สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาเชื้อราก่อโรคในไข่และตัวอ่อนปลาบึก
องอาจ เลาหวินิจ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาเชื้อราก่อโรคในไข่และตัวอ่อนปลาบึก
ชื่อเรื่อง (EN): A Study on Pathogenic Water Mold and Bacteria in Mekong Giant Catfish (Pangasianodon gigas ) Eggs and Fry
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: องอาจ เลาหวินิจ
บทคัดย่อ: การเพาะแยกเชื้อราน้ำจากตัวอย่างไข่ปลาบึกและตัวอย่างน้ำจากบ่อเพาะฟัก ที่เก็บจากสถาบันวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ถึง 2553 สามารถแยกเชื้อราน้ำได้ 2 สกุล คือ Achlya และ Saprolegnia ทั้งจากไข่และน้ำ เมื่อนำมาทดสอบความสามารถการก่อโรคกับไข่ปลาบึกในห้องทดลอง พบว่าเชื้อราน้ำที่สามารถก่อโรคกับไข่ในห้องทดลอง คือ เชื้อ Achlya spp.สายพันธุ์ T.MCF1-02 E.MCF 2-001 E4/52-10 และเชื้อ Saprolegnia spp. E1/53-12 และคุณสมบัติทางชีววิทยาบางประการของเชื้อ Achlya และ Saprolegnia แยกได้จากไข่ปลาบึกและน้ำตลอดระยะเวลา 3 ปี สามารถทนต่อความเค็มของเกลือโซเดียมคลอไรด์ที่ 10 ppt และ 25 ppt ตามลำดับ ยกเว้น Saprolegnia spp. E3/52-P2 ที่ทนความเค็มของเกลือโซเดียมคลอไรด์ที่ 30 ppt อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญของสายรา Achlya spp. และ Saprolegnia spp.ที่แยกได้จากไข่ปลาบึก คือ 30 0C และพบว่าสายรา Achlya spp. และ Saprolegnia spp.ที่แยกได้สามารถเจริญที่ค่าpH 4-11 และค่าpH ที่เหมาะสมคือ 5 และ 6 ตามลำดับ การเพาะแยกเชื้อราน้ำจากตัวอย่างไข่ปลาบึกและตัวอย่างน้ำจากบ่อเพาะฟัก ที่เก็บจากสถาบันวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ถึง 2553 สามารถแยกเชื้อราน้ำได้ 2 สกุล คือ Achlya และ Saprolegnia ทั้งจากไข่และน้ำ เมื่อนำมาทดสอบความสามารถการก่อโรคกับไข่ปลาบึกในห้องทดลอง พบว่าเชื้อราน้ำที่สามารถก่อโรคกับไข่ในห้องทดลอง คือ เชื้อ Achlya spp.สายพันธุ์ T.MCF1-02 E.MCF 2-001 E4/52-10 และเชื้อ Saprolegnia spp. E1/53-12 และคุณสมบัติทางชีววิทยาบางประการของเชื้อ Achlya และ Saprolegnia แยกได้จากไข่ปลาบึกและน้ำตลอดระยะเวลา 3 ปี สามารถทนต่อความเค็มของเกลือโซเดียมคลอไรด์ที่ 10 ppt และ 25 ppt ตามลำดับ ยกเว้น Saprolegnia spp. E3/52-P2 ที่ทนความเค็มของเกลือโซเดียมคลอไรด์ที่ 30 ppt อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญของสายรา Achlya spp. และ Saprolegnia spp.ที่แยกได้จากไข่ปลาบึก คือ 30 0C และพบว่าสายรา Achlya spp. และ Saprolegnia spp.ที่แยกได้สามารถเจริญที่ค่าpH 4-11 และค่าpH ที่เหมาะสมคือ 5 และ 6 ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): The isolated fungus from the both of a Makong Giant Catfish, Pangasianodon gigas, eggs and the cultural water at Inland Aquaculture Research Institute, Phra Nakhon Sri ayutthaya province, during 2008 to 2010, are the genus Achlya and Saprolegnia. The study on pathogenicity of the isolated water fungus in laboratory showed that, the pathogens are Achlya spp. (T.MCF1-02, E.MCF 2-001and E4/52-10) and Saprolegnia spp. (E1/53-12). Almost the isolated of Achlya spp. and Saprolegnia spp. could tolerated to high salinity medium at 10 ppt and 25 ppt, respectively. Except for Saprolegnia spp. (E3/52-P2) could tolerated up to 30 ppt. Optimal temperature of hypha growth were 30 0C. That hypha could grow in broth at pH 4-11, while the optimal pH for Achlya spp. and Saprolegnia spp. hypha growth were pH 5 and 6, respectively.The isolated fungus from the both of a Makong Giant Catfish, Pangasianodon gigas, eggs and the cultural water at Inland Aquaculture Research Institute, Phra Nakhon Sri ayutthaya province, during 2008 to 2010, are the genus Achlya and Saprolegnia. The study on pathogenicity of the isolated water fungus in laboratory showed that, the pathogens are Achlya spp. (T.MCF1-02, E.MCF 2-001and E4/52-10) and Saprolegnia spp. (E1/53-12). Almost the isolated of Achlya spp. and Saprolegnia spp. could tolerated to high salinity medium at 10 ppt and 25 ppt, respectively. Except for Saprolegnia spp. (E3/52-P2) could tolerated up to 30 ppt. Optimal temperature of hypha growth were 30 0C. That hypha could grow in broth at pH 4-11, while the optimal pH for Achlya spp. and Saprolegnia spp. hypha growth were pH 5 and 6, respectively.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: เชื้อราก่อโรค
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาเชื้อราก่อโรคในไข่และตัวอ่อนปลาบึก
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2553
การศึกษาชนิดของเชื้อราก่อโรคจากใบยางพาราในเขตจังหวัดศรีสะเกษ การสำรวจเชื้อแบคทีเรียสร้างสารต้านเชื้อราก่อโรคพืชเศรษฐกิจ ณ เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี การพัฒนาเพื่อใช้กากของสัตว์น้ำจำพวกมีเปลือกในการควบคุมเชื้อราก่อโรคพืชทางชีวภาพ การควบคุมทางชีวภาพจากแอคติโนมัยซีสที่แยกได้จากบริเวณรากพืช ในการยับยั้งเชื้อราก่อโรคใบไหม้ ในข้าวสายพันธุ์เศรษฐกิจของไทย การคัดแยกและเพาะเลี้ยงแบคทีเรียในน้ำเสียจากโรงงานผลิตแป้งขนมจีนในระดับอุตสาหกรรมชุมชน เพื่อการผลิตสารออกฤทธิ์ต้านเชื้อราก่อโรคพืชเศรษฐกิจ การใช้ประโยชน์จากเชื้อราในการควบคุมโรคพืช เชื้อก่อโรคในไส้อ่อนย่าง เชื้อก่อโรคในปูไข่ดอง การศึกษาการแพร่กระจายของเชื้อราในน้ำและโรคเชื้อราในปลาในแม่น้ำชี เชื้อก่อโรคในยำไข่แดงเค็ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก