สืบค้นงานวิจัย
รายงานการวิจัย การผลิตและควบคุมสารออกฤทธิ์เคอร์คูมินอยด์และน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรว่านชักมดลูก ภายใต้การจัดการแสง ชนิด และอัตราปุ๋ย
ปราณี รัตนานุพงศ์ ถนัด รัตนานุพงศ์ สารคาม แก้วทาสี - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
ชื่อเรื่อง: รายงานการวิจัย การผลิตและควบคุมสารออกฤทธิ์เคอร์คูมินอยด์และน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรว่านชักมดลูก ภายใต้การจัดการแสง ชนิด และอัตราปุ๋ย
ชื่อเรื่อง (EN): ( Production and controlling for active chemical ingredient curcuminoids and essential oil of Curcuma xanthorrhiza in re
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ปราณี รัตนานุพงศ์ ถนัด รัตนานุพงศ์ สารคาม แก้วทาสี
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ จากการศึกษาการเจริญเติบโตผลผลิต (หัว) ปริมาณสารเคอร์คูมินอยด์ และปริมาณน้ำมันหอมระเหย ของสมุนไพรว่านชักมดลูก เมื่อได้รับอิทธิพลของแสงที่แตกต่างกัน คือ ได้รับแสงเต็มที่ , พรางแสง 50% , พรางแสง 60% และพรางแสง 70% โดยวางแผนทดลองแบบ CRD ทำ 3 ซ้ำ ทำการทดลอง ณ แปลงวิจัยและห้องปฏิบัติการ สาขาพืชศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยระหว่างเดือนมีนาคม 2550 - มิถุนายน 2553 ผลการทดลองพบว่าอิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล ( P> 0.05 ) ต่อความสูงของต้นว่านชักมดลูก ( ยกเว้นในเดือนที่ 3 และ 5 หลังปลูก ) แต่อย่างไรก็ตามทรีทเมนท์พรางแสง 50% ให้ค่าเฉลี่ยความสูงของต้นสูงที่สุด และทรีทเมนท์ได้รับแสงเต็มที่ให้ค่าเฉลี่ยความสูงของต้นต่ำสุด อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล ( P> 0.05 ) ต่อจำนวนต้นต่อกอในเดือนที่ 3 และ 6 หลังปลูก แต่มีผล( P< 0.05 ) ต่อจำนวนต้นต่อกอ ในเดือนที่ 4 , 5 , 7 และ 8 หลังปลูก ซึ่งทรีทเมนท์ที่ได้รับแสงเต็มที่ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนต้นต่อกอสูงสุด ในเดือนที่ 4 และ 5 หลังปลูก ทรีทเมนท์พรางแสง 50% และพรางแสง 60% ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนต้นต่อกอสูงสุดใกล้เคียงกัน ในเดือนที่ 7 และเดือนที่ 8 หลังปลูก อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล ( P> 0.05 ) ต่อจำนวนใบต่อกอของว่านชักมดลูก ( ยกเว้นในเดือนที่ 5 และ 6 ) ซึ่งทรีทเมนท์ที่ได้รับแสงเต็มที่ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนใบต่อกอสูงสุด ในเดือนที่ 4 , 5 และ 6 หลังปลูก ส่วนในเดือนที่ 7 และ 8 หลังปลูก ทรีทเมนท์ที่ได้รับแสงเต็มที่ พรางแสง 50% และพรางแสง 60% ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนใบต่อกอสูงในระดับเดียวกัน อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล ( P> 0.05 ) ต่อน้ำหนักสดต่อกอและน้ำหนักแห้งต่อกอ ของหัวว่านชักมดลูก แต่อย่างไรก็ตามที่อายุ 8 และ 18 เดือนหลังปลูก ทรีทเมนท์ที่ได้รับแสงเต็มที่และทรีทเมนท์พรางแสง 50% ให้ค่าเฉลี่ยน้ำหนักสด (หัว) สูงสุดใกล้เคียงกัน อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล( P> 0.05 ) ต่อปริมาณสารเคอร์คูมินอยด์ของหัวว่านชักมดลูก(แห้ง)ในเดือนที่ 8 และ 18 เดือนหลังปลูก แต่จะมีผล ( P< 0.01 ) ต่อปริมาณสารเคอร์คูมินอยด์ ที่อายุ 22 เดือนหลังปลูก โดยทรีทเมนท์พรางแสง 50% ให้ค่าเฉลี่ยสูงสุด อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันพบว่าไม่มีผล (P > 0.05 ) ต่อปริมาณน้ำมันหอมระเหยของหัวว่านชักมดลูก (สด) แต่ทรีทเมนท์พรางแสง 50% ให้ค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำมันหอมระเหยสูงสุด
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
คำสำคัญ: สารสกัดจากพืชสารออกฤทิธ์ทางชีวภาพ583.69ป172
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
รายละเอียด: บทคัดย่อ จากการศึกษาการเจริญเติบโตผลผลิต (หัว) ปริมาณสารเคอร์คูมินอยด์ และปริมาณน้ำมันหอมระเหย ของสมุนไพรว่านชักมดลูก เมื่อได้รับอิทธิพลของแสงที่แตกต่างกัน คือ ได้รับแสงเต็มที่ , พรางแสง 50% , พรางแสง 60% และพรางแสง 70% โดยวางแผนทดลองแบบ CRD ทำ 3 ซ้ำ ทำการทดลอง ณ แปลงวิจัยและห้องปฏิบัติการ สาขาพืชศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยระหว่างเดือนมีนาคม 2550 - มิถุนายน 2553 ผลการทดลองพบว่าอิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล ( P> 0.05 ) ต่อความสูงของต้นว่านชักมดลูก ( ยกเว้นในเดือนที่ 3 และ 5 หลังปลูก ) แต่อย่างไรก็ตามทรีทเมนท์พรางแสง 50% ให้ค่าเฉลี่ยความสูงของต้นสูงที่สุด และทรีทเมนท์ได้รับแสงเต็มที่ให้ค่าเฉลี่ยความสูงของต้นต่ำสุด อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล ( P> 0.05 ) ต่อจำนวนต้นต่อกอในเดือนที่ 3 และ 6 หลังปลูก แต่มีผล( P< 0.05 ) ต่อจำนวนต้นต่อกอ ในเดือนที่ 4 , 5 , 7 และ 8 หลังปลูก ซึ่งทรีทเมนท์ที่ได้รับแสงเต็มที่ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนต้นต่อกอสูงสุด ในเดือนที่ 4 และ 5 หลังปลูก ทรีทเมนท์พรางแสง 50% และพรางแสง 60% ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนต้นต่อกอสูงสุดใกล้เคียงกัน ในเดือนที่ 7 และเดือนที่ 8 หลังปลูก อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล ( P> 0.05 ) ต่อจำนวนใบต่อกอของว่านชักมดลูก ( ยกเว้นในเดือนที่ 5 และ 6 ) ซึ่งทรีทเมนท์ที่ได้รับแสงเต็มที่ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนใบต่อกอสูงสุด ในเดือนที่ 4 , 5 และ 6 หลังปลูก ส่วนในเดือนที่ 7 และ 8 หลังปลูก ทรีทเมนท์ที่ได้รับแสงเต็มที่ พรางแสง 50% และพรางแสง 60% ให้ค่าเฉลี่ยจำนวนใบต่อกอสูงในระดับเดียวกัน อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล ( P> 0.05 ) ต่อน้ำหนักสดต่อกอและน้ำหนักแห้งต่อกอ ของหัวว่านชักมดลูก แต่อย่างไรก็ตามที่อายุ 8 และ 18 เดือนหลังปลูก ทรีทเมนท์ที่ได้รับแสงเต็มที่และทรีทเมนท์พรางแสง 50% ให้ค่าเฉลี่ยน้ำหนักสด (หัว) สูงสุดใกล้เคียงกัน อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันไม่มีผล( P> 0.05 ) ต่อปริมาณสารเคอร์คูมินอยด์ของหัวว่านชักมดลูก(แห้ง)ในเดือนที่ 8 และ 18 เดือนหลังปลูก แต่จะมีผล ( P< 0.01 ) ต่อปริมาณสารเคอร์คูมินอยด์ ที่อายุ 22 เดือนหลังปลูก โดยทรีทเมนท์พรางแสง 50% ให้ค่าเฉลี่ยสูงสุด อิทธิพลของแสงที่แตกต่างกันพบว่าไม่มีผล (P > 0.05 ) ต่อปริมาณน้ำมันหอมระเหยของหัวว่านชักมดลูก (สด) แต่ทรีทเมนท์พรางแสง 50% ให้ค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำมันหอมระเหยสูงสุด
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานการวิจัย การผลิตและควบคุมสารออกฤทธิ์เคอร์คูมินอยด์และน้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรว่านชักมดลูก ภายใต้การจัดการแสง ชนิด และอัตราปุ๋ย
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
2553
อุณหภูมิและพลังงานแสง ที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของถั่วเขียว การผลิตลูกหอมสมุนไพรไล่แมลงและขจัดกลิ่นอับ : รายงานการวิจัย รายงานการวิจัยเรื่อง ผลของการใช้สารจับใบและปุ๋ยทางใบบางชนิดต่อการการเพิ่มผลผลิตของมะขามหวานพันธุ์ สีทอง และพันธุ์ศรีชมภู รายงานการวิจัยการพัฒนาการผลิตเห็ดเพื่อการค้า รายงานการวิจัยเรื่อง การผลิตผงเมือกจากกระเจี๊ยบเขียว รายงานการวิจัยเรื่อง ผลของการใช้สารกำจัดแมลงบางชนิดในการกำจัดหนอนคืบละหุ่งต่อการติดฝักอ่อนของมะขามหวานพันธุ์สีทองเบา รายงานการวิจัยเรื่องฤทธิ์ทางชีวภาพและน้ำมันหอมระเหยจากต้นกะลา การทดลองอัตราการใช้ปุ๋ยกับมะเขือเทศที่ปลูกในฤดูฝน รายงานการวิจัย เรื่อง การส่งเสริมการผลิตไข่เค็มเป็นอาชีพเสริม เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าต าบลสามบันฑิต อ าเภ ออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา งานวิจัยเรื่อง การศึกษาการผลิตโยเกิร์ตพร้อมดื่มรสมะขามหวาน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก