สืบค้นงานวิจัย
การออกแบบกระบวนผลิตข้าวชนิดเพิ่มความนุ่มโดยใช้แบบจำลอง
นันทวัน เทอดไทย - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การออกแบบกระบวนผลิตข้าวชนิดเพิ่มความนุ่มโดยใช้แบบจำลอง
ชื่อเรื่อง (EN): Process design for soften rice production by model
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นันทวัน เทอดไทย
บทคัดย่อ: ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ โดยประเภทของข้าวสามารถแบ่งได้ตามปริมาณแอมิโลส ข้าวที่มี ปริมาณแอมิโลสสูงมีเนื้อสัมผัสของข้าวสุกค่อนข้างแข็งและสชาติที่ไม่อร่อยนัก งานวิจัยนี้จึงศึกษาผลของการ ใช้คลื่นอัลตราโชนิกส์และเอนไชม์ต่อคุณภาพของข้าวขาวและข้าวกล้อง พบว่า การใช้คลื่นอัลตราโชนิกส์ที่ ความถี่ 40 กิโลเฮิรตช์ เวลา 1, 3 และ 5 นาที ส่งผลให้มล็ดข้าวขาวหุงสุกแตกหักเนื่องจาก cavitation เมื่อ นำข้าวมาผ่านการย่อยด้วยเอนไซม์ พบว่า เวลาที่ใช้ในการหุงสุกและอุณหภูมิที่ใช้ในการเกิดเจลาติไนเซชัน ลดลง (Ps0.05) เอนไซมีโปรติเฮสทำให้เมล็ดข้าวมีความสามารถในการดูดซึมน้ำมากขึ้น (Ps0.05) แต่เอนไซมั แอลฟา-แอมิเลส ทำให้เมล็ดข้าวมีความสามารถในการดูดซึมน้ำลดลง (Ps0.05) ในด้านเนื้อสัมผัส พบว่า เอนไชม์โปรติเฮสสามารถลดค่าความแข็งของข้าวขาวได้ แต่เอนไซม์แอลฟา-แอมิเลส สามารถลดความแข็งของ ข้าวลงได้มากกว่าเอนไขม์โปรติเอส และทำให้ค่าความเหนียวของข้าวเพิ่มขึ้น ในขณะที่ค่าดัชนีความขาวลดลง (Ps0.05) จากกรทดสอบทางประสาทสัมผัส พบว่า ข้าวขาวที่ผ่านการย่อยด้วยเอนไชม์แอลฟา-แอมิเลสได้รับ คะแนนความชอบในด้านความนุ่มเพิ่มขึ้น (Ps0.05) สำหรับการศึกษาในข้าวกล้อง พบว่า การใช้คลื่นอัลตราโช นิกส์และการใช้เอนไชม์เซลลูลส กลูโคแอมิเลส และแอลฟา-แอมิเลสสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพโครงสร้างผิว ของข้าวกล้องได้ โตยการใช้คลื่นอัลตราซนิกส์และการใช้อนไซม์แอลฟ-แอมิเลส มีผลกระทบต่อสตาร์ช ภายในเมล็ดข้าวกล้องด้วย ส่งผลให้ค่าคงที่อัตราการดูดซึมน้ำและการขยายปริมาตรระหว่างการหุงสุกของ เมล็ดข้าวที่ผ่านคลื่นคลื่นอัลตราโชนิกส์เพิ่มขึ้น (0.114 กรัมนาที และ 0.114 ช.ม. .นาที, ตามลำดับ) และมี ค่าสูงกว่าข้าวกล้องที่ผ่านการเตรียมโดยใช้เอนไซม์ (0.061-0.095 กรัม.นาที และ 0.070-0.101 ช.ม. .นาที ตามลำดับ) การใช้คลื่นอัลตราโชนิกส์และการใช้เอนไซม์สามารถลค่าความแข็งของข้าวกล้องหุงสุกจาก 206.05 นิวตัน เหลือ 192.22 -154.02 นิวตัน ซึ่งข้าวกล้องที่ผ่านการเตรียมด้วยเอนไซม์แอลฟา-แอมิเลสมีค่า ความนุ่มมากที่สุด และมีค่า estimated glycaemic index ในระดับปานกลางเช่นเดียวกับข้าวกล้องตัวอย่าง ควบคุม จากการประเมินคุณภาพประสาทสัมผัสข้วกล้องที่เตรียมโตยเอนไซม์แอลฟา-แอมิเลสมีคะแนน ความชอบสูงที่สุด แม้ว่าการใช้คลื่นอัลตราโชนิกส์สามารถปรับปรุงคุณภาพการหุงสุกโดยการลดค่ความแข็ง เพิ่มการขยายปริมาตรของเมล็ดข้าวสุก โดยไม่มีผลต่อปริมาณ rapidly available glucose แต่ทำให้เกิด ลักษณะปรากฎและรสชาติที่ไม่เป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภค ดังนั้น การใช้เอนไซม์แอลฟา-แอมิเลสในการเตรียม ข้าว จึงมีศักยภาพสูง ในการปรับปรุงคุณภาพการหุงสุกของทั้งข้าวขาวและข้าวกล้องที่มีปริมาณแอมิโลสสูง
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: เพิ่มความนุ่ม
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การออกแบบกระบวนผลิตข้าวชนิดเพิ่มความนุ่มโดยใช้แบบจำลอง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2560
การเพิ่มมูลค่ากากรำข้าวจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันรำข้าวโดยการสกัดโปรตีนเข้มข้นโดยใช้เอนไซม์และการตกตะกอนด้วย polysaccharides การเพิ่มมูลค่ากากรำข้าวจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันรำข้าวโดยการสกัดโปรตีนเข้มข้นโดยใช้เอนไซม์และการตกตะกอนด้วย polysaccharides การเพิ่มมูลค่ากากรำข้าวจากอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันรำข้าวโดยการสกัดโปรตีนเข้มข้นโดยใช้เอนไซม์และการตกตะกอนด้วย Polysaccharides คุณสมบัติแป้งข้าวที่ทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์จากข้าวพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในอาหารเพื่อสุขภาพ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเพิ่มผลผลิตและพยากรณ์การผลิตข้าว การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโดยใช้องค์ความรู้ใหม่ในการจัดการศัตรูข้าวเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตข้าวในนาชลประทาน การใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำพ่นทางใบเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าว การผลิตสารสกัดโปรตีนจากรำข้าวเพื่อใช้ยับยั้งการเกิดสีน้ำตาลเนื่องจากเอนไซม์ในผักและผลไม้ การผลิตโอลิโกแซคคาไรด์จากเฮมิเซลลูโลสที่ละลายในน้ำและในด่างจากผลผลิตพลอยได้จากข้าวโดยกระบวนการทางเอนไซม์ร่วมกับไมโครเวฟ และประสิทธิภาพต่อแบคทีเรียโพรไบโอติกภายใต้สภาวะจำลองระบบย่อยอาหาร การจัดการดินและธาตุอาหารเพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวไวต่อช่วงแสงโดยใช้แบบจำลองการปลูกข้าว (DSSAT CERES-RICE) ในจังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก