สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาธุรกิจเกษตรอินทรีย์ในภาคตะวันออก เพื่อสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
รัตนา ไชยช่วย - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาธุรกิจเกษตรอินทรีย์ในภาคตะวันออก เพื่อสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
ชื่อเรื่อง (EN): The development of organic agriculture business in the east of Thailand for sustainable strength of community entrepreneurs.
บทคัดย่อ: แผนงานวิจัยนี้มุ่งศึกษาเกี่ยวกับ การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการธุรกิจเกษตรอินทรีย์ การประเมินผลและการติดตามผลการดำเนินงาน การสร้างและพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือ และการพัฒนาระบบการจัดการองค์ความรู้ให้กับวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกและการจัดประชุม กลุ่มตัวอย่างคือ วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ในภาคตะวันออก 7 จังหวัด (ระยอง จันทบุรี ตราด ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว นครนายก) ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยแบ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย 1) การผลิตพืช 2) การแปรรูปและผลิตภัณฑ์อาหาร 3) การผลิตปัจจัยการผลิต 4) การผลิตแบบครบวงจร ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของวิสาหกิจชุมชน คือ ผู้นำ รูปแบบการบริหารจัดการที่ดีสำหรับวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์จะต้องมีการจัดการกลุ่ม โดยกำหนดโครงสร้างการบริหารและการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างชัดเจน สมาชิกร่วมกันกำหนดกฎระเบียบ/ข้อบังคับของกลุ่มเพื่อถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มีระบบบัญชีที่เป็นปัจจุบัน มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างสมํ่าเสมอ มีการจัดการความรู้ มีการวางแผนงานและดำเนินการตามแผน มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และมีการวางแผนการตลาดให้กับสินค้า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมสร้างเครือข่ายจำนวนทั้งหมด 12 กลุ่ม โดยมีอุดมการณ์เดียวกัน ในการผลิตสินค้าที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีความตั้งใจพัฒนาวิสาหกิจชุมชนโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ร่วมกันตั้งชื่อและออกแบบตราสัญลักษณ์เครือข่าย กำหนดโครงสร้างการบริหารและหน้าที่ของคณะกรรมการอย่างชัดเจน พัฒนาเครือข่ายโดยมีกิจกรรมร่วมกันคือ การประชุม การศึกษาดูงานระหว่างกันภายในเครือข่าย และนอกเครือข่าย ซึ่งทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ เกิดความคุ้นเคยกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่างสมาชิก มีการระดมสมองเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาให้กับกลุ่มสมาชิกเครือข่าย กำหนดให้มีแผนการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบและสินค้าระหว่างในอนาคต มีการพัฒนาระบบการจัดการองค์ความรู้ผ่านทางเว็บไซต์ ในรูปแบบของ Web Application ใช้ภาษาโปรแกรมพีเอชพีและระบบฐานข้อมูล MySQL มาพัฒนา ใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า “เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ภาคตะวันออก” ภายใต้ url : http://social.chan.rmutto.ac.th/organic/ โดยรายละเอียดภายในเว็บไซต์จัดทำขึ้นตามความต้องการของสมาชิกเครือข่าย มีระบบการประเมินผลการใช้งานเว็บไซต์เพื่อการปรับปรุงและพัฒนาให้เกิดความสะดวกต่อการใช้ของผู้ใช้ สร้างคู่มือการใช้งานให้กับสมาชิกเครือข่าย สามารถนำไปเป็นเครื่องมือการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารด้านการดำเนินวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ เกิดการเผยแพร่ความรู้ที่มีประโยชน์ไปยังสมาชิกในกลุ่ม กลุ่มเกษตรอินทรีย์อื่นๆ และผู้ที่สนใจทั่วไปอีกด้วย สรุปผลการวิจัยคือ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์นั้นมีการเหมือนกันและแตกต่างกันตามบริบทของพื้นที่และประเภทการผลิต รูปแบบการบริหารจัดการวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์ต้นแบบความสำเร็จนั้นจึงไม่มีรูปแบบตายตัว สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับกลุ่มอื่นได้ แต่ต้องพิจารณาเลือกใช้ตามความเหมาะสม
บทคัดย่อ (EN): This research project aimed to study about the development of organic agriculture business in patterns, assessment, follow up of implementation results, construction and development of cooperating networks, and the development of the system of knowledge management for the organic agriculture community entrepreneurs for their sustainable strength. The data were collected by using questionnaires, in-depth interviews and focus groups. The samples were seven organic agriculture community entrepreneur groups in the east of Thailand (Rayong, Chantaburi, Trad, Chonburi, Chacherngsao, Srakhaew, and Nakornnayok) which were guaranteed with the organic agriculture standard, divided into 4 types: (1) plant production, (2) food process and product, (3) production of producing factors, (4) production in a complete range. It was found that the key factor affecting the success of the organic agriculture community entrepreneurs were the leaders and the essential administration patterns for the organic agriculture community enterprise which were group management by means of setting administration structure and clear-cut responsibilities, rules or regulations to conform strictly set by group members, current account systems, constant human resource development, knowledge management, work plans and plan-following implementation, product development based on consumers’ needs, and marketing plans of products. There were 12 groups of the organic agriculture community entrepreneurs participating in constructing the networks under the same ideology in producing safe products for consumers with an intention to develop their organic agriculture community enterprise under the philosophy of sustainable economy. They helped in giving the name, designing the network logo, and clearly setting the administration structure with the responsibilities of the boards. They developed the network by holding activities together --- conferences, field trips inside and outside the network— which led to knowledge exchanges for the administration of the organic agriculture community entrepreneurs, familiarity and assistance among the members. They brainstormed to help solve problems for the network members, arranged the future raw material and product exchange project, developed the online knowledge management system by means of web applications using PHP programming languageand the MySOL database system to construct their own website named Community Enterprise Network of The Organic Agriculture under the url: http://social.chan.rmutto.ac.th/organic/. The details inside the website were arranged according to the needs of the network members and there was the website assessment system to improve it for users’ convenience, with the manual of usage to enable the network members to use it as a tool for exchanging information in conducting the organic agriculture enterprise, spreading useful knowledge to the group members, other organic agriculture groups and also general interested people. It can be concluded that the groups of the organic agriculture community entrepreneurs are both similar and different in the area of context and production type, and thus the prototypal patterns of success of the administration of the organic agriculture community enterprise is flexible and can be applied for use by other groups under a proper consideration.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
คำสำคัญ: ยั่งยืน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาธุรกิจเกษตรอินทรีย์ในภาคตะวันออก เพื่อสร้างความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
30 กันยายน 2558
ปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนสู่ความเข้มแข็ง แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์มะขามแปรรูปแบบมีส่วนของชุมชน กรณีศึกษาเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนมะขามแปรรูป จังหวัดเพชรบูรณ์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเข้มแข็งในการบริหารวิสาหกิจชุมชนของจังหวัดสุรินทร์ ปัจจัยที่มีผลต่อระดับความเข้มแข็งของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกษตรกรผู้เลี้ยงปลานิลในกระชัง อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี กรณีศึกษาวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรประมงบ้านบางพต และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรประมง กลุ่มวิจัยพริกเพื่อการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ที่ยั่งยืน การบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับคนในท้องถิ่น แนวทางการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อการคงอยู่ในอาชีพได้อย่างยั่งยืน การประยุกต์หลักการจัดการธุรกิจหอมแดงของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนด้วยรูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตสัตว์ปีกอย่างยั่งยืนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การศึกษาแนวทางการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ตำบลมะเกลือใหม่ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมาภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก