สืบค้นงานวิจัย
การกำหนดพื้นที่พิบัติภัยเชิงภูมิศาสตร์ในประเทศไทยเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
วิชัย พันธนะหิรัญ - มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ชื่อเรื่อง: การกำหนดพื้นที่พิบัติภัยเชิงภูมิศาสตร์ในประเทศไทยเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ชื่อเรื่อง (EN): The delineation of geographical disaster areas due to climate change in Thailand
บทคัดย่อ: ประเทศไทยยังประสบสภาวะแวดล้อมและบริบทของการเปลี่ยนแปลงต่างๆ การเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรง ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภัยแล้ง ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและวิถีการดำรงชีวิตของคนไทย สร้างความเสียหายนับเป็นมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาท ภัยแล้งเป็นภัยธรรมชาติที่ส่งผลให้ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในลำดับประเทศที่มีความเสี่ยงต้นๆของโลก แผนพัฒนาเศรษฐกินและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 เน้น การจัดทำแผนที่ความเสี่ยงจากภัยพิบัติ ในระดับต่างๆ เพื่อนำไปสู่ภาคการบริหารจัดการอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นที่มาของการวิจัยเรื่อง การกำหนดพื้นที่พิบัติภัยเชิงภูมิศาสตร์ในประเทศไทยเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ วัตถุประสงค์ของการวิจัย ประกอบด้วย เพื่อพัฒนาแผนที่ความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ คือ ความแห้งแล้ง และ เพื่อพัฒนาแบบจำลองเพื่อการฉายภาพความเป็นไปได้ของพื้นที่ซึ่มีโอกาสการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (Geographic Information System: GIS) เป็นเครื่องมือสำหรับการวิจัย พื้นที่ศึกษา รวมพื้นที่ 320,643,689.90 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 76 จังหวัด ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ภาคเหนือ มี 9 จังหวัด ภาคกลาง 21 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 19 จังหวัด ภาคตะวันออก 7 จังหวัด ภาคตะวันตก 5 จังหวัด และภาคใต้ 14 จังหวัด ปัจจัยการวิเคราะห์ คือความลาดชัน ระยะห่างจากแหล่งน้ำ การระบายน้ำของดิน และการใช้ประโยชน์ที่ดิน การศึกษาได้ทำการแบ่งระดับความแห้งแล้งออกเป็น 5 ระดับ คือ พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับสูงมาก พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับสูง พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับปานกลาง พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับต่ำ และพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับต่ำมาก ผลการศึกษาพบว่า พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับสูงมาก ครอบคลุมพื้นที่ 14,719,102.29 ไร่ (4.59%) พบมากที่สุดคือภาคกลางพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับสูง ครอบคลุมพื้นที่ 69,432,760.05 ไร่ (21.65%) พบมากที่สุดคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับปานกลาง ครอบคลุมพื้นที่ 57,267,967.94 ไร่ (17.86%) พบมากที่สุดคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับต่ำ ครอบคลุมพื้นที่ 43,178,826.98 ไร่ (13.47%) พบมากที่สุดคือภาคกลาง พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งระดับต่ำมาก ครอบคลุมพื้นที่ 9,246,406.75 ไร่ (2.88%) พบมากที่สุดคือภาคเหนือ สำหรับพื้นที่กันออกจากการวิเคราะห์ ซึ่งได้แก่ ป่า แหล่งน้ำ เมือง ทางน้ำ และกิจกรรมอื่นๆ มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 126,798,625.93 ไร่ (39.55%) หมู่บ้านเสี่ยงภัยแล้งระดับสูงมาก เมีจำนวน 1,653 หมู่บ้าน หมู่บ้านเสี่ยงภัยแล้งระดับสูง มีจำนวน 10,576 หมู่บ้าน หมู่บ้านเสี่ยงภัยแล้งระดับปานกลาง มีจำนวน 12,607 หมู่บ้าน หมู่บ้านเสี่ยงภัยแล้งระดับต่ำ เท่ากับ 11,833 หมู่บ้าน หมู่บ้านเสี่ยงภัยแล้งระดับต่ำมากเท่ากับ 6,767 หมู่บ้าน สำหรับพื้นที่กันออกจากการวิเคราะห์ มีหมู่บ้าน จำนวน 20,405 หมู่บ้าน เมื่อพิจารณาความเสี่ยงภัยแล้งของหมู่บ้าน ตั้งแต่ระดับปานกลาง ถึงสูงมาก มีหมู่บ้านที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว จำนวน 24,836 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่บ้านใน ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ มีมากที่สุด คือ 10,249 หมู่บ้าน รองลงมาคือภาคใต้ (4,882 หมู่บ้าน) ภาคกลาง (4,209 หมู่บ้าน) ภาคเหนือ (2,317 หมู่บ้าน) ภาคตะวันตก (1,600 หมู่บ้าน) และภาคตะวันออก (1,579 หมู่บ้าน) ผลการศึกษาดังกล่าวสามารถนำไปใช้ เพื่อการวางแผนการป้องกัน และบริหารจัดการภัยแล้งได้ในระดับหมู่บ้านอย่างเป็นรูปธรรม
บทคัดย่อ (EN): Thailand has been affected by the environmental disasters especially the drought. The disasters have more frequently and severely occurred nowadays which directly affects to Thai society. The cost of social and economic losses is significantly increased everyday. Drought in Thailand was ranked as the worlds most vulnerable country. The twelfth national economic and social development plan (2017-2021) focuses on disaster risk mapping at various levels and leading to concrete disaster management. This result initiated this research. The objectives of the research were to develop a model for the projection the potential of the disaster-prone area and to develop a natural drought disaster risk maps. Geographic Information System (GIS) was used as a tool for research. The study area covered the area of 320,643,689.90 rai including 76 provinces except Bangkok. Those provinces were grouped into northern region (9 provinces), central region (21 provinces), the northeast region (19 provinces), the eastern region (7 provinces), the western region (5 provinces) and southern part (14 provinces). The four parameter were used for spatial analysis including the slope, the distance from water source, soil drainage and land use. The five levels of drought risk were classified namely very high, high, Medium, low, and very low. The study found that very high risk area covered the area of 14,719,102.29 rai (4.59%) which was mainly in central region. High risk area covered the area of 69,432,760.05 rai (21.65%) which was mainly in the northeast region. Medium risk area covered the area of 57,267,967.94 rai (17.86%) which was found mainly the northeast region. Low risk area covered the area of 43,178,826.98 rai (13.47%) which found mainly in the central region. Very low risk drought area. The area is 9,246,406.75 rai (2.88%). The most common is the northern part. The areas of 126,798,625.93 rai (39.55%) were excluded from the analysis including the forest, water sources, urban area, rivers and stream, and unclassified areas. It was found that the 12,607 villages were classified as high risk drought followed by low risk drought (11,833 villages), high risk drought (10,576 villages), very low risk drought (6,767 villages), and very high risk drought (1,653 villages). It was considered that the levels of medium, high, and very high were classified as drought risk villages which were 24,836 villages. The villages of northeast region were highest (10,249 villages) followed by the south region (4,882 villages), central region (4,209 villages) north region (2,317 villages), west region (1,600 villages) and east region (1,579 villages), respectively. The results of this research can be used as the basic information for drought prevention, drought management and planning.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
คำสำคัญ: ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การกำหนดพื้นที่พิบัติภัยเชิงภูมิศาสตร์ในประเทศไทยเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
30 กันยายน 2560
การประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในระบบนิเวศป่าไม้: ภาคเหนือของประเทศไทย การศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอดีตของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยโดยการวิเคราะห์วงปีไม้ การศึกษาผลกระทบของพันธกรณีระหว่างประเทศด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกต่อปศุสัตว์ของประเทศไทย ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการผลิตอ้อยในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย : พื้นที่ศึกษา จังหวัดกาฬสินธุ์ ผลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อรายได้ของเกษตรกร การศึกษาผลการปรับตัวของเกษตรกรต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การศึกษาผลการปรับตัวของเกษตรกรต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาอาหารเพื่อการเลี้ยงปลาสเตอร์เจี่ยนในสภาพการเลี้ยงของประเทศไทย ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินทางการเกษตร การศึกษาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อรายได้ครัวเรือนเกษตร
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก