สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา : สินค้าข้าว ของ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา (7 ต.ค. 2557)
สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร - สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ส่วนวิจัยเศรษฐกิจพืชไร่
ชื่อเรื่อง: การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา : สินค้าข้าว ของ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา (7 ต.ค. 2557)
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สำนักวิจัยเศรษฐกิจการเกษตร
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษา เศรษฐกิจ สินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน (AEC) : กรณีสินค้าข้าว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สปป.ลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อศึกษาสถานการณ์ การผลิต การตลาด นโยบายที่เกี่ยวข้องกับสินค้าข้าว รวมทั้งวิเคราะห์ศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ในสินค้าข้าวของไทยเปรียบเทียบกับ 3 ประเทศ ด้วยวิธีการหา คำดัชนีความได้เปรียบ โดยเปรียบเทียบที่ปรากฎ (Relative Comparative Advantage Index : CA) และการวิเคราะห์ Boston Consuting Group Matrix (BCG Matix) ในตลาดโลก และตลาดอาเซียนเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายและแนวทางการเพิ่มศักยภาพ การผลิตและการตลาด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าข้าวของไทย ผล การศึกษา พบว่า ไทยมีเสถียรภาพในการผลิตข้าว เนื่องจากสภาพภูมิประเทศแ ละสภาพ ภูมิอากาศเอื้อต่อการปลูกข้าว ทำให้สามารถปลูกข้าวได้ตลอดทั้ งปี รวมทั้งยังสามารถผลิตข้าวได้หลากหลาย ชนิด ทุกชั้นคุณภาพ สามารถตอบสนองกับความต้องการของตลาดได้ทุกตลาด ประกอบกับ มีผู้ประกอบการ โรงสีข้าวที่มีศักยภาพสูง มีเทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัยในการผลิตและแปรสภาพ และส่งออกข้าวได้มาก เป็นอันดับ 1 ของโลก สำหรับสาธารณรัฐแงสหภาพ เมียนมาร์ มีเนื้อที่เก็บเกี่ยวและผลผลิตเป็นอันดับ 4 ของ อาเชียน ส่วนใหญ่ส่งออกข้าวสารคุณภาพต่ำ โดยส่งออกข้าวได้มากเป็นอันดับ 3 ของอาเซียนรองจากไทยและ เวียดนาม ทั้งนี้สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ตั้งเป้าหมาย ที่จะกลับขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกข้าว หลักของโลกอีก ครั้งหลังจากที่เคย เป็นประเทศผู้ส่งออก ข้าวรายใหญ่ของโลกเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากมีศักยภาพ ในการขยายพื้นที่การปลูกข้าวได้อีกมาก ประกอบกับ แรงงานมีจำนวนมากและค่าจ้างแรงงานต่ำ ตลอดจน นโยบายการเปิดประเทศของเมียนมาร์ ส่งผลให้ต่างประเทศให้ความสนใจที่จะลงทุนใน สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมาร์เพิ่มขึ้น ส่วน สปป.ลาว มีเนื้อที่เก็บเกี่ยวเป็นอันดับ 7 และมีผลผลิตเป็นอันดับ 8 ของอาเซียน โดย ผลิตและบริโภคข้าวเหนียวเพื่อใช้ภายในประเทศเป็นหลัก สปป.ลาว มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์เละมี ศักยภาพที่จะขยายพื้นที่การปลูกและผลผลิตได้อีกมากโดยเฉพาะที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงทั้ง 7 แห่ง การเพาะปลูกและ การเก็บเกี่ยวส่วนใหญ่ ยังใช้แรงงานคนและสัตว์ ประกอบกับ ค่าจ้างแรงงานต่ำ ทำให้ต้นทุนการผลิตข้าวต่ำ ราชอาณาจักร กัมพูชา มีเนื้อที่เก็บเกี่ยวและผลผลิตเป็นอันดับ 6 ของอาเซียน พื้นที่ปลู กข้าวส่วนใหญ่เป็น น้ำฝนซึ่งให้ผลผลิตค่อนข้างต่ำ มีข้อจำกัดเรื่องชลประทานและเทคโนโลยีการผลิต สามารถส่งออกข้าวเป็นอันดับที่ 4 ของอาเซียน รองจากไทย เวียดนาม และ สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมาร์ ทั้งนี้ ราชอาณาจักรกัมพูชาตั้งเป้าการส่งออกข้าวให้ได้ 1 ล้านต้นในปี 2558 การวิเคราะห์ศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันของสินค้าข้าว ด้วยการวิเคราะห์ดัชนีความ ได้เปรียบโดยเปรียบเทียบที่ปรากฏ (RCA ในตลาดโลก พบว่ ไทย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และ สปป. ลาว มีค่า RCA มากกว่า 1 ในช่วงระยะเวลาที่ศึกษา หมายความว่า ทั้ง 3 ประเทศ มีความได้เปรียบโดย เปรียบเทียบในการส่งออกข้าวไปยังตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในการส่งออกข้าวไป ยังตลาดโลกของทั้ง 3 ประเทศในช่วงระยะเวลา ที่ศึกษามีแนวโน้มลดลง สำหรับราชอาณาจักร กัมพูชา มีค่า RCA มากกว่า 1 ในปี 2548 และ ปี 2552-2554 หมายความว่า ราชอาณาจักร กัมพูชามีความได้เปรียบโดย เปรียบเทียบในการส่งออกข้าวไปยังตลาดโลกในช่วงระยะเวลาดังกล่าว และความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบใน การส่งออกข้าวไปยังตลาดโลก มีแนวโน้ม เพิ่มขึ้น สำหรับตลาดอาเซียน พบว่า ไทยมีค่า RCA มากกว่า 1 ในช่วงระยะเวลาที่ศึกษา หมายความว่าไทยมีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในการส่งออกข้าวไปยังตลาด อาเซียน สำหรับ สปป.ลาว มีค่า RCA มากกว่4 1 ในปี 2547-2549 และปี 2552-2553 หมายความว่า สปปลาวมีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในการส่งออกข้าวไปยังตลาดอาเชียน ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ส่วน ราชอาณาจั กรกัมพูชา มีค่า RCA มากกว่า 1 ในปี 2547-2548 ปี 2550-2551 และปี 2554 หมายความว่า ราชอาณาจักรัมพูชามีความได้เปรียบในการส่งออกข้าวไปยังตลาดอาเซียในช่วงระยะเวลาดังกล่าว อย่างไรต็าม ความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบในการส่งออกข้าวไปยังตลาดอาเซียน ของไทย สปป. ลาว และราชอาณาจักร กัมพูชา ในช่วงระยะเวลาที่ศึกษามีแนวโน้มลดลง สำหรับการวิเคราะห์ ตำแหน่งและความสามารถในการแข่งขัน (BCG) ในการส่งออกข้าวของไทย สปป.ลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา ไปยังตลาดอาเชียน เปรียบเทียบ ช่วงปี 2547-2550 กับช่วงปี 2551- 2554 พบว่า ในช่วงปี 2547-2550 ตลาดข้าวของไทยอยู่ในตำแหน่งสินค้ามีปัญหา (Question Marks) หลังจากนั้น ในช่วงปี 2551-2554 ตลาดข้าวไทยได้เปลี่ยนตำแหน่งไปสู่สินค้าดาวร่วง (Dogs) สำหรับ สปป.ลาว อยู่ในตำแหน่งสินค้าดาวร่วง (Dogs) ทั้ง 2 ช่วงเวลา ส่วนราชอาณาจักรกัมพูชา ในช่วงปี 2547-2550 ตลาดข้าว อยู่ในตำแหน่งสินค้าดาวร่วง (D0gs และได้เผลี่ยนตำแหน่งไปสู่สินค้ามีปัญหา (Question Marks) ในช่วงปี 2551-2554 แทน ดังนั้น เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเชียนของข้าวไทย ในด้านการผลิต จำเป็นต้องมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน การผลิต พัฒนาเมล็ดพันธุ์ พัฒนาระบบชลประทาน ให้กระจายทั่วถึง ตลอดจนเพิ่มคุณภาพของผลผลิต ฒนาสายพันธุ์ข้าวหอมมะลิให้มีคุณค่าและลักษณะ เฉพาะตัวเพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ของข้าวหอมมะลิไทย รวมทั้ง พัฒนาข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองให้มีความ หลากหลายมากขึ้น เพื่อเข้าครองตลาดในกลุ่มผู้บริโภคเฉพาะ สำหรับด้านการตลาด ควรให้ความสำคัญในการ รักษาและขยายตลาดข้าว กลุ่มผู้บริโภคเฉพาะและตลาด ระดับ บน พัฒนาสินค้าข้าวที่มีคุณภาพข้าวและระดับ ราคาที่เหมาะสมตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับข้าว ของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเขียน ให้ผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำให้รับรู้อย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง เพื่อให้ทันต่อการปรับตัว บริหารการนำเข้าข้าวอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบการผลิตและ การตลาดข้าวไทย ตลอดจน พัฒนาระบบโลจิสติกส์ข้าวไทยให้มีต้นทุน การขนส่งต่ำลง เพื่อให้ไทยยังคงมี ศักยภาพและเป็นผู้นำการส่งออกข้าวในอนาคตต่อไป
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://www.oae.go.th/assets/portals/1/files/Rice_Myanmar_Laos_Cambodia56.pdf
เผยแพร่โดย: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ส่วนวิจัยเศรษฐกิจพืชไร่
คำสำคัญ: ข้าว
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา : สินค้าข้าว ของ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และราชอาณาจักรกัมพูชา (7 ต.ค. 2557)
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ส่วนวิจัยเศรษฐกิจพืชไร่
2556
การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา: สินค้ามันสำปะหลัง ของราชอาณาจักรกัมพูชา (7 ต.ค. 2557) การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา : สินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (7 ต.ค. 2557) แป้งข้าวก่ำดัดแปรและผลิตภัณฑ์จากข้าวก่ำเพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพ เชิงป้องกัน ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร การพัฒนากระบวนการต้นแบบในการทดสอบพันธุ์ข้าวลูกผสม การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษา : สินค้าถั่วเขียว ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (7 ต.ค. 2557) การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) กรณีศึกษาสินค้าประมง (5 พ.ย. 2558) การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมของสหกรณ์การเกษตร เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในพื้นที่แนวชายแดน ไทย - ลาว การศึกษาเศรษฐกิจสินค้าเกษตรเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ กรณีศึกษา: สินค้าปศุสัตว์ (7 ต.ค. 2557) การปรับตัวอุตสาหกรรมชาไทยเพื่อการแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก