สืบค้นงานวิจัย
การประยุกต์หลักการจัดการธุรกิจหอมแดงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้วยรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
กันต์ อินทุวงศ์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
ชื่อเรื่อง: การประยุกต์หลักการจัดการธุรกิจหอมแดงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้วยรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
ชื่อเรื่อง (EN): The Applicability of Principles of Shallot’s Business Management of Agriculture Groups through Technological Cooperation of Community to Develop the Constant Quality of Lives
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กันต์ อินทุวงศ์
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยการประยุกต์หลักการจัดการธุรกิจหอมแดงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้วยรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนซึ่งโดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ เกษตรกรที่ปลูกหอมแดงใน 3 ตำบลได้แก่ ตำบลฝายหลวง ตำบลชัยชุมพล ตำบลศรีพนมมาศ ในอำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ มีประชาการทั้งหมด 16,656 คน โดยวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบอาศัยความน่าจะเป็น (Probability Sampling) ได้จำนวน 332 ราย ด้วยวิธีการกำหนดสัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิเท่ากัน (Proportional to Size) และในการจัดกิจกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีใช้วิธีการเลือกสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ( Purposive Sampling ) จำนวน 20 คน และการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าร้อยละ, ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า จากการวิจัยประยุกต์หลักการจัดการธุรกิจหอมแดงซึ่งมีกิจกรรมที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดอุตรดิตถ์ซึ่งกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับข้อมูลและผ่านการนำเสนอของโครงการวิจัยและพัฒนาจะสามารถวิเคราะห์และสามารถทราบหลักการของข้อมูลของธุรกิจหอมแดง 1. จากการสำรวจและประยุกต์ใช้ระบบฐานข้อมูลมีความจำเป็นและเป็นองค์ความรู้ที่คงอยู่อย่างถาวร กลุ่มเกษตรกรสามารถเข้าไปอ่านข้อมูลและนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้งานเพื่อเพิ่มผลผลิตและเพิ่มรายได้ ช่วยลดต้นทุนในการผลิต เพิ่มช่องทางในการจัดจำหน่าย รวมไปถึงมีบริการสังคมออนไลน์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกลุ่มเกษตรกรต่างๆ หรือผู้ที่สนใจในการจัดจำหน่ายหอมแดง 2. ปัจจัยที่เอื้อต่อการพัฒนาด้านการจัดการธุรกิจหอมแดงของกลุ่มส่งเสริมอาชีพเกษตรกรชุมชนมีทั้งหมด 8 ด้าน ซึ่งผลการวิเคราะห์ พบว่า เกษตรกรมีระดับการปฏิบัติงานในการจัดการจัดการธุรกิจรวมทุกด้านอยู่ในระดับปานกลางและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านด้านที่มีปัจจัยเอื้อต่อการจัดการธุรกิจหอมแดงได้แก่ ด้านการจัดการเคลื่อนย้ายสินค้า รองลงมาเป็น ด้านการจัดการคลังสินค้าและปัจจัยที่เกษตรกรวิเคราะห์เป็นอันดับสุดท้ายได้แก่ ด้านการจัดการสารสนเทศ 3. ศักยภาพ จุดอ่อน จุดแข็ง ในการดำเนินการจัดการธุรกิจหอมแดง ซึ่งการผลิตหอมแดงในจังหวัดอุตรดิตถ์มีพื้นที่ปลูกหอมแดงมากที่สุดในอำเภอลับแลโดยพื้นที่เพาะปลูกหอมแดงทั้งหมดเป็นของตนเองซึ่งส่วนใหญ่พันธุ์ของหอมแดงเป็นพันธุ์พื้นเมืองโดยกลุ่มเกษตรกรใช้วิธีการขยายพันธุ์ด้วยตนองและการปลูกยังเป็นพื้นที่ของตนเองอีกด้วยจึงทำให้ไม่สิ้นเปลืองเงินลงทุนในการเช่าที่ดินของผู้อื่นสำหรับขั้นตอนการปลูกและการดูแลรักษาหอมแดง เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้เครื่องทุ่นแรงที่สามารถหาซื้อได้ง่ายในท้องถิ่นและมีราคาไม่สูงนัก ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่จะมีการจ้างคนงานมาช่วยในการปลูกและดูแลรักษาหอมแดงแทนการดูแลรักษาด้วยตนเองซึงถือได้ว่าเกษตรกรมีศักยภาพในการปลูกหอมแดงด้วยตนเอง 4. ระบบการจัดการธุรกิจหอมแดงมีการจัดโครงการเพื่อแรกเปลี่ยนเวทีเพื่อเพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากการพัฒนาการประกอบธุรกิจและองค์ความรู้ในด้านวิชาการเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและชุมชนยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดโครงการโดยมีแนวคิดในการลดต้นทุน การแปรรูป การนำหลักการของการจัดการธุรกิจในแต่ละด้าน โดยวิเคราะห์ในจุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และ อุปสรรค์และการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการช่วยเพิ่มผลิตมาใช้ว่าเป็นการดีที่มีการวิจัยมาช่วยซึ่งในครั้งนี้นั้นได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการจัดซึ่งในสถานที่ในการจัดโครงการนั้นมีความร่วมมือในการเผยแพร่งานวิจัยและจัดนิทรรศการซึ่งแสดงให้เห็นการเกิดความร่วมมือระหว่างภาควิชาการกับภาคองค์กรชุมชนในการที่จะร่วมกันพัฒนางานวิจัยที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความเข็มแข็งของเศรษฐกิจชุมชน 5. การสร้างเครื่องจักรต้นแบบโดยเมื่อเปรียบเทียบ การผสมเครื่องกับมือนั้นพบว่า การฟุ้งกระจายของเครื่องน้อยมากหรือแทบไม่มีทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว และเกิดความปลอดภัยในการผสม ส่วนการใช้มือผสมนั้นมีการฟุ้งกระจายมากทำให้เกิดความล่าช้าในการผสม และที่สำคัญอาจส่งผลกระต่อสุขภาพส่วนสภาพความช้ำของหอมนั้นเหมือนกันคือมีค่าความช้ำน้อยมาก และเมื่อใช้เครื่องผสมหอมที่ 25 กิโลกรัมในเวลา 5 ชั่วโมงได้ 1500 กิโลกรัมต่อวันเสียค่าไฟที่ 3.97 บาท และ 45000 กิโลกรัมต่อเดือนเสียค่าไฟที่ 23.82 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับใช้คนผสม 1 วันได้ 2000 กิโลกรัม เสียค่าใช้จ่าย 200 บาทดังนั้น เครื่องผสมสารเคมีจึงมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าการผสมด้วยมือของเกษตรกร ซึ่งได้นำเทคโนโลยีไปจัดจัดโครงการการถ่ายทอดเทคโนโลยีมีโดยแบบทดสอบความรู้ความเข้าใจก่อน – หลังซึ่งมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ เท่ากับ 72.05 เปอร์เซ็นต์เมื่อพิจารณาในภาพรวมในรายละเอียดส่วนใหญ่ของการจัดโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมอยู่ในระดับมาก 6. การทดลองเป็นแนวทางการวิจัยและการจัดการหอมแดง ของกลุ่มเกษตรกรชุมชน เป็นรูปการวิจัยแบบมีส่วนร่วมในการจัดการธุรกิจหอมแดงซึ่งมีกิจกรรมที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดอุตรดิตถ์ เช่น ระบบฐานข้อมูล, การจัดการการผลิต, การแปรรูป, การเก็บเกี่ยว, การดูแลรักษา, การป้องกันกำจัดโรคและแมลง, การเพาะปลูก, การดูแลรักษาหลังการปลูก, การใช้ปุ๋ยและสารเคมี, ระบบชลประทาน, การบำรุงรักษาดิน, การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่เหมาะสม ซึ่งการมีส่วนร่วมของเกษตรกรทำให้เกิดความร่วมมือและเป็นแนวปฏิบัติในการจัดการธุรกิจหอมแดง ซึ่งเมื่อนำผลงานวิจัยเชิงทดลองเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาที่สามารถวิจัยและสำรวจแล้วนำข้อมูลไปใช้งานได้จริงซึ่งจะควบคู่ไปกับการผลิตของหอมแดงซึ่งการทดลองนำแนวทางการวิจัยและพัฒนาในครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบมีส่วนร่วมของชุมชนชาวเกษตรกรผู้ปลูกหอมแดงซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของการวิจัยโดยการวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบมีส่วนร่วมแต่ก็ยังมีจุดอ่อนที่ต้องให้ภาครัฐและเอกชนเข้ามามีบทบาทในการพัฒนา เพื่อพัฒนากระบวนการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรชุมชนให้เข็มแข็ง รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆ ในการให้ความรู้ในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์และอยากให้ช่วยดูแลเกี่ยวกับราคาของหอมแดงและมีการจัดการฝึกอบรมอย่างเป็นประจำเพื่อให้เกษตรกรมีความเข้าใจ
บทคัดย่อ (EN): This study involved the application of the red onion business management of a community enterprise group. This was in the form of participatory technology transfer for sustainable quality of life development. The population in this study consisted of 16,656 red onion growers in Fai Luang, Chai Chumpon, and Sri Panommard sub-districts of Lab Lae district, Uttaradit province. The sample groups in this study were 332 red onion growers obtained by probability sampling (proportional to size) and 20 red onion growers obtained by purposive sampling. Data were analyzed by using descriptive statistics. Percentage, mean, and standard deviation were used the statistical treatment. Result of the study revealed the following: The red onion business management principles had activities which were consistent with the economic development plan of Uttaradit province. The red onion growers group that had obtained data and passed the proposal of the research and development project could analyze and understand principles of red onion business data. 1. Based on a survey and application of data base system, it was essential which was stable body of knowledge. The red onion growers were able to access data and used it for an increase in yields and income. Besides, it helped reduce an increase in yields and incomes. Besides, it helped reduce production costs and increase distribution channel. There was online social service for knowledge exchange among various groups of red onion growers or interested persons. 2. There were 8 aspects of factors contributing to the development of red onion business management of the community farmer career promotion group. It was found that the red onion business had a moderate level of the red onion business management in all aspects. Factors contributing to the red onion business management were goods transportation management and warehouse management, respectively. It was found that information management was ranked the lowest. 3. Potential, weaknesses, and strengths on the red onion business management of the red onion growers in Uttaradit province. It was found that red onion was grown in Lab Lae district most. The red onion growers there had their own cultivation land. The red onion grown there was a local varieties propagated by red onion growers. For steps of red onion growing and care-taking, most of the red onion growers hired workforce to grow and take care red onion. It could be said that the red onion growers there had potential in red onion growing. 4. The system of red onion business management had an idea exchange venue project. It concerned with product arisen from the development of red onion business management and body of academic knowledge on technology using. Besides, the community expressed opinions about project facilitation with the concepts on cost reduction, progressing and application of principles of business management. SWOT analysis was conducted and technology was used for an increase of yields. This study was coordinated by many agencies particularly on the place for project management. Research paper was disseminated and exhibition was held with the coordination of the community organization sector. 5. Construction of a machine model. A comparison between machine blending and hand blending was done and found that there was very little permeation in the machine. This made blending is convenient and fast. In contrast, big permeation was found in hand blending, resulting in late blending and hazardous to health. In addition, very few bruised red onions were found in the machine. The machine blended 25 kg. red onion and lasted 5 hours to obtain 1,500 kg. per day. It was that the electricity charge was 3.97 baht per day. For 45,000 kg. red onion per month, the electricity charge was 23.82 baht. In contrast 1 day of hand blending could obtain 2,000 kg. red onion but workforce payment was 200 baht. Hence, the machine had less expense than hand blending. Besides, there was a Pre-test and Post-test and found that the red onion growers were progressive in leaning (72.5%). As a whole, the red onion growers had a high level of the participation in the project of participatory technology transfer. 6. The experiment was a research guideline and red onion management of the community farmers group. It was in the form of participatory research on the management of red onion business. This had activities which were consistent with the economic development plan of Uttaradit province, e.g. data base system, production management, processing, harvesting, care-taking, disease and insect prevention/control, cultivating, care-taking after growing, fertilizer and chemical using, irrigation system, soil fertility, and appropriate tool/equipment using. In fact, farmer participation resulted in coordination and could be a guideline for the management of red onion business. This participatory research of the red onion growers could be considered as the strength of this study. However, there was a weak point in which the public and private sectors were needed to play roles in the development of the process on strong community farmers’ career promotion. This included assistance of various sectors on the extension of knowledge about the development of technology and products. Importantly, the red onion growers wanted concerned agencies to help them about the price of red onion and continual training
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
คำสำคัญ: กลุ่มเกษตรชุมชนและวิสาหกิจชุมชน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

กันต์ อินทุวงศ์. "การประยุกต์หลักการจัดการธุรกิจหอมแดงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้วยรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนThe Applicability of Principles of Shallot’s Business Management of Agriculture Groups through Technological Cooperation of Community to Develop the Constant Quality of Lives". มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. 2555

กันต์ อินทุวงศ์. "การประยุกต์หลักการจัดการธุรกิจหอมแดงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้วยรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนThe Applicability of Principles of Shallot’s Business Management of Agriculture Groups through Technological Cooperation of Community to Develop the Constant Quality of Lives". มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. 2555. Print.



TARR Wordcloud:
การประยุกต์หลักการจัดการธุรกิจหอมแดงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้วยรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน
กันต์ อินทุวงศ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
30 กันยายน 2555
การส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตข้าว เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน การพัฒนาธุรกิจเกษตรอินทรีย์ในภาคตะวันออก เพื่อสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเข้มแข็งในการบริหารวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดสุรินทร์ การศึกษาแนวทางการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แนวทางพัฒนาการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรอย่างยั่งยืนแบบมีส่วนร่วมของชุมชน จังหวัดนนทบุรี การจัดการความรู้ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวฮางในจังหวัดสกลนคร การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์สีเขียวของวิสาหกิจชุมชนสู่ตลาดสากล การประยุกต์ใช้ระบบมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร ในกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชน : แกงไตปลาสำเร็จรูป การถ่ายทอดองค์ความรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่เขาซับแกงไก่สู่ชุมชน การถ่ายทอดองค์ความรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นในแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สู่ชุมชน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair