatments: Treatment 1, it is without gypsum (control). Treatment 2, it is applied gypsum at 150kg/rai. Treatment 3, it is applied gypsum at 200 kg/rai. Treatment 4, it is applied gypsum at 350kg/rai. Treatment 5, it is applied gypsum at 400 kg/rai and Treatment 6, it is applied gypsum at 450kg/rai. The growth observation is divided in 2 stages: Stage1: the height and number of shoots in the Tillering and Panicle period and Stages 2: the height and number of shoots in the Flowering and Harvesting period. Focusing on the height, both stages of treatment 2-6 are the same and have relation of gypsum usage as linear graphs. However, if they are compared to the control, the height of the stage 1 has little bit higher. For the stage 2, there are obviously higher. As the stage1, the height is the most increasing related to gypsum using rate at 400 kg/Rai. Moreover, the number of shoots has the highest yield in gypsum in 150 and 200 kg/rai, but it will decrease in 350, 400 and 450 kg/rai respectively. It shows that the more gypsum uses, the less good result is. The relation graph is the bell curve. In contrast, the numbers of shoots/m2 are not much different in each Treatment, but little bit more in the control. As the stage2, using gypsum at 200 kg/rai obviously yields the number of shoots/m2 more than the control. For the gypsum rate 150, 350, 400 and 450 kg/rai, the number of shoots/m2has no difference from the control. For the productivity, it is found that the gypsum rate at 400 kg/rai yield the highest full grain weight is 447.95 g/m2 while the control gives the full grain weight as 374.00 g/m2. When we compare the yield by the percentage between the control and other treatments, it is indicated the yields from using the gypsums as 150, 200, 350, 400 and 450 kg/rai have increased by 10.73 %, 11.55 %, 12.97 %, 19.77 % and 14.31 % respectively. The treatment 5 using gypsum at 400 kg/rai gives not only the highest yield as 19.77% but also the dry weight of stubble as 570.05 g/m2 which are obviously more than the control. For other treatments, the dry weights of stubble do not differ from the control which corresponds to the yield (full grain weight) For the weight of grain blighted of the gypsum usage at 150, 200, 350, 400 and 450 kg/rai are 20.28, 19.14, 18.51, 17.21 and 18.15 g/m2 respectively. There is no significant difference in untreated gypsum given the dry weight of stubble as 20.82 g/m2. The ears of rice in gypsum usage at 150, 200, 350, 400, and 450 kg/rai are 145.88, 146.25, 151.13, 153.38 and 151.88 ear/m2 respectively, but not different in the control given the ears of rice as 136.88 ear/m2. By counting weight of 1,000 seeds of gypsum usage 150, 200, 350, 400 and 450 kg/rai, they give 24.36, 24.40, 24.46, 25.57 and24.82 g/m2 respectively, however, there is not different inthe control given 23.75 g/m2 which corresponds to the yield. (Full grain weight)
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ดินเค็มน้อย
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาความต้องการธาตุอาหารรองแคลเซียมและกำมะถันจากยิปซั่มของข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในดินเค็มน้อยระดับไร่นาของพื้นที่ลุ่มน้ำลำสะแทค
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2559
การตอบสนองของความหอมและผลผลิตของข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในชุดดินบางชุดดินในทุ่งกุลาร้องไห้ การจัดการดินเค็มในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา การเปลี่ยนแปลงการแพร่กระจายคราบเกลือบนผิวดินหลังจากการพัฒนา ดินเค็มแบบบูรณาการในพื้นที่ ตำบลด่านช้าง ตำบลขุนทอง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา การประยุกต์ใช้จุลินทรีย์สำหรับพืชปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันและผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในพื้นที่ดินเค็มน้อย การศึกษาอิทธิพลของระดับความเปรี้ยวในดินต่อการผลิตสารหอมและคุณภาพของข้าวขาวดอกมะลิ 105 การศึกษาการจัดการน้ำระดับไร่นา ในพืชไร่เศรษฐกิจ ผลของการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพ แกลบ และพืชปุ๋ยสดบางชนิดร่วมกับยิปซั่มต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าวในพื้นที่ดินเค็ม การศึกษาอิทธิพลของดินเค็มต่อการผลิตสารสร้างความหอมในข้าวหอมมะลิ และคุณภาพของข้าวขาวดอกมะลิ 105 การประเมินรอบการให้น้ำระดับไร่นา โดยอาศัยสมบัติทางกายภาพของดิน ผลของปุ๋ยชีวภาพร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ ต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในพื้นที่ดินเค็ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก