สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาการปลูกข้าวอินทรีย์และพัฒนาชุมชนด้วยหัวเชื้อราผสม ตำบลบึงกาสาม จังหวัดปทุมธานี
อัชฌานัท รัตนเลิศนุสรณ์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาการปลูกข้าวอินทรีย์และพัฒนาชุมชนด้วยหัวเชื้อราผสม ตำบลบึงกาสาม จังหวัดปทุมธานี
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ การปลูกข้าวหอมมะลิปทุมธานี 1 ด้วยสารชีวภาพเคลือบหัวเชื้อจุลินทรีย์นาโน (Encapsulation technology) และสารสกัดจุลินทรีย์ผสม(Chaleo technology) บริเวณดินกรด อาเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี พบว่า ผลผลิตข้าวเปลือกต่อไร่มากกว่าการปลูกข้าวเปลือกด้วย ปุ๋ยเคมี 41.18 % ลดต้นทุนต่อไร่มากกว่าการปลูกข้าวด้วยปุ๋ยเคมี 66.67 % รายได้จากการแปรรูป ข้าวเปลือกอินทรีย์มากกว่าข้าวเปลือกที่ปลูกด้วยปุ๋ยเคมี 115 % ข้าวกล้องอุดมด้วยวิตามินและ สารอาหารเสริม ได้แก่ ไนอะซิน ทองแดง สังกะสี โปรตีน มากกว่าข้าวกล้องที่ปลูกด้วยปุ๋ยเคมี 26 % ความหลากหลายทางชีวภาพจุลินทรีย์ราในดินมากกว่าการปลูกข้าวด้วยปุ๋ยเคมี เนื่องจากจุลินทรีย์ หลั่งสารสกัดโปรตีน เอนไซม์ ฮอร์โมน น้าตาล สารอาหารเสริมเหล็ก ซิลิกา อื่นๆ ที่มีประจุลบเมื่อสาร สกัดจุลินทรีย์จับกับสารชีวภาพที่เคลือบด้วยหัวเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประจุบวก จึงทาให้สามารถเร่งการ เติบโต สร้างภูมิคุ้มกันให้กับต้นข้าว ต้นข้าวไม่เป็นโรค รวงข้าวได้น้าหนักและเม็ดข้าวเต็มสุดรวงข้าว ลดการสูญเสียธาตุอาหารหลังการหว่าน ปริมาณการใช้สารชีวภาพเคลือบหัวเชื้อจุลินทรีย์นาโนและ สารสกัดจุลินทรีย์ผสมเหลือเพียง 1 ใน 3 ส่วนของปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์ ปรับสภาพดินที่แข็งให้มี สภาพดินร่วนขึ้น ดังนั้น กลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ควรดาเนินการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนตาม ต้นแบบโมเดลการปลูกข้าวด้วยจุลินทรีย์นาโน THUN ตั้งแต่การพัฒนาการปลูกข้าว(ต้นน้า) การแปร รูปและการขยายตลาด(กลางน้าและปลายน้า) อันนาไปสู่เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ผลแก่เครือข่ายทุก ภาคส่วน ในการเพิ่มผลผลิต เพิ่มกาไรรายได้ ลดต้นทุน ปรับปรุงและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพิ่มการแบ่ง ปั่น ผู้บริโภครับประทานอาหารที่มีคุณภาพและอุดมด้วยวิตามินและสารอาหารเสริมสูงกว่าปกติ คำสำคัญ: สารชีวภาพเคลือบหัวเชื้อจุลินทรีย์นาโน สารสกัดจุลินทรีย์ ข้าวหอมมะลิปทุมธานี 1 ต้นแบบโมเดล
บทคัดย่อ (EN): Cultivation of organic Jasmine rice Pathumthani 1 by using encapsulated microorganisms coated with a bioactive compound and microbial extract (microbial powder) at Nong Suea district, Pathumthani Province showed that the yield of rice grown by using microbial powder was higher than that of rice cultivated with a chemical fertilizer by 41.18%, while the total cost of the organic rice production (using microbial powder) was lower when compared with that using chemical fertilizer by 66.67%. The organic rice products yielded higher values than that grown with chemical fertilizer by 115%. Protein, minerals (copper and zinc), and niacin were detected more in the organic rice than the rice grown with chemical fertilizers by 26%. The biological diversity of soil microbes was greater than that in the soil of chemically rice production by 33.33%. This was because the microbial powder secreted proteins, sugar, hormones, enzymes, some iron-containing compounds and some anion compounds. The microbial extract could bind to the bioactive compound coating on the microorganisms carrying positive charges. This electrostatic interaction resulted in acceleration of the microorganism growth, leading to motivation of rice immunization, prevention of rice from diseases, increase of rice ear weigh as well as amount of rice grain, and reduction of nutrients lost after sowing. The ratio of microbial powder mixed with biological or chemical fertilizers was reduced to 1 to 3, and it could improve rough soil to become loam soil. Therefore, farmer unions should manage their community business by following a model of rice cultivation with nano-microorganism THUN, starting from development of rice cultivation, rice product processing and marketing, to achieve their goals and expected outcomes contributing to all sectors, which are increase of productivity and profits, reduction of production costs, improvement of environmental conservation, motivation of sharing, satisfaction of consumers who can get high quality foods which enrich with vitamins and supplements. Key word: Nano microorganism, microbial Extract, Jasmine rice, Model
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คำสำคัญ: ความหลากหลายทางชีวภาพเชื้อราปฏิปักษ์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

อัชฌานัท รัตนเลิศนุสรณ์. "การพัฒนาการปลูกข้าวอินทรีย์และพัฒนาชุมชนด้วยหัวเชื้อราผสม ตำบลบึงกาสาม จังหวัดปทุมธานี". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. 2559

อัชฌานัท รัตนเลิศนุสรณ์. "การพัฒนาการปลูกข้าวอินทรีย์และพัฒนาชุมชนด้วยหัวเชื้อราผสม ตำบลบึงกาสาม จังหวัดปทุมธานี". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี. 2559. Print.



TARR Wordcloud:
การพัฒนาการปลูกข้าวอินทรีย์และพัฒนาชุมชนด้วยหัวเชื้อราผสม ตำบลบึงกาสาม จังหวัดปทุมธานี
อัชฌานัท รัตนเลิศนุสรณ์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
30 กันยายน 2559
การวิจัยแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตข้าวของชุมชน ตำบลเบิกไพร จังหวัดราชบุรี การวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ตรวจวัดอัตราการขัดสีข้าว การพัฒนาเชื้อราไตรโคเดอร์มาปฏิปักษ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดโรคข้าวเป็นชีวภัณฑ์เชิงพาณิชย์ การจัดการดินกลุ่มชุดที่ 10 ด้วยผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพของกรมพัฒนาที่ดินเพื่อการปลูกข้าวอินทรีย์ในพื้นที่ ตำบลแหลม อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช โครงการย่อยที่2 การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยหมักจากกากมันสำปะหลังเพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตข้าวแบบอินทรีย์ ในกลุ่มเกษตรกร รายย่อยของอําเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ การพัฒนาความเข้มแข็งของกลุ่มผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ชุมชนบ้านสายยาว จังหวัดบุรีรัมย์ กลยุทธ์การพัฒนาตลาดข้าวอินทรีย์ในประเทศ การผลิตข้าวอินทรีย์ของเกษตรกรในอำเภอม่วงสามสิบ จังหวัดอุบลราชธานี การวิจัยและพัฒนาข้าวอินทรีย์ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การผลิตข้าวอินทรีย์ปี 2546 ของเกษตรกรตำบลเกาะ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair