สืบค้นงานวิจัย
การจัดการความรู้ และพัฒนารูปแบบการถ่ายทอด ภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านในการพัฒนาอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง:กรณีศึกษานวดแผนโบราณ หมู่ที่ 3 ตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
สายทิตย์ ยะฟู - มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
ชื่อเรื่อง: การจัดการความรู้ และพัฒนารูปแบบการถ่ายทอด ภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านในการพัฒนาอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง:กรณีศึกษานวดแผนโบราณ หมู่ที่ 3 ตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
ชื่อเรื่อง (EN): Knowledge Management and Development Style Local Wisdom in Development Occupation to Ways on Self-Sufficient Economy : Nadpanboran M.3 T.Khogdai A.Paisale Nakhonsawan Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สายทิตย์ ยะฟู
บทคัดย่อ: งานวิจัยเรื่อง การจัดการความรู้และพัฒนารูปแบบการถ่ายทอดภูมิปัญญาของปราชญ์ ชาวบ้าน ในการพัฒนาอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง: ณรณีศึกษานวดแผนโบราณ หมู่ที่ 3ตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1.เพื่อศึกษาบริบท และองค์ความรู้ของปราชญ์ชาวบ้านในท้องถิ่นร่วมกันระหว่างชุมชนจังหวัดนครสวรรค์ 2. เพื่อ จัดการความรู้ของปราชญ์ชาวบ้านในการพัฒนาอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัด นครสวรรค์ 3.เพื่อพัฒนารูปแบบการถ่ายทอดภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านในการพัฒนา อาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดนครสวรรค์ โดยการศึกษาครั้งนี้ใช้กระบวนการศึกษา ด้วยระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research Methodology) โดยมีเทคนิควิจัย หลายรูปแบบ เช่น การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ เอกสาร หนังสือ และภาพถ่าย การสัมภาษณ์แบบ ปลายเปิด สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ การสังเกตแบบมีส่วนร่วมในฐานะผู้สังเกต การสัมภาษณ์ แบบเจาะลึก การจัดกระทำข้อมูลใช้การตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ครบถ้วนของ ข้อมูลด้วยการตรวจสอบข้อมูลแบบสามเส้า (Tiangulation) โดยการตรวจสอบสามเส้าด้านข้อมูล (Data Trangulation) ซึ่งเป็นการตรวจสอบความน่าเชื่อถือและความสมบูรณ์ครบถ้วนของข้อมูล จากแหล่งที่ตรงกัน ได้แก่ แหล่งเวลา สถานที่ และบุคคล และการเชื่อมโยงข้อมูลที่จัดระบบและ จำแนกประเภทของข้อมูล มาสร้างความสัมพันธ์ ผลจากการศึกษาครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการก่อตั้งกลุ่มนวดแผนโบราณนั้น แต่เดิมที่ยังไม่ ก่อตั้งกลุ่ม ก็มีนางแป้ง มากบุญ ที่เป็นหมอนวดแผนโบราณ ทำการรับจ้างนวดโดยทั่วไป ป้าแป้งได้ไปเรียนหมอนวดมาจากวัดโพธิ์ที่กรุงเทพฯมาจนสำเร็จเรียนจบก็ได้ไปอยู่หลาย ๆ ที่ มากมายต่างประเทศป้าแป้งก็เคยไปอยู่แต่สุดท้ายแล้วก็ได้กลับมาตั้งหลักปักฐานอยู่ที่บ้านเกิด มาอยู่ใหม่ ๆ ก็เริ่มนวดตอนนั้นป้าแป้งก็เป็นหมอนวดอยู่คนเดียวแล้วต่อมาก็มีคนอยากมาเรียน วิชานวดแผนโบราณจากป้าแป้ง พอมีคนมาเรียนมาก ๆ ก็ได้ออกตามงานต่าง ๆ จนมีคนรู้จัก มากขึ้นจึงทำการก่อตั้งกลุ่มขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2548 โดยชุมชนหมู่ที่ 5 ตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์ จำนวนสมาชิกครั้งแรกมีจำนวน 15 คน มีการลงทุนหุ้น หุ้น ละ 50 บาท สมาชิกลงหุ้นคนละไม่เกิน 5 หุ้น เป็นเงินลงทุนครั้งแรก 2250 บาท ด้วยกลุ่ม โครงการนวดแผนโบราณ ได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มโครงการนวดแผนโบราณขึ้นโดยมี นางแป้ง มากบุญเป็นประธานกรรมการ นายจันทร์ ตันถา เป็นรองประธานและนางอำภา มากบุญ เป็น กรรมการและเลขานุการกรรมการ โดยการดำเนินงานของกลุ่มนวดแผนโบราณก็มีปัญหาอยู่บ้างเหมือนกับกลุ่มที่ดำเนินงาน ทั่ว ๆ ไป แต่การดำเนินงานของกลุ่มนวดแผนโบราณก็ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มาได้โดยเน้นการ บริหารงานที่โปร่งใสและยุติธรรม ผลจากการจัดการความรู้ พบว่า การนวดแผนโบราณของกลุ่มนวดแผนโบราณอำเภอ ไพศาลี มีการนวดอยู่ 2 ประเภทคือ การนวดทั่วไปหรือเรียกว่าการนวดแบบเชลยศักดิ์และการ นวดผ่าเท้า ซึ่งการนวดแบบเชลยศักดิ์มีมากมายหลายรูปแบบแล้วแต่ว่าใครจะประยุกต์แบบไดก็ แล้วแต่สำนักนั้น ๆ หรือท้องถิ่นนั้น 1 ซึ่งการนวดแผนโบราณของกลุ่มนวดแผนโบราณ อำเภอไพศาลีนั้นสามารถสรุปได้เป็นที่หลัก ๆ ที่ใช้ในการนวดแผนโบราณทั้งสิ้น 32 ทำ การพัฒนารูปแบบการถ่ายทอดผู้วิจัยได้ดำเนินการโดย จัดสถานที่ให้เป็นที่เผยแพร่ องค์ความรู้ของภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยทำการเสริมจากของเดิมที่มีอยู่ก่อนหน้า ให้มีความเป็น ระบบและขั้นตอนมากขึ้น ซึ่งผลของการดำเนิน พบว่า หลังจากการดำเนินการสนทนากลุ่มถึง จุดแข็งจุดอ่อน ขั้นตอนและกระบวนการในการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของการนวดแผน โบราณทำให้เกิดข้อสรุปได้ว่า จะใช้ศูนย์แห่งนี้เป็นหลักในการถ่ายอดภูมิปัญญาท้องถิ่นและอีก ส่วนหนึ่งจะใช้ในลักษณะการถ่ายทอดที่เป็นตัวบุคคล ซึ่งการถ่ายทอดโดยใช้ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ก็คือ จะต้องมีการจัดสถานที่ให้เหมาะแก่การเรียนรู้ มีขั้นตอนในการดำเนินงาน มีกฎระเบียบข้อตกลง และมีผู้ปฏิบัติงาน โดยผู้ปฏิบัติงานและรับผิดชอบนั้นส่วนใหญ่จะเป็นสมาชิกในกลุ่ม จากการศึกษาในภาพรวมทั้งหมด ทำให้ทราบว่า ป้าแป้งหรือหมอแป้งนั้นมีความภูมิใจ เป็นอย่างยิ่งในการประกอบอาชีพการนวดแผนโบราณ และถึงแม้ในปัจจุบันสังคมรอบข้างจะให้ ความสำคัญน้อยลงเพราะแพทย์แผนปัจจุบันเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในปัจจุบันและมีความน่าเชื่อถือ มากยิ่งกว่า แต่ถึงอย่างไร ป้าแป้งก็ยังคงพยายามรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่นในเรื่องของการนวด แผนโบราณให้คงอยู่ และเป็นการรักษาทาง หนึ่งให้กับบุคลคลที่เชื่อมั่นในวิถีทางของการรักษาด้วยวิธี นี้อยู่ แต่มีคำถามที่ตามมาว่าเมื่อสิ้นยุคของป้าแป้งหรือหมอแป้ง แล้ว ใคร? จะเป็นผู้สืบทอดและ รักษาองค์ความรู้ของการนวดแผนโบราณแห่งอำเภอไพศาลีเอาไว้ ? แล้วการนวดจะดำเนินการ ต่อไปได้หรือไม่ ? และจะยังคงอยู่ในสังคมแบบใด ?
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
คำสำคัญ: การถ่ายทอดภูมิปัญญา
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการความรู้ และพัฒนารูปแบบการถ่ายทอด ภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านในการพัฒนาอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง:กรณีศึกษานวดแผนโบราณ หมู่ที่ 3 ตำบลโคกเดื่อ อำเภอไพศาลี จังหวัดนครสวรรค์
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
30 กันยายน 2551
การจัดการความรู้ และพัฒนารูปแบบการถ่ายทอดภูมิปัญญาของปราชญ์ชาวบ้านในการพัฒนาอาชีพตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง:กรณีศึกษารากบัวเชื่อม เทศบาลตำบลทับกฤช อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ บทบาทของ IT ต่อการจัดการความรู้ เครื่องมือในการจัดการความรู้ ประโยชน์ของการจัดการความรู้ การศึกษาการพัฒนาการประกอบอาชีพเลี้ยงโคขุนของเกษตรกร ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง โดยการใช้การจัดการความรู้ ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ อะไรคือกลยุทธ์ของคุณในการจัดการความรู้ กลยุทธ์ของ สวทช. ในส่วนของการจัดการความรู้ บุคคลที่มีส่วนร่วมในการจัดการความรู้ คุณธรรม 8 ประการของการจัดการความรู้ เครื่องมือพื้นฐานการจัดการความรู้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก