สืบค้นงานวิจัย
ปริมาณการเก็บกักคาร์บอนในสวนยางพาราบริเวณพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
Sasithorn Yoosuk - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ปริมาณการเก็บกักคาร์บอนในสวนยางพาราบริเวณพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
ชื่อเรื่อง (EN): Carbon sinks in rubber plantations of Klaeng district, Rayong province, Thailand
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sasithorn Yoosuk
บทคัดย่อ: การศึกษาปริมาณการเก็บกักคาร์บอนในสวนยางพาราบริเวณพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยองได้ดำ เนิน การระหว่างเดือน ธ.ค. 2546 - พ.ย. 2547 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินปริมาณการเก็บกักคาร์บอน ส่วนเหนือดิน, ส่วนบนผิวดิน และส่วนใต้ดินในสวนยางพาราที่แตกต่างกัน 3 ช่วงอายุ ได้แก่ ช่วงยางอ่อน, ช่วงยางที่ให้ผลผลิตนํ้ายาง และช่วงยางควรปลูกทดแทน และศึกษาความสัมพันธ์ของ อินทรียคาร์บอน ในดินกับสมบัติของดินในระดับความลึก 0-30 ซม. ปริมาณคาร์บอนส่วนเหนือดิน และส่วนใต้ดินของต้นยางพาราคิดเป็น 50% ของปริมาณมวลชีวภาพ โดยปริมาณมวลชีวภาพ ส่วนเหนือดิน (ลำ ต้น, กิ่งก้าน, ใบ), และส่วนใต้ดิน (ราก) ของต้นยางพาราประเมินด้วยสมการ อัลโลเมตริก สำ หรับนํ้ายาง, เศษซากร่วงหล่น และพืชพื้นล่างจะอบด้วยอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส จนนํ้าหนักคงที่ เพื่อนำ นํ้าหนักแห้งไปประเมินปริมาณมวลชีวภาพต่อไป จากผลการศึกษา พบว่า การปลูกสวนยางพารา 1 ไร่ ในเวลา 25 ปี จะสามารถเก็บกักคาร์บอน ในรูปมวลชีวภาพและอินทรียคาร์บอนในดินได้ 9,836.45 และ 32.14 ตันคาร์บอน ตามลำ ดับ ช่วงยาง อ่อน (0-8 ปี), ช่วงยางที่ให้ผลผลิตนํ้ายาง (8-20 ปี) และช่วงยางควรปลูกทดแทน (20-25 ปี) เก็บกัก คาร์บอนได้ 4,984.64, 4,032.36 และ 819.45 ตันคาร์บอน ตามลำ ดับ การเก็บกักคาร์บอนในรูป ของอินทรียคาร์บอนในดินได้เท่ากับ11.21, 13.12 และ 7.80 ตันคาร์บอน ตามลำ ดับ ปริมาณคาร์บอนส่วนเหนือดินในสวนยางพารา ช่วงยางอ่อน, ช่วงยางที่ให้ผลผลิตนํ้ายาง และ ช่วงควรปลูกทดแทนเท่ากับ 4.48, 11.96 และ 19.14 ตันคาร์บอน/ไร่/ปี ปริมาณคาร์บอนส่วนใต้ดิน ของช่วงอายุต่างๆ ดังกล่าวเท่ากับ 1.04, 2.18 และ 3.09 ตันคาร์บอน/ไร่/ปี และปริมาณอินทรียคาร์บอน ในดินของช่วงอายุต่างๆ ดังกล่าวเท่ากับ 3.77, 3.98, และ 4.62 ตันคาร์บอน/ไร่/ปี ปริมาณมวลชีวภาพส่วนเหนือดินจะเพิ่มขึ้นตามของต้นยางพารา แต่อัตราการเจริญเติบโตของ ต้นยางจะลดลงเมื่อโตเต็มที่และถูกเปิดกรีด ซึ่งทำ ให้ประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ของต้นยางพาราลดลงด้วย นอกจากนี้พบว่าขนาดของต้นยางพาราและปริมาณคาร์บอนมีความ สัมพันธ์กันในเชิงบวก ส่วนอินทรียคาร์บอนในดินเพิ่มขึ้นตามอายุของต้นยางพาราแต่ค่าเฉลี่ยของ ปริมาณอินทรีย คาร์บอนในดินในแต่ละช่วงอายุ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ
บทคัดย่อ (EN): s age. But the rate of growth of Para rubber tree decreased when the tree matured and was tapped. Thus the potential of CO2 sequestration would also decrease. Furthermore, the relationship between the size of tree and carbon content was positive, further decreasing the potential of CO2 sequestration. Carbon content in soil increased according to age, but the differences were not significant at any stage
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2561&obj_id=2320
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Soils
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษาปริมาณการเก็บกักคาร์บอนในสวนยางพาราบริเวณพื้นที่ อ.แกลง จ.ระยองได้ดำ เนิน การระหว่างเดือน ธ.ค. 2546 - พ.ย. 2547 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินปริมาณการเก็บกักคาร์บอน ส่วนเหนือดิน, ส่วนบนผิวดิน และส่วนใต้ดินในสวนยางพาราที่แตกต่างกัน 3 ช่วงอายุ ได้แก่ ช่วงยางอ่อน, ช่วงยางที่ให้ผลผลิตนํ้ายาง และช่วงยางควรปลูกทดแทน และศึกษาความสัมพันธ์ของ อินทรียคาร์บอน ในดินกับสมบัติของดินในระดับความลึก 0-30 ซม. ปริมาณคาร์บอนส่วนเหนือดิน และส่วนใต้ดินของต้นยางพาราคิดเป็น 50% ของปริมาณมวลชีวภาพ โดยปริมาณมวลชีวภาพ ส่วนเหนือดิน (ลำ ต้น, กิ่งก้าน, ใบ), และส่วนใต้ดิน (ราก) ของต้นยางพาราประเมินด้วยสมการ อัลโลเมตริก สำ หรับนํ้ายาง, เศษซากร่วงหล่น และพืชพื้นล่างจะอบด้วยอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียส จนนํ้าหนักคงที่ เพื่อนำ นํ้าหนักแห้งไปประเมินปริมาณมวลชีวภาพต่อไป จากผลการศึกษา พบว่า การปลูกสวนยางพารา 1 ไร่ ในเวลา 25 ปี จะสามารถเก็บกักคาร์บอน ในรูปมวลชีวภาพและอินทรียคาร์บอนในดินได้ 9,836.45 และ 32.14 ตันคาร์บอน ตามลำ ดับ ช่วงยาง อ่อน (0-8 ปี), ช่วงยางที่ให้ผลผลิตนํ้ายาง (8-20 ปี) และช่วงยางควรปลูกทดแทน (20-25 ปี) เก็บกัก คาร์บอนได้ 4,984.64, 4,032.36 และ 819.45 ตันคาร์บอน ตามลำ ดับ การเก็บกักคาร์บอนในรูป ของอินทรียคาร์บอนในดินได้เท่ากับ11.21, 13.12 และ 7.80 ตันคาร์บอน ตามลำ ดับ ปริมาณคาร์บอนส่วนเหนือดินในสวนยางพารา ช่วงยางอ่อน, ช่วงยางที่ให้ผลผลิตนํ้ายาง และ ช่วงควรปลูกทดแทนเท่ากับ 4.48, 11.96 และ 19.14 ตันคาร์บอน/ไร่/ปี ปริมาณคาร์บอนส่วนใต้ดิน ของช่วงอายุต่างๆ ดังกล่าวเท่ากับ 1.04, 2.18 และ 3.09 ตันคาร์บอน/ไร่/ปี และปริมาณอินทรียคาร์บอน ในดินของช่วงอายุต่างๆ ดังกล่าวเท่ากับ 3.77, 3.98, และ 4.62 ตันคาร์บอน/ไร่/ปี ปริมาณมวลชีวภาพส่วนเหนือดินจะเพิ่มขึ้นตามของต้นยางพารา แต่อัตราการเจริญเติบโตของ ต้นยางจะลดลงเมื่อโตเต็มที่และถูกเปิดกรีด ซึ่งทำ ให้ประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ของต้นยางพาราลดลงด้วย นอกจากนี้พบว่าขนาดของต้นยางพาราและปริมาณคาร์บอนมีความ สัมพันธ์กันในเชิงบวก ส่วนอินทรียคาร์บอนในดินเพิ่มขึ้นตามอายุของต้นยางพาราแต่ค่าเฉลี่ยของ ปริมาณอินทรีย คาร์บอนในดินในแต่ละช่วงอายุ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ปริมาณการเก็บกักคาร์บอนในสวนยางพาราบริเวณพื้นที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
Sasithorn Yoosuk
มหาวิทยาลัยมหิดล
2548
ปริมาณการสะสมคาร์บอนในมันสำปะหลังและยางพารา จังหวัดระยอง การศึกษาปริมาณคาร์บอนในดินของป่าเบญจพรรณและสวนป่าสัก การครอบครองพื้นที่ของพรมทะเล (Protopalythoa sp.) บนแนวปะการังบริเวณเกาะมันในจังหวัดระยอง ผลของปุ๋ยผสมไนโตรเจนต่อการกักเก็บคาร์บอนของข้าวไม่ไวต่อแสงบางพันธุ์ในนาข้าว จังหวัดปทุมธานี การศึกษาดินและน้ำในบริเวณพื้นที่ลุ่มของจังหวัดพิจิตร การกระจายของคาร์บอนในพื้นที่ป่าชายเลนอ่าวทุ่งคา จังหวัดชุมพร การใช้ประโยชน์ข่าวสารการเกษตรจากสำนักงานกองทุนสงเคราะห์ การทำสวนยางของชาวสวนยางพาราในจังหวัดลำปาง การศึกษาหาดัชนีการเก็บเกี่ยวลำไยพันธุ์ดอในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่โดยใช้อายุผลและปริมาณความร้อนสะสม การตรวจหาแก๊สในชั้นหินทรายกักเก็บ โดยใช้การวิเคราะห์ลักษณะประจำการแปรผันของแอมพลิจูดกับระยะทางในพื้นที่หนึ่งของแอ่งมาเลย พื้นที่ดอกไม้
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก