สืบค้นงานวิจัย
การคัดเลือกพันธุ์ข้าวไร่ที่มีปริมาณโปรตีน วิตามินอี และธาตุซีลีเนียมสูงเพื่อนำไปใช้ผลิตข้าวกล้องในพื้นที่สูงภาคเหนือของประเทศไทยให้มีมูลค่าเพิ่ม
วราภรณ์ แสงทอง - มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ชื่อเรื่อง: การคัดเลือกพันธุ์ข้าวไร่ที่มีปริมาณโปรตีน วิตามินอี และธาตุซีลีเนียมสูงเพื่อนำไปใช้ผลิตข้าวกล้องในพื้นที่สูงภาคเหนือของประเทศไทยให้มีมูลค่าเพิ่ม
ชื่อเรื่อง (EN): Selection of Upland Rice Varieties High in Proteins Vitamin E and Selenium Content For Value-added Brown Rice Production in the Highlands for Northern Thailand.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วราภรณ์ แสงทอง
บทคัดย่อ: ทำการรวบรวมพันธุ์ข้าวไร่จากพื้นที่ภาคเหนือ และนำมาทดสอบผลผลิตในฤดูฝน 2548 ที่หมู่บ้านสันติ ตำบลแม่เจดีย์ใหม่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย โดยใช้แผนการทดลองแบบ บล็อกสุ่มสมบูรณ์ (Randomized Complete Block Design; RCBD) มี 3 ซ้ำ และ สิ่งทดลองคือ พันธุ์ข้าวไร่จำนวน 89 สายพันธุ์ เป็นข้าวเจ้า 55 สายพันธุ์ ข้าวเหนียว 32 สายพันธุ์ และพันธุ์ เปรียบเทียบ 2 พันธุ์ คือข้าวเจ้าพันธุ์เจ้าฮ่อ และน้ำรู ผลการทดสอบผลผลิตพบว่าลักษณะต่างๆ ที่ ทำการศึกษา คือ ผลผลิต องค์ประกอบผลผลิต คุณสมบัติทางกายภาพของเมล็ด คุณภาพหุงต้ม และปริมาณวิตามินอีมีความแตกต่างทงสถิติอย่างมีนัยสำคัญยิ่ง ส่วนปริมาณโปรตีนในข้าว กล้องมีความแตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ แต่ปริมาณธาตุซีลีเนียมไม่มีความแตกต่างกันทาง สถิติ ผลผลิตของข้าวไร่จำนวน 89 สายพันธุ์อยู่ระหว่าง 236 - 970 กิโลกรัมต่อไร่ และมีผลผลิต เฉลี่ยเท่ากับ 629 กิโลกรัมต่อไร่ โดยที่ข้าวเจ้าสายพันธุ์จามีผลผลิตสูงที่สุดคือ 970 กิโลกรัมต่อไร่ จากการทดสอบเมล็ดข้าวกล้องทั้ง 89 สายพันธุ์พบว่าน้ำหนัก 1,000 เมล็ดอยู่ระหว่าง 18.6-36.8 5.86 - 6.65 มิลลิเมตร และมีความยาวเฉลี่ยเท่ากับ 6.82 มิลลิเมตร เมล็ดข้าวกล้องมีความกว้าง อยู่ระหว่าง 2.33 - 3.14 มิลลิเมตร และมีความกว้างเฉลี่ยเท่ากับ 2.84 มิลลิเมตร เมล็ดข้าวกล้อง มีความหนาอยู่ระหว่าง 1.63 - 2.11 มิลลิเมตร และมีความหนาเฉลี่ยเท่ากับ 1.91 มิลลิเมตร เมื่อ ทำการวิเคราะห์หาปริมาณอมัยโลสพบว่ามีค่าอมัยโลสอยู่ระหว่าง 4.26 - 22.34 เปอร์เซ็นต์ สามารถแบ่งชนิดข้าวตามปริมาณอมัยโลส ได้เป็น ข้าวเหนียวจำนวน 32 สายพันธุ์ และข้าวเจ้า จำนวน 57 สายพันธุ์ ในกลุ่มข้าวเจ้ายังสามารถแบ่งย่อยออกเป็นกลุ่ม ข้าวอมัยโลสต่ำ จำนวน 53 สายพันธุ์ และกลุ่มข้าวอมัยโลสปานกลาง จำนวน 4 สายพันธุ์ สำหรับปริมาณโปรตีนของข้าว กล้องจำนวน 89 สายพันธุ์อยู่ระหว่าง 8.02 - 10.40 เปอร์เซ็นต์ และมีปริมาณโปรตีนเฉลี่ยเท่ากับ 9.36 เปอร์เซ็นต์ จากการวิเคราะห์หาปริมาณวิตามินในเมล็ดข้าวกล้อง 10 สายพันธุ์พบว่ามีค่า อยู่ระหว่าง 1.54 - 0.47 มิลลิกรัม QTE/100 กรัม และมีปริมาณวิตามินอีเฉลี่ยเท่ากับ 0.92 มิลลิกรัม QTE/100 กรัม ข้าวเหนียวสายพันธุ์ปิอิซูมีปริมาณวิตามินอีสูงเป็นอันดับที่ 1 เท่ากับ 1.54 มิลลิกรัม QTE/100 กรัม สำหรับผลจากการวิเคราะห์หาปริมาณซีลีเนียมในข้าวกล้องของ ข้าวไร่จำนวน 10 สายพันธุ์พบว่ามีปริมาณซีลีเนียมอยู่ระหว่าง 0.013 -0.109 มิลลิกรัม/กิโลกรัม และมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 0.060 มิลลิกรัมกิโลกรัมจากข้อมูลผลผลิต ปริมาณโปรตีน และปริมาณวิตามินอีของข้าวไร่ที่ได้จากการทดลองนี้ สามารถคัดเลือกข้าวไรที่มีศักยภาพที่จะให้ผลผลิตสูงรวมทั้งมีปริมาณโปรตีน และวิตามินอีสูงได้ 6 สายพันธุ์ เป็นข้าวเจ้าจำนวน 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์จา และสายพันธุ์จะ ฟู ฟู เป็นข้าวเหนียว จำนวน 4 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์จะนูแมแม สายพันธุ์แบร์เด์ สายพันธุ์ข่มเห่า และสายพันธุ์ปิอิซู
บทคัดย่อ (EN): In this study, northern upland rice varieties were selected and tested for their yield during the rainy season of 2005 in Santi village, Mae Jedi Mai subdistrict, Wiang Pa Pao district, Chiangrai province, using the Randomized Complete Block Design (RCBD) with three replications. A total of 89 upland rice varieties were tested, out of which 55 were non-glutinous, 32 were glutinous and two compatible plain rice varieties (Jao Ho and Nam Roo). Results of the study showed that different traits, e.g. yield, yield elements, physical attributes of the seeds, cooking quality and vitamin E content, had highly significant difference. However, the amount of Selenium had no statistical significant difference. Yield produced by the 89 upland rice varities ranged from 236- 970 kg/rai with an average of 629 kg/rai. Further results showed that Ja Mee rice variety gave the highest yield at 970 kg/rai while 1,000-seed weight ranged from 18.6-36.8 g at an average of 24.3 g. The unpolished milled rice had length of 5.86-6.65 mm with an average of 6.82 mm while seed width ranged from 2.33-3.14 mm at an average of 2.84 mm. On the other hand, seed thickness ranged from 1.63-2.11 mm with an average of 1.91 mm. Analysis of amylose content indicated a range of 4,26-22.34 percent. Based on their amylose content, these upland rice varieties were then classified into glutinous (32 varieties) and non-glutinous (57 varieties). In addition, the non-glutionous rice varieties could still be divided into 53 low amylose and 4 moderate amylose containing varieties. Meanwhile, from the 89 unpolished milled rice varieties, range of protein content was from 8.02-10.40 percent with an average of 9.36 percent. As for vitamin E content, results of the analysis of 10 unpolished milled rice varieties showed that range was from 0.47-1.54 mg QTE/100 g with an average of 0.92 mg QTE/100 g. Further results showed that Pee Hee Soo had the highest vitamin E content at 1.54 mg OTE/100 g. As for Selenium mineral content, analysis of 10 unpolished milled rice indicated that Selenium content ranged from 0.013-0.109 mg/kg with an average of 0.060 mg/kg. From the data collected on yield, protein content and vitamin E content of upland rice varieties, six varieties were selected based on their desirable traits and these luded Ja and Ja Foo Foo (non-glutinous varieties); Ja Noo Me-me, Bed De, H Hao and Pee Hee Soo (glutinous varieties).
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
คำสำคัญ: การผลิตข้าวกล้องให้มีมูลค่าเพิ่ม
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยแม่โจ้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การคัดเลือกพันธุ์ข้าวไร่ที่มีปริมาณโปรตีน วิตามินอี และธาตุซีลีเนียมสูงเพื่อนำไปใช้ผลิตข้าวกล้องในพื้นที่สูงภาคเหนือของประเทศไทยให้มีมูลค่าเพิ่ม
มหาวิทยาลัยแม่โจ้
2548
การคัดเลือกพันธุ์ข้าวไร่ที่มีปริมาณโปรตีน วิตามินอี และธาตุซีลีเนียมสูง เพื่อนำไปใช้ผลิตข้าวกล้องในพื้นที่สูงภาคเหนือของประเทศไทยให้มีมูลค่าเพิ่ม การเพิ่มระดับของโปรตีนของมันสำ ปะหลังโดยใช้ยีสต์ในกระบวนการหมัก การใช้ค่าวิเคราะห์ดิน ผลผลิตที่คาดหวัง และธาตุอาหารหลักในผลผลิตเพื่อกำหนดอัตราการใส่ปุ๋ยสำหรับข้าว ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก การคัดเลือกพันธุ์ข้าวไร่ที่เหมาะสมกับระบบการปลูกข้าวไร่-อ้อย การศึกษาชนิด ปริมาณ และมูลค่าการนำเข้าส่งออกปลาน้ำจืดของประเทศไทย ระหว่าง พ.ศ. 2557-2561 การพัฒนาเชื้อราไตรโคเดอร์มาปฏิปักษ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดโรคข้าวเป็นชีวภัณฑ์เชิงพาณิชย์ แนวโน้มการผลิตข้าวของประเทศไทยช่วงปี 2505-2519 ข้าวกล้องงอกเพิ่ม กาบา การวิจัยแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตข้าวของชุมชน ตำบลเบิกไพร จังหวัดราชบุรี การรักษาคุณภาพของข้าวกล้องหลังการเก็บเกี่ยวโดยการใช้เทคโนโลยีการฉายรังสีแกมมาเพื่อความมั่นคงทางอาหาร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก