สืบค้นงานวิจัย
ออกแบบและพัฒนาเครื่องสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ในอากาศในสถานที่
Thammarak Srimarut - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: ออกแบบและพัฒนาเครื่องสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ในอากาศในสถานที่
ชื่อเรื่อง (EN): Design and development of anti-microbial sanitizing sprayer for controlling microorganisms in wordplace
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Thammarak Srimarut
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนาเครื่องสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุม ปริมาณแบคทีเรียในห้องผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล เครื่องสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อที่สร้างขึ้นมีลักษณะ เป็นถังสแตนเลสขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร สูง 1.30 เมตร มีทางดูดอากาศเข้าที่ด้ายข้าง รอบตัวถังและทางจ่ายอากาศที่ด้านบน ภายในตัวเครื่องประกอบด้วย ชั้นของมีเดียแพคกิ้ง หัว สเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อ แผ่นดักละอองน้ำ และพัดลมดูดอากาศ โดยเครื่องจะดูดอากาศที่ปนเปื้อนเข้าที่ ทางดูดอากาศและอากาศจะถูกเป่าออกทางด้านจ่ายอากาศด้วยอัตรา 2,245 และ 1,441.5 ลูกบาศก์ เมตรต่อชั่วโมง น้ำยาฆ่าเชื่อที่ใช้สเปรย์ในเครื่อง คือ TEGO51 ความเข้มข้น 0.2, 0.5 และ 1.0 เปอร์เซ็นต์ การศึกษานี้ได้ทำการหาปริมาณแบคทีเรียในอากาศในห้องผู้ป่วยนอกที่แต่ละช่วงเวลา จากนั้นจึงหาระยะเวลาที่เหมาะสมในการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องเพื่อลดปริมาณแบคที่เรีย ในห้องผู้ป่วยนอก ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องโดยใช้ ความเข้มข้นของน้ำยาฆ่าเชื้อ 3 ความเข้มข้น และอัตราการดูดอากาศ 2 ค่า ทำการเก็บแบคทีเรียก่อนและหลังเดินเครื่องที่ระยะเวลา 60, 120, 180 และ 240 นาที ตามลำดับ หลังจากนั้นทดลองเดินเครื่องเป็นระยะเวลา 480 นาที ผลการศึกษาพบว่า ในห้องผู้ป่วยนอกมีปริมาณการสะสมของแบคทีเรียในอากาศเพิ่มขึ้น ตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาในห้อง หลังจากทำการเดินเครื่องที่อัตราการดูดอากาศ 1,441.5 ลูกบาศก์ เมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลา 240 นาที โดยใช้ น้ำยาฆ่าเชื้อ TEGO51 ความเข้มข้น 1.0 เปอร์เซ็นต์ ให้ ประสิทธิภาพในการลดปริมาณแบคทีเรียได้สูงสุดถึง 78-95 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณแบคทีเรียมี ความสัมพันธ์กับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาในห้องในขณะที่ระยะเวลาในการเดินเครื่องช่วยลดปริมาณ การสะสมของแบคทีเรียในอากาศภายในห้อง
บทคัดย่อ (EN): The study was undertaken to design and develop an anti-microbial sanitizing sprayer for controlling airborne bacteria in the OPD room of hospitals. The sprayer was housed in a chamber which was 100-cm wide, and 130-cm high, consisting of a return air grill beside the chamber and an air supply grill on the top of the chamber. There was also a packing media layer, sanitizing spray nozzles, mist eliminator and blower inside the chamber. The anti-microbial sanitizing sprayer was designed to bring contaminated air through the return air grill and supply treated air through the top of it at a flow rate of 2,245 and 1,441.5 cubic meter per hour. The sanitizer sprayed in the chamber was TEGO51, and it was used at 0.2, 0.5 and 1.0 percent concentrations. The study began with the determination of background bacteria concentrations in the OPD room at each hour and with different numbers of patients. Then the appropriate duration for testing the efficiency of the anti-microbial sanitizing sprayer in reducing airborne bacteria in the OPD room was determined. The efficiency of the anti-microbial sanitizing sprayer was tested using three concentrations of TEGO51 and two different air flow rates by collecting bacteria samples before and after operating the anti-microbial sanitizing sprayer for 60, 120, 180 and 240 minutes, respectively. Then the anti-microbial sanitizing sprayer was operated for 480 minutes. The results showed that the bacteria concentration in the OPD room increased and continued accumulate when the patients were in the room. But operating the sprayer with 1.0%TEGO51 at an air flow rate of 1,441.5 cubic meter per hour for 240 minutes provided the highest efficiency of bacteria reduction of 78-95%. The bacteria concentration related to the number of patients while the duration of operating the anti-microbial sanitizing sprayer related to the accumulation of airborne bacteria in OPD room.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=2981&obj_id=2630
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): isolation & purification
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและพัฒนาเครื่องสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุม ปริมาณแบคทีเรียในห้องผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล เครื่องสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อที่สร้างขึ้นมีลักษณะ เป็นถังสแตนเลสขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 เมตร สูง 1.30 เมตร มีทางดูดอากาศเข้าที่ด้ายข้าง รอบตัวถังและทางจ่ายอากาศที่ด้านบน ภายในตัวเครื่องประกอบด้วย ชั้นของมีเดียแพคกิ้ง หัว สเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อ แผ่นดักละอองน้ำ และพัดลมดูดอากาศ โดยเครื่องจะดูดอากาศที่ปนเปื้อนเข้าที่ ทางดูดอากาศและอากาศจะถูกเป่าออกทางด้านจ่ายอากาศด้วยอัตรา 2,245 และ 1,441.5 ลูกบาศก์ เมตรต่อชั่วโมง น้ำยาฆ่าเชื่อที่ใช้สเปรย์ในเครื่อง คือ TEGO51 ความเข้มข้น 0.2, 0.5 และ 1.0 เปอร์เซ็นต์ การศึกษานี้ได้ทำการหาปริมาณแบคทีเรียในอากาศในห้องผู้ป่วยนอกที่แต่ละช่วงเวลา จากนั้นจึงหาระยะเวลาที่เหมาะสมในการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องเพื่อลดปริมาณแบคที่เรีย ในห้องผู้ป่วยนอก ได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องโดยใช้ ความเข้มข้นของน้ำยาฆ่าเชื้อ 3 ความเข้มข้น และอัตราการดูดอากาศ 2 ค่า ทำการเก็บแบคทีเรียก่อนและหลังเดินเครื่องที่ระยะเวลา 60, 120, 180 และ 240 นาที ตามลำดับ หลังจากนั้นทดลองเดินเครื่องเป็นระยะเวลา 480 นาที ผลการศึกษาพบว่า ในห้องผู้ป่วยนอกมีปริมาณการสะสมของแบคทีเรียในอากาศเพิ่มขึ้น ตามจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาในห้อง หลังจากทำการเดินเครื่องที่อัตราการดูดอากาศ 1,441.5 ลูกบาศก์ เมตรต่อชั่วโมง เป็นเวลา 240 นาที โดยใช้ น้ำยาฆ่าเชื้อ TEGO51 ความเข้มข้น 1.0 เปอร์เซ็นต์ ให้ ประสิทธิภาพในการลดปริมาณแบคทีเรียได้สูงสุดถึง 78-95 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณแบคทีเรียมี ความสัมพันธ์กับจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามาในห้องในขณะที่ระยะเวลาในการเดินเครื่องช่วยลดปริมาณ การสะสมของแบคทีเรียในอากาศภายในห้อง
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ออกแบบและพัฒนาเครื่องสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุมปริมาณจุลินทรีย์ในอากาศในสถานที่
Thammarak Srimarut
มหาวิทยาลัยมหิดล
2549
การพัฒนาเครื่องอินเวอร์เตอร์พร้อมตัวควบคุมสภาวะอากาศและระบายอากาศในเรือนปิดปศุสัตว์ เพื่อการประหยัดพลังงาน การปฏิบัติด้านสุขลักษณะระดับครัวเรือนปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ปริมาณฝุ่น & การพัฒนาและออกแบบเครื่องกลั่นน้ำที่มีการเดือด คุณภาพอากาศทางจุลินทรีย์ ปริมาณฝุ่น และการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องในผู้ค้าริมถนนกรุงเทพเมืองแฟชั่น การแยกและควบคุมการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่สร้างเม็ดสีแดงในระบบบำบัดแบบกึ่งไร้อากาศ การปฏิบัติด้านสุขลักษณะระดับครัวเรือนปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ปริมาณฝุ่น (10 ไมครอน) และควา การพัฒนาดัชนีชี้วัดปริมาณไนโตรเจนในใบของข้าวโพด คุณภาพอากาศทางจุลินทรีย์, การปฏิบัติด้านความปลอดภัยชีวภาพและอาการแสดงที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพอากาศของบุคลากรในห้องปฏิบ การตรวจอย่างรวดเร็วเพื่อหาปริมาณละอองฝอยของเชื้อลีเจียนแนร์ โดยใช้เทคนิคการเก็บอากาศผ่านน้ำร่วมกับวิธีเพิ่มปริมาณ การพัฒนาระบบทำลายเชื้อจุลินทรีย์แบบฉีดไอน้ำโดยตรง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก