สืบค้นงานวิจัย
การคัดเลือกแอคติโนมัยสีทกลุ่มปฏิปักษ์ต่อจุลินทรีย์ก่อโรคในหน้าวัว
มัลลิกา ธีระกุล - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ชื่อเรื่อง: การคัดเลือกแอคติโนมัยสีทกลุ่มปฏิปักษ์ต่อจุลินทรีย์ก่อโรคในหน้าวัว
ชื่อเรื่อง (EN): Screening of Actinomycete Antagonists Against Anthurium Diseases Pathogen
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: มัลลิกา ธีระกุล
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสามารถของเชื้อแอคติโนมัยสีทที่คัดแยกได้จาก วัสคุปลูกค้นหน้าวัวในการขับยั้งจุลินทรีย์ก่อโรคแอนแทรค โนสในหน้าวัว จากการศึกษาการคัด แยกแอคติโนมัยสีทจากวัสคุปลูกต้นหน้าวัวจากแหล่งขยายพันธุ์และจำหน่าย 5 แหล่ง คือ ขอนแก่น บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี นครราชสีมา และมหาสารคาม สามารถคัดแยกแอคติโนมัยสีทได้ทั้งหมด ไอโซเลต โดยมีลักษณะสัณฐานวิทยาคังนี้ สีของกลุ่มสปอร์หรือ spore Iลss มีสีเทา คือไอโซเลต AB-1, AB-3 และ AB-6 และสีของกลุ่มสปอร์หรือ spore mass มีสีขาว คือ AB-2 และ AB-5 และ ลักษณะของสี substrate mycelium มีความหลากหลายของสี substrate mycelium เช่น สีเทา เหลือง น้ำตาล คำ และ ขาว โดยส่วนใหญ่ไอโซเลตแอคติโนมัยสีทมีลักษณะ ของการสร้างสปอร์เป็นแบบ conidia คือจะสร้าง conidia ต่อกันเป็นเส้นสาย ยกเว้น AB-5 มีลักษณะของการสร้างสปอร์เป็นแบบ สปอร์เรียงต่อกัน 2 เซลล์สปอร์ การผลิต melanin pigment หรือรงควัตถุที่แพร่ลงสู่อาหาร แอคติโน มัยสีทที่คัดแยกได้ส่วนใหญ่ผลิต melanin pigment เป็นสีน้ำตาล แด่ไอโซเลต AB-2 และ AB-5 ไม่ พบการผลิต elanin pigment ทุกไอโซเลตแอคติโนมัยสีทมีลักษณะ mycelium ไม่แตกหัก เมื่อจัด จำแนกแอคติโนมัยสีทที่คัดแยกได้โคยใช้ลักษณะทางสัญฐานวิทยานำมาเทียบเคียงกับ เอกสารอ้างอิง พบว่า 4 ไอโซเลตมีลักษณะทางสัณฐานวิทยาคล้ายคลึงกับจีนัส Steptomyces มี ลักษณะ conidia ต่อกันเป็นสายโซ่ยาว ส่วน 1 ไอโซเลตมีลักษณะทางสัญฐานวิทยาคล้ายคลึงกับ จีนัส Microhisora ซึ่งมีลักษณะการสร้างสปอร์แบบคู่ การทคสอบประสิทธิภาพของแอคติโนมัย สีทที่คัดแยกได้ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราสาเหตุโรคแอนแทรค โนส (Collcutichun spp) พบว่ไอโซเลต AB-1 มีประสิทธิภพในการขับยั้งการเจริญของเชื้อราสาเหตุโรคแอนแทรคโนส สูงสุดคือ 61.25% รองลงมาได้แก่ ไอโซเลต AB-2 (46.67 %) ส่วนไอโซเลต AB-3 และ AB-6 มื ประสิทธิภาพในการยับยั้งใกล้เคียงกันคือ 42.50% และ 42.08% ดามลำดับ และไอโซเลต AB-5 มี ประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของเชื้อราสาเหตุโรคแอนแทรคโนสต่ำที่สุดคือ S.75% จากนั้น ทำการผลิตและสกัคสารปฏิชีวนะจากแอคติโนมัยสีทสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพดี ในการยับยั้ง จุลินทรีย์ และทคสอบประสิทธิภาพของสารที่สกัดได้ในการยับยั้งการเจริญของเชื้อรา Colletotrichum spp.ด้วยวิธี agar well diffusion method โดยเปรียบเทียบกับชุดควบคุม จากผล การศึกษาพบว่าค่ inhibition zone ของชุดทดลองและชุดควบคุมไม่มีแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญมี ความเป็นไปได้ว่าสารสกัดที่ได้มีความคงตัวต่ำจึงส่งผลต่อประสิทธิภาพในการยับยั้งการเจริญของ เชื้อราสาเหตุโรคแอนแทรคโนส จากนั้นทำการทคสอบประสิทธิภาพของสารสกัดจากเชื้อแอคติโน มัยสีทในการยับยั้งการเกิดโรคแอนแทรคโนสบนใบของต้นหน้าวัวในเรือนทดลอง พบว่าร้อยละ การเกิดโรคแอนแทรคโนสบนใบของต้นหน้าวัวเมื่อใช้สารสกัดจากเชื้อแอคติโนมัยสีทในการยับยั้ง การเกิดโรคเท่ากับ 11.08 เมื่อเปรียบเทียบกับชุดควบคุม (ร้อยละ 9.11) ไม่มีความแตกต่างกันทาง สถิติ แม้ว่าการทคสอบในจานเลี้ยงเชื้อในห้องปฏิบัติการ แอคติโนมัยสีทไอโซเลต AB-1 มี ความสามารถในการขับยั้งการเจริญของเชื้อราสาเหตุโรคแอนแทรคโนสบนอาหารเลี้ยงเชื้อได้สูงถึง 61.25% ทั้งนี้อาจเป็นไปได้ว่าการผลิตสารปฏิชีวนะหรือฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อ น่าจะเกิดขึ้นได้ดีใน สภาพที่เชื้อแอคดิโนมัยสีทสายพันธุ์คังกล่าวอยู่บนอาหารเลี้ยงเชื้อมากกว่าบนเนื้อเยื่อพืช
บทคัดย่อ (EN): The objective of this research was to isolate and screen for potential actinomycete antagonists against antracnose pathogen from anthurium growing media. Base on the collected growing media from Khon Kaen, Buriram, Prachinburi, Nakhonratchasima and Mahasarakham, 5 actinomycete isolates were identified, AB-1, AB-2, AB-3, AB-5 and AB-6. The morphological characteristics of the isolates were different on starch casein agar. The spore mass color of isolates AB-1, AB-3 and AB-6 were gray and the spore mass color of isolates AB-2 and AB-5 were white. The appearance of a color substrate mycelium was variety such as gray, yellow, brown, black and white. Spore characteristic of all actinomycete isolates was a conidia spore and produced in long chain except isolate AB-5 that produced two spores in chain. The production of melanin pigment or pigment spread into media was studied. Most actinomycetes isolated to produce melanin pigment were brown but isolates AB-2 and AB-5 were not found to produce melanin pigment. All isolates were mycelium unbreakable. According to morphology structure, 4 isolates, which were gram-positive and produced aerial mycelium abundantly and have long chain spore, were identified as the genus Streptomyces. Isolate AB-5 which produced two spores in chain were identified as the genus Microbispora. The inhibition efficiency of isolates against anthurium antracnose pathogen, Colletotrichum spp., has been evaluated. Among all isolates subjected to dual culture test, the highest inhibition effect was from isolate AB-1 (61.25%). Isolates AB-2, AB-3 and AB-6 have inhibition effect 46.67%, 42.50% and 42.08%, respectively. Isolates AB-5 showed lowest inhibition effect (8.75%). Isolated AB-1 was cultured in ISP2 as antibiotic production medium under 200 rpm shaking condition at 30oC, and then active compounds were extracted from fermentation broth using ethyl acetate. Colletotrichum spp. inhibition efficiency of AB-1 extracted was studies by agar well diffusion method. It was found that the extract of fermentation broth could not inhibit the growth of Colletotrichum spp. because of non significantly difference of inhibition zone between control and the AB-1 extracted. One possibility was that the extracted solution had low stability, thus affects the inhibition efficiency of anthracnose pathogenic fungi. AB-1 extracted was tested against anthracnose disease on anthurium leaf by spraying method in the greenhouse. The percentage of infected leaf area of AB-1 extracted and control treatment were 11.09 and 9.11, respectively. It revealed that the AB- 1 extracted was effective inhibitory nearly the same as spraying with the control treatment, however, isolated AB-1 was highly effective inhibitory the growth of anthracnose pathogenic fungi (61.25%) in lab scale. The results suggested that antibiotics from isolated AB-1 showed better inhibitory effect on anthracnose pathogenic fungi when tested on agar than on plant tissue.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
คำสำคัญ: หน้าวัว
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การคัดเลือกแอคติโนมัยสีทกลุ่มปฏิปักษ์ต่อจุลินทรีย์ก่อโรคในหน้าวัว
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
30 กันยายน 2557
ความหลากหลายทางชีวภาพและสารต้านจุลินทรีย์ของแอคติโนมัยสีทจากถ้ำ การสำรวจความหลากหลายของแอคติโนมัยสีทจากดินในสวนส้มโอพื้นที่จังหวัดนครปฐม การศึกษาเชื้อแอคติโนมัยสีทในดินบริเวณเขื่อนสิรินธรและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เชื้อผลิต การศึกษาพันธุ์หน้าวัว ผลกระทบของสารประกอบทองแดงในการควบคุมโรคใบไหม้ของหน้าวัว การคัดเลือกเชื้อ actinomycetes เบื้องต้นเพื่อควบคุมเชื้อรา Lasiodiplodia sp. สาเหตุโรคปลีเน่าในดอกหน้าวัว โครงการวิจัยการปรับปรุงพันธุ์หน้าวัว การใช้สารกลุ่มปลอดภัยในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสของผลมะม่วง การระบุสายพันธุ์หน้าวัวโดยใช้ดีเอ็นเอบาร์โค้ด ความหลากหลายทางพันธุกรรมของหน้าวัวจากเทคนิคลายพิมพ์เอเอฟแอลพี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก