สืบค้นงานวิจัย
อิทธิพลของพืชร่วมระบบนิเวศนาข้าวต่ออการดึงดูดและเป็นแหล่งอาหารให้กับตัวห้ํามวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis Reuter) ศัตรูธรรมชาติที่สําคัญของเพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล (Nilaparvata lugens Stål)
อาจารย์ดร.นริศรา ปิยะแสงทอง - สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
ชื่อเรื่อง: อิทธิพลของพืชร่วมระบบนิเวศนาข้าวต่ออการดึงดูดและเป็นแหล่งอาหารให้กับตัวห้ํามวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis Reuter) ศัตรูธรรมชาติที่สําคัญของเพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล (Nilaparvata lugens Stål)
ชื่อเรื่อง (EN): Influences of Insectary Plants in Paddy Field on the Attraction and Longevity of Cyrtorhinus lividipennis Reuter (Hemiptera: Miridae), an Important Predator of Brown Planthopper Nilaparvata lugens Stål (Homoptera: Delphacidae)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: อาจารย์ดร.นริศรา ปิยะแสงทอง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Narisara Piyasaengthong, Ph.D.
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
บทคัดย่อ: การศึกษาเกี่ยวกับอิทธิพลของพืชดอกร่วมระบบในแปลงนา ต่อการดึงดูดและเป็นแหล่องอาหารให้กับ มวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus livipennis Reuter) ศัตรูธรรมชาติที่สำคัญของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (Nilaparvata lugens Stal) การดำเนินงานแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การศึกษาความหลากชนิดของ พันธุ์พืชร่วมระบบ (บนคันนา พื้นที่โดยรอบแปลงนา รวมไปถึงบริเวณที่อยู่อาศัยของเกษตรกรกรใกล้แปลงนา) และ เก็บตัวอย่างแมลงจากพืชแต่ละชนิดที่พบ เพื่อบันทึกข้อมูลชนิดของพืชที่พบมวนเขียวดูดไข่บนพืชนั้นๆ ในพื้นที่ทำ นาจังหวัดสุพรรณบุรี ผลการดำเนินงานพบว่า ระบบการปลูกข้าวร่วมกับวัชพืชริมแปลงมีจำนวนแมลงศัตรูพืช และศัตรูธรรมชาติภายในแปลงน้อยกว่าริมแปลง ตรงกันข้ามกับแปลงที่มีการป้องกันกำจัดวัชพืชพืชริมคันนา ออกทั้งหมดจะมีจำนวนแมลงศัตรูพืชและศัตรูธรรรมชาติในแปลงมากกว่าริมแปลง นอกจากนี้พบมวนเขียว ดูดไข่ในแปลงที่มีความหลากชนิดของพืชร่วมระบบมากทั้งภายในแปลงและริมแปลง ส่วนที่ 2 การศึกษา อิทธิพลของกลิ่นจากดอกไม้ 6 ชนิด คือ ดอกทองอุไร (Tecoma stons) ดอกดาวเรือง (Togetes erecta) ดอก กระดุมทอง (Sphogneticola triloboto) ดอกตี นตุ๊กแก (Tridaxprocumbens) ดอกบานานชื่น (Zinnio violoceo) และดอกบานชื่นหนู (Zinnio angustfo) ในการดึงดูดมวนเขียวดูดไข่ และผลของน้ำหวานจาก ดอกไม้ 4 ชนิด คือ ดอกทองอุไร ดอกดาวเรือง ดอกกระดุมทอง ดอกตีนตุ๊กแก ต่อความยาวนานในการมีชีวิต อยู่ของตัวเต็มวัยมวนเขียวดูดไข่ ผลการวิจัยพบว่า กลิ่นของดอกทองอุไร ดอกดาวเรือง ดอกกระดุมทอง มี อิทธิพลในการดึงดูดมวนเขียวดูดไข่ระยะตัวเต็มวัยในสภาพห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้ ดอกทองอุไรและดอก ดาวเรือง ยังสามารถยืดอายุมวนเขียวดูดไข่ได้ยาวนานมากเทียบเท่ากับการให้สำลีเปียกและน้ำผึ้งความเข้มข้น 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเป็นอาหารแก่มวนเชียวดูดไข่ และส่วนที่ 3 การวิเคราะห์กลิ่นของดอกไม้ 4 ชนิด (ดอกทองอุไร ดอกดาวเรือง ดอกกระดุมทอง และดอกตีนตุ๊กแก) โดยใช้เทคนิค GC/MS ผลการวิเคราะห์กลิ่นพบว่า มีองค์ประกอบของสารเคมีหลายชนิด เช่น Alpha-pinene 3-carene และ D-limonene ซึ่งเป็นสารเคมีที่พบได้ในน้ำมันหอมระเหยที่ผลิตจากพืช จึงจำเป็นต้องมีการทดลองทางพฤติกรรมแมลงเพิ่มเติม เพื่อยืนยันและคัดเลือก สารเคมีที่สามารถดึงดูดมวนเขียวดูดไข่ได้
บทคัดย่อ (EN): The focus of this research project was to study the influences of insectary plants in paddy field on the attraction and longevity of Cyrtorhinus lividipennis Reuter (Hemiptera: Miridae), an important predator of brown planthopper Nilaparvata lugens (Stål) (Homoptera: Delphacidae). The processes were separated in 3 main parts. The first part was to study the diversity of insects (pests and natural enemies) and plants, which naturally grew or were planted by farmers inside and on the edge of the paddy field in Supanburi province. The observationreports indicated that numbers of insect pests and their natural enemies found inside paddy fields were less than numbers found on the edges of the paddy field in the case of mixed intercropping (e.g. weeds, fruit plants, vegetables) on bunds. Furthermore, in the system of mixed intercropping, the numbers of C. lividipennis found in both areas, inside and on the edges of the paddy field, were greater than found in the system of monocropping (only rice). The second part was to examine the influences of floral scents of six species; Tecoma stans, Tagetes erecta, Sphagneticola trilobata, Tridax procumbens, Zinnia violacea and Zinnia angustifolia on the attraction of C. lividipennis adults and floral nectars of four species; T. stans, T. erecta, S. trilobata, and T. procumbens on the longevity of C. lividipennis adults. The recent results showed that the scents of T. stans, T. erecta, S. trilobata could significantly attract both male and female adults in laboratory conditions. In addition, T. stans and T. erecta could also enhance the longevity of C. lividipennis adults. The longevity of some adults was more than26 days as same as the longevity of adults fed on 100% honey solution. The third part was to analyze the floral scents of four species; T. stans, T. erecta, S. trilobata, and T. procumbens by GC/MS technique. The profiles of chemical analysis showed the various chemicals found in floral scents such as alpha-pinene, 3- carene and D-limonene, which are chemicals found in plant essential oils. Further experiments of insect behaviors are needed to confirm the chemical attractants of these plant speciesThe focus of this research project was to study the influences of insectary plants in paddy field on the attraction and longevity of Cyrtorhinus lividipennis Reuter (Hemiptera: Miridae), an important predator of brown planthopper Nilaparvata lugens (Stål) (Homoptera: Delphacidae). The processes were separated in 3 main parts. The first part was to study the diversity of insects (pests and natural enemies) and plants, which naturally grew or were planted by farmers inside and on the edge of the paddy field in Supanburi province. The observationreports indicated that numbers of insect pests and their natural enemies found inside paddy fields were less than numbers found on the edges of the paddy field in the case of mixed intercropping (e.g. weeds, fruit plants, vegetables) on bunds. Furthermore, in the system of mixed intercropping, the numbers of C. lividipennis found in both areas, inside and on the edges of the paddy field, were greater than found in the system of monocropping (only rice). The second part was to examine the influences of floral scents of six species; Tecoma stans, Tagetes erecta, Sphagneticola trilobata, Tridax procumbens, Zinnia violacea and Zinnia angustifolia on the attraction of C. lividipennis adults and floral nectars of four species; T. stans, T. erecta, S. trilobata, and T. procumbens on the longevity of C. lividipennis adults. The recent results showed that the scents of T. stans, T. erecta, S. trilobata could significantly attract both male and female adults in laboratory conditions. In addition, T. stans and T. erecta could also enhance the longevity of C. lividipennis adults. The longevity of some adults was more than26 days as same as the longevity of adults fed on 100% honey solution. The third part was to analyze the floral scents of four species; T. stans, T. erecta, S. trilobata, and T. procumbens by GC/MS technique. The profiles of chemical analysis showed the various chemicals found in floral scents such as alpha-pinene, 3- carene and D-limonene, which are chemicals found in plant essential oils. Further experiments of insect behaviors are needed to confirm the chemical attractants of these plant species.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
คำสำคัญ: ความยืนยาวของอายุ
คำสำคัญ (EN): longevity
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

อาจารย์ดร.นริศรา ปิยะแสงทอง. "อิทธิพลของพืชร่วมระบบนิเวศนาข้าวต่ออการดึงดูดและเป็นแหล่งอาหารให้กับตัวห้ํามวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis Reuter) ศัตรูธรรมชาติที่สําคัญของเพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล (Nilaparvata lugens Stål)Influences of Insectary Plants in Paddy Field on the Attraction and Longevity of Cyrtorhinus lividipennis Reuter (Hemiptera: Miridae), an Important Predator of Brown Planthopper Nilaparvata lugens Stål (Homoptera: Delphacidae)". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) . 2562

อาจารย์ดร.นริศรา ปิยะแสงทอง. "อิทธิพลของพืชร่วมระบบนิเวศนาข้าวต่ออการดึงดูดและเป็นแหล่งอาหารให้กับตัวห้ํามวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis Reuter) ศัตรูธรรมชาติที่สําคัญของเพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล (Nilaparvata lugens Stål)Influences of Insectary Plants in Paddy Field on the Attraction and Longevity of Cyrtorhinus lividipennis Reuter (Hemiptera: Miridae), an Important Predator of Brown Planthopper Nilaparvata lugens Stål (Homoptera: Delphacidae)". สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) . 2562. Print.



TARR Wordcloud:
อิทธิพลของพืชร่วมระบบนิเวศนาข้าวต่ออการดึงดูดและเป็นแหล่งอาหารให้กับตัวห้ํามวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis Reuter) ศัตรูธรรมชาติที่สําคัญของเพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล (Nilaparvata lugens Stål)
อาจารย์ดร.นริศรา ปิยะแสงทอง
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)
2562
อิทธิพลของพันธุ์ข้าวต่อการดึงดูดตัวห้ำมวนเขียวดูดไข่ (Cyrtorhinus lividipennis Reuter) และแตนเบียนไข่ (Anagrus optabilis (Perkins)) ศัตรูธรรมชาติของเพลี้ยกระโดดสีน้ําตาล (Nilaparvata lugens (Stål)) การพัฒนาดีเอ็นเอไบโอเซนเซอร์เพื่อการตรวจหาเชื้อลิสทีเรียในผลิตภัณฑ์อาหาร การพัฒนาดีเอ็นเอไบโอเซนเซอร์เพื่อการตรวจหาเชื้อซัลโมเนลลาในผลิตภัณฑ์อาหาร การพัฒนาวิธีการคัดเลือกพันธุ์ข้าวต้านทานและการศึกษาพฤติกรรมการกินของเพลี้ยกระโดดสีน้้าตาล Nilaparvata lugens (Stål) และเพลี้ยกระโดดหลังขาว Sogatella furcifera (Horvath) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศร่วมกับการอนุรักษ์ดินและน้ําเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ําสําหรับวางแผนปลูกข้าวในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งของจังหวัดขอนแก่น นครสวรรค์ และน่าน โครงการพัฒนาระบบอาหารของประเทศไทย: การวางภาพกรอบระบบอาหารและการวิเคราะห์และพัฒนาระบบอาหารส่วน “การค้า การกระจายและการบริการอาหาร” การพัฒนาระบบอาหาร (Food system) ของประเทศไทย : ระบบการผลิตสินค้าเกษตรและการแปรรูปอาหาร การยกระดับคุณภาพข้าวและการบริหารจัดการระบบการผลิตข้าวแบบครบวงจรในระดับกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ การเลี้ยงสาหร่ายสีเขียวแกมน้ําเงินน้ําเค็ม Spirulina เชิงพาณิชย์ สําหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ผสมไฟโคไซยานินเพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล การออกแบบลักษณะเนื้อสัมผัสผลิตภัณฑ์อาหารจากข้าวไทยโดยใช้โครงสร้างโมเลกุลขององค์ประกอบทางเคมีในข้าว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair