สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาระบบการให้น้ำพืชแบบซึมซาบผ่านวัสดุพรุน
รัตนา สุวรรณเลิศ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาระบบการให้น้ำพืชแบบซึมซาบผ่านวัสดุพรุน
ชื่อเรื่อง (EN): The Development on Infiltrated Water Supply to Plant through Porous Devices
บทคัดย่อ: การวิจัยและพัฒนาระบบการใช้น้ำแบบซึมซาบผ่านวัสดุพรุน เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้น้ำแก่พืช โดยใช้หลักการแพร่ของน้ำจากบริเวณที่มีความชื้นสูงไปสู่บริเวณที่มีความชื้นต่ำกว่า โดยในการศึกษาได้มีการศึกษาวัตถุดิบที่ใช้ในการทำวัสดุพรุน พบว่า ดินที่ใช้ในการทดลองจะใช้ดินที่มาจากสถานีวิจัยกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีสัดส่วนประกอบด้วย ทราย 41 เปอร์เซ็นต์ ทรายแป้ง 30 เปอร์เซ็นต์ ดินเหนียว 29 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจัดว่าเป็นดินร่วนเหนียว และถ่านซังข้าวโพด โดยได้จากการเอาซังข้าวโพดตากแดดและเผาให้เป็นถ่าน ย่อยผ่านตะแกรงขนาด 2.00 มิลลิเมตร (10 mesh) - 425 ไมโครเมตร (40 mesh), 425 ไมโครเมตร (40 mesh) - 250 ไมโครเมตร (60 mesh), 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) พบว่า ถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) จะให้ผลิตภัณฑ์ที่มีความพรุน และความแกร่งมากกว่าถ่านซังข้าวโพดขนาดอื่นๆ ส่วนการทดลองหาอัตราการไหลของน้ำในห้องทดลอง จะพบว่า ดินที่ผสมถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) จะมีอัตราการไหลของน้ำมากที่สุด และผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณถ่านซังข้าวโพดผสมอยู่ 15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก จะมีอัตราการไหลของน้ำดีที่สุด นำวัสดุพรุนที่ได้ไปทดลองในแปลงโดยใช้ระบบเปิด พบว่า อัตราส่วนของวัสดุพรุนที่เหมาะสมในการให้น้ำในระบบเปิด คือ ต้องมีปริมาณของดิน 95 – 85 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก และใช้ถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) 5 – 15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ส่วนการทดลองในระบบปิดหรือระบบสูญญากาศนั้น พบว่า น้ำจะหยุดไหลเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม และสามารถไหลได้อีกเมื่อมีความชื้นลดลง ซึ่งการทดลองพบว่า ถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) สามารถให้น้ำแก่พืชได้ดีกว่าขนาดอื่น ๆ โดยอัตราส่วนของวัสดุพรุนในการให้น้ำในระบบปิด คือ ปริมาณของดิน 95 – 85 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก และใช้ถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) 5 – 15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก จึงจะเป็นวัสดุพรุนที่เหมาะสมที่สุดในการใช้เพื่อการให้น้ำแก่พืชการวิจัยและพัฒนาระบบการใช้น้ำแบบซึมซาบผ่านวัสดุพรุน เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้น้ำแก่พืช โดยใช้หลักการแพร่ของน้ำจากบริเวณที่มีความชื้นสูงไปสู่บริเวณที่มีความชื้นต่ำกว่า โดยในการศึกษาได้มีการศึกษาวัตถุดิบที่ใช้ในการทำวัสดุพรุน พบว่า ดินที่ใช้ในการทดลองจะใช้ดินที่มาจากสถานีวิจัยกาญจนบุรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีสัดส่วนประกอบด้วย ทราย 41 เปอร์เซ็นต์ ทรายแป้ง 30 เปอร์เซ็นต์ ดินเหนียว 29 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจัดว่าเป็นดินร่วนเหนียว และถ่านซังข้าวโพด โดยได้จากการเอาซังข้าวโพดตากแดดและเผาให้เป็นถ่าน ย่อยผ่านตะแกรงขนาด 2.00 มิลลิเมตร (10 mesh) - 425 ไมโครเมตร (40 mesh), 425 ไมโครเมตร (40 mesh) - 250 ไมโครเมตร (60 mesh), 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) พบว่า ถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) จะให้ผลิตภัณฑ์ที่มีความพรุน และความแกร่งมากกว่าถ่านซังข้าวโพดขนาดอื่นๆ ส่วนการทดลองหาอัตราการไหลของน้ำในห้องทดลอง จะพบว่า ดินที่ผสมถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) จะมีอัตราการไหลของน้ำมากที่สุด และผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณถ่านซังข้าวโพดผสมอยู่ 15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก จะมีอัตราการไหลของน้ำดีที่สุด นำวัสดุพรุนที่ได้ไปทดลองในแปลงโดยใช้ระบบเปิด พบว่า อัตราส่วนของวัสดุพรุนที่เหมาะสมในการให้น้ำในระบบเปิด คือ ต้องมีปริมาณของดิน 95 – 85 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก และใช้ถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) 5 – 15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ส่วนการทดลองในระบบปิดหรือระบบสูญญากาศนั้น พบว่า น้ำจะหยุดไหลเมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม และสามารถไหลได้อีกเมื่อมีความชื้นลดลง ซึ่งการทดลองพบว่า ถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) สามารถให้น้ำแก่พืชได้ดีกว่าขนาดอื่น ๆ โดยอัตราส่วนของวัสดุพรุนในการให้น้ำในระบบปิด คือ ปริมาณของดิน 95 – 85 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก และใช้ถ่านซังข้าวโพดขนาด 250 ไมโครเมตร (60 mesh) - 150 ไมโครเมตร (100 mesh) 5 – 15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก จึงจะเป็นวัสดุพรุนที่เหมาะสมที่สุดในการใช้เพื่อการให้น้ำแก่พืช
บทคัดย่อ (EN): The Research and Development on Infiltrated Water Supply to plant through Porous Device is the way to increase efficiency for watering plants by principle of diffusion from high moisture concentration to moisture concentration. The experiment was focused on the study of raw materials used for the Porous Device. The materials were used: soil from the research station of Kanchanaburi, Kasetsart University, the components of soil were 65 percent sand, 4 percent silt and 31 percent clay, it is considered as clayish loam; and corncob charcoal, which made from burned dried corncob. The corncob charcoal was grounded and run through successive sieve size 2.00 millimeter (10 mesh) – 425 micrometer (40 mesh), 425 micrometer (40 mesh) – 250 micrometer (60 mesh) and 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh). It showed that the corncob charcoal size 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) could make the porous device best porosity and stronger than the others corncob charcoal. For the experiment of finding flow rate we found that a soil mix with corncob charcoal 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) will have maximum flow rate. The product which a corncob charcoal at 15 percent by weight will have the best flow rate. The product was tested by using the open system. The result show that the quantity of the porous device for the open system is appropriate with soil 95 – 85 percent by weight and using corncob charcoal size 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) 5 –15 percent by weight. And in the close system or vacuum system, water will stop flowing when the soil has appropriate moist and could flow again when the moisture is decreased. By experiment, it was found that the corncob charcoal size 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) could give watering system better than the others. For close system, the soil 95 – 85 percent by weight and corncob charcoal size 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) at 5 –15 percent by weight will be the best porous device to watering the plants.The Research and Development on Infiltrated Water Supply to plant through Porous Device is the way to increase efficiency for watering plants by principle of diffusion from high moisture concentration to moisture concentration. The experiment was focused on the study of raw materials used for the Porous Device. The materials were used: soil from the research station of Kanchanaburi, Kasetsart University, the components of soil were 65 percent sand, 4 percent silt and 31 percent clay, it is considered as clayish loam; and corncob charcoal, which made from burned dried corncob. The corncob charcoal was grounded and run through successive sieve size 2.00 millimeter (10 mesh) – 425 micrometer (40 mesh), 425 micrometer (40 mesh) – 250 micrometer (60 mesh) and 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh). It showed that the corncob charcoal size 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) could make the porous device best porosity and stronger than the others corncob charcoal. For the experiment of finding flow rate we found that a soil mix with corncob charcoal 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) will have maximum flow rate. The product which a corncob charcoal at 15 percent by weight will have the best flow rate. The product was tested by using the open system. The result show that the quantity of the porous device for the open system is appropriate with soil 95 – 85 percent by weight and using corncob charcoal size 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) 5 –15 percent by weight. And in the close system or vacuum system, water will stop flowing when the soil has appropriate moist and could flow again when the moisture is decreased. By experiment, it was found that the corncob charcoal size 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) could give watering system better than the others. For close system, the soil 95 – 85 percent by weight and corncob charcoal size 250 micrometer (60 mesh) – 150 micrometer (100 mesh) at 5 –15 percent by weight will be the best porous device to watering the plants.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: วัสดุพรุน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

รัตนา สุวรรณเลิศ. "การพัฒนาระบบการให้น้ำพืชแบบซึมซาบผ่านวัสดุพรุนThe Development on Infiltrated Water Supply to Plant through Porous Devices". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2554

รัตนา สุวรรณเลิศ. "การพัฒนาระบบการให้น้ำพืชแบบซึมซาบผ่านวัสดุพรุนThe Development on Infiltrated Water Supply to Plant through Porous Devices". มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การพัฒนาระบบการให้น้ำพืชแบบซึมซาบผ่านวัสดุพรุน
รัตนา สุวรรณเลิศ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2554
การกำจัดไนโตรเจนด้วยกระบวนการทางชีวภาพร่วมกับวัสดุพรุน การวิเคราะห์กระบวนการถ่ายเทความร้อนและการไหลหลาย สถานะในวัสดุพรุนไม้ยางพาราภายใต้พลังงานไมโครเวฟ เชิงทฤษฎีและประยุกต์ เครื่องควบคุมการให้น้ำพืชอัตโนมัติ 2558A17002106 วัสดุทดแทนจากการผสมขยะพลาสติกกับวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร การพัฒนาวัสดุกากอาหารแช่แข็งจำพวกเปลือกกุ้งเปลือกปูสำหรับเป็นวัสดุธรรมชาติที่ปลอดพิษเพื่อเติมแต่งคุณค่า และรักษาคุณภาพอาหาร การพัฒนาวัสดุคอมพอสิทของเส้นใยลำต้นปาล์มเพื่อใช้เป็นวัสดุดูดซับเสียง การผลิตวัสดุปลูกที่เหมาะสม การทดสอบวัสดุเสริมสภาพการเลี้ยงสัตว์ทดลองที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติต่อความเป็นอยู่ที่ดีและสุขภาพของหนูเม้าส์และหนูแรท ระบบสารสนเทศ เพื่อการทดสอบวัสดุวิศวกรรม การพัฒนาระบบหยิบสินค้าอัตโนมัติ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair