สืบค้นงานวิจัย
ผลของขนาดของแรงดูดสูญญากาศต่อการเก็บโอโอไซต์ ด้วยเครื่องมือคลื่นเสียงความถี่สูงสอดผ่านทางช่องคลอดจากกระบือปลักไทย : รายงานผลการวิจัย
จินดา สิงห์ลอ - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชื่อเรื่อง: ผลของขนาดของแรงดูดสูญญากาศต่อการเก็บโอโอไซต์ ด้วยเครื่องมือคลื่นเสียงความถี่สูงสอดผ่านทางช่องคลอดจากกระบือปลักไทย : รายงานผลการวิจัย
ชื่อเรื่อง (EN): The effect of aspiration vacumm after transvaginal ultrasound-guided oocyte retrieval from Thao swamp buffalo (Bubalus bub
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จินดา สิงห์ลอ
บทคัดย่อ: จุดประสงค์ของงานวิจัยเพื่อหาระดับแรงดูดสูญญากาศที่เหมาะสมในการเก็บโอโอๆซด์ด้วยวิธีการใช้เครื่องมือคลื่นเสียงความถี่สูงสอดผ่านทางช่องคลอดในกระบือปลักไทย โดยทำศึกษาในกระบือปลักสาวหลังวัยเจริญพันธ์ (การทดลองที่ 1) และลูกกระบือปลักก่อนวัยเจริญพันธุ์ (การทดลองที่ 2) ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยฟอลลิเคิล สติมูเลติง ฮอร์โมน (FSH) ก่อนทำการเก็บโอโอไซด์ วัดความสำเร็จจากอัตราการเก็บโอโอไซด์และคุณภาพของโอโอไซต์ที่เก็บได้ และประเมินสภาวะพร้อมปฏิสนธิด้วยการย้อมสีโอโอไซต์ การทดลองที่1 ทดลองในกระบือปลักสาว อายุ 3 ปี จำนวน 6 ตัว ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยฮอร์โมน FSH ขนาด 280 มก. โดยแบ่งฉีด 3 วัน ติดต่อกัน (เช้า/เว็น 60/60, 50/50, 30/30 มก.) แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ใช้แรงดูดในระดับ 100 mmHg กลุ่มที่ 2 ใช้แรงดูดในระดับ 80 mmHg และกลุ่มที่3 ใช้แรงดูดในระดับ 60 mmHg แต่ละกลุ่มทำการเก็บ 2 รอบ ห่างกันรอบละ 2 เดือน ครั้งละ 6 ตัว โดยหมุนเวียนกันจัดกลุ่มระดับแรงดูดด้วยการสุ่มรวมการเก็บทั้งหมด 36 ครั้ง ผลการศึกษาพบว่าที่ระดับแรงสุดที่ 100 และ 80 mmHg ให้อัตราการเก็บโอโอไซต์ไม่แตกต่างกันเท่ากับ 81.2% (69/85) และ 79.1% (53/67) ส่วนที่ระดับแรงดูดที่ 60 mmHg ให้อัตราการเก็บไอโอไซต์เท่ากับ 90.1% (93/103) สูงกว่ากลุ่มแรงดูดอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05) ได้จำนวนโอโอไซต์ในแต่ละกลุ่ม เท่ากับ 5.33 3.27, 4.42 2.71 และ 7.75 4.31 โอโอไซต์ต่อตัว ตามลำดับ เปอร์เซนต์โอโอไซต์ที่มีคุณภาพดี (COC, S P, EXP) ไม่แตกต่างกันในทั้ง 3 ระดับ เท่ากับ 44.8, 43.4 และ 49.4% ตามลำดับ การทดลองที่ 2 ทดลองในลูกกระบือปลัก อายุ 1.5 ปี จำนวน 12 ตัว ที่ได้รับการกระตุ้นด้วยฮอร์โมน FSH ขนาด 180 มก. โดยแบ่งฉีด 3 วัน ติดต่อกัน (เช้า/เย็น, 40/40, 30/30, 20/20) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มระดับแรงดูด คือ 100, 80 และ 60 mmHg โดยมีกระบือกลุ่มละ 4 ตัว ทำการทดลอง 2 รอบ ห่างกัน 2 เดือน จากการศึกษาพบว่าที่ระดับแรงดูดที่ 100 และ 80 mmHg ให้อัตราการเก็บโอโอไซต์ไม่แตกต่างกัน เท่ากับ 78.4% (29/37) และ 83.6% (61/73) ส่วนที่ระดับแรงดูดที่ 60 mmHg ให้อัตราการเก็บโอโอไซต์เท่ากับ 65.7% (23/35) ต่ำกว่ากลุ่ม 80 mmHg อย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05) ได้จำนวนโอโอไซต์ในแต่ละกลุ่มเท่ากับ 5.8 4.87, 7.6 8.6 และ 3.29 2.06 โอโอไซต์ต่อตัว ตามลำดับ เปอร์เซ็นต์โอโอไซต์ที่มีคุณภาพดี (COC, S+P, EXP) ไม่แตกต่างกันใน ทั้ง 3 ระดับ เท่ากับ 82.0, 65.5 และ 79.3% ตามลำดับ ในการกระตุ้นรังไข่ทั้งสองการทดลองพบว่า ประมาณ 80% ของฟอบบิเคิลที่ตอบสนองอยู่ในขนาด 2-6 มม. และโอโอไซต์ที่เก็บจากกระบือปลักก่อนและหลังวัยเจริญพันธุ์ การเจริญเป็นระยะ prophase 1 และ metaphase 1 จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าระดับแรงดูดสูญญากาศ การเก็บโอโอไซต์ด้วยเครื่องมือคลื่นเสียงความถี่สูงสอดผ่านทางช่องคลอดมีผลต่อการเก็บโอโอไซต์ในกระลือปลักไทย แต่ไม่มีผลต่อคุณภาพของโอโอไซต์ที่เก็บได้
บทคัดย่อ (EN): 100 (n=12x} 80(n=12) and 60 mmHg(n=12). The animals were treated repeatedly and collected with 2 sets of each pressure every 2 months giving a total of 36 collections. The results showed that there was no differece in the oocyte recovery rate between the 100 and 80 mmHg giving 81.2% (69/85) and 79.1%(53/67), while the 60 mmHg provided a better rate, 90.1%(93/103) (P<0.05) than the other two pressures. The oocytes collefcted per donor were 5.33 3.27, 4.42 2.71 and 7.75 4.31 respectively. The COC, S+P and EXP oocytes showed no differences between the different pressures being 44.8, 43.4 and 49.4% Experiment 2: Twelve prepubertal calves} aged 1.5 yrs were treated with 180 mg FSH twice a day, in a divided dose for 3 d(40/40, 30/30, 20/20). The animals were randomized into 3 groups, according to the different vacuum pressures, 100 (n=8), 80 (n=8) and 60 mmHg (n=8) and 60 mmHg (n=8). Two sets of treatments, were performed with 2 months interval between them. The results were similar to Exp. 1 with oocyte recovery rates using 100 and 80 mmHg, no different at 78.4% (29/37) and 83.6% (61/73). The 60 mmHg gave a lower rate, 65.7% (23/35) compared to 80 mmHg group (P<0.05). The oocytes recovered per donor were 5.8 4387, 7.6 8.6 and 3.29 2.06 respectively. The percentage of COC, S+P, EXP oocytes showed no differences between the pressures, being 82.0, 65.5 and 79.3%. The two experiments showed that the follicles with a size of 2-6 mm were dominant after FSH treatment, being around 80% of the total number. Furthermore the maturation stage of these oocytes proceeded to be prophase I and metaphase I. In conclusion, the vacuum pressure used for the transvaginal, ultrasound-guided, oocyte retrieval technique, influenced the recovery rate but not the oocyte quality
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://thailis-db.car.chula.ac.th/CU_DC/July2005/Research/MongkolEffe.pdf
เผยแพร่โดย: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำสำคัญ: การผสมเชื้อ
เจ้าของลิขสิทธิ์: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รายละเอียด: 100 (n=12x} 80(n=12) and 60 mmHg(n=12). The animals were treated repeatedly and collected with 2 sets of each pressure every 2 months giving a total of 36 collections. The results showed that there was no differece in the oocyte recovery rate between the 100 and 80 mmHg giving 81.2% (69/85) and 79.1%(53/67), while the 60 mmHg provided a better rate, 90.1%(93/103) (P
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของขนาดของแรงดูดสูญญากาศต่อการเก็บโอโอไซต์ ด้วยเครื่องมือคลื่นเสียงความถี่สูงสอดผ่านทางช่องคลอดจากกระบือปลักไทย : รายงานผลการวิจัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2545
การศึกษาการเก็บโอโอไซต์ซ้ำด้วยเทคนิคใช้เครื่องมือคลื่นความถี่สูงสอดเข้าทางปากช่องคลอดในลูกกระบือปลักก่อนวัยเจริญพันธุ์ : รายงานผลงานวิจัย การเก็บโอโอไซต์ด้วยการเจาะผ่านช่องคลอด โอพียูในแม่กระบือปลักที่มีวงจรการเป็นสัดปกติและในแม่กระบือเลี้ยงลูก รายงานการวิจัยเรื่อง เทคนิคการเพิ่มผลผลิตว่านกระชายดำ การรีดิวส์โครเมตโดยแบคทีเรียทนอุณหภูมิสูง รายงานการวิจัยเรื่อง การป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเกษตรกรผู้ปลูกผักในจังหวัดเพชรบูรณ์ รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสำรวจพืชสมุนไพรในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี รายงานโครงการวิจัยเรื่อง การวิเคราะห์หาปริมาณสารอัลฟาไฮดรอกซี แอซิค (เอเอชเอ) ในมะขามหวาน รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์การออกแบบเครื่องอบแห้งกระดาษสา การใช้ฮอร์โมนโกนาโดโทรปินเพื่อกระตุ้นการเจริญของฟอลลิเคิลในรังไข่ของลูก กระบือปลักก่อนวัยเจริญพันธุ์ : รายงานผลการวิจัย รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ยุทธวิธีการผลิตปลานิลรุ่นเชิงคุณภาพสำหรับการเลี้ยงในกระชังอย่างยั่งยืน : อุปกรณ์คัดขนาดลูกปลานิล
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก