สืบค้นงานวิจัย
การผลิตก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กอบแห้งและน้ำมันรำข้าวบีบเย็นจากข้าวที่มีสีสายพันธุ์ SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (ติณสูลานนท์) ในเชิงพาณิชย์
ศศิวิมล จิตรากร - มหาวิทยาลัยนเรศวร
ชื่อเรื่อง: การผลิตก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กอบแห้งและน้ำมันรำข้าวบีบเย็นจากข้าวที่มีสีสายพันธุ์ SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (ติณสูลานนท์) ในเชิงพาณิชย์
ชื่อเรื่อง (EN): Commercial production of dried rice noodle and cold pressed rice bran oil from SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (Tinnasuranon) rice varieties
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศศิวิมล จิตรากร
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ทำการศึกษาการใช้ประโยชน์จาก ข้าวเจ้าสายพันธุ์ SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (ติณสูลานนท์) ที่มีปริมาณอะไมโลสสูง และมีเยื่อหุ้มเมล็ดเป็นสีดำในการผลิตเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว และน้ำมันรำข้าวบีบเย็น ศึกษาการผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวแบบโม่เปียกโดยแปรระดับข้าวกล้องต่อน้ำ สามระดับได้แก่ 1:1.07, 1:1.15, และ 1:1.25 จากการทดลองพบว่าก๋วยเตี๋ยวเส้นสดและเส้นแห้งที่มีการแปรระดับข้าวกล้องต่อน้ำ 1:1.07 จะมีคุณภาพของเส้นที่ดีทั้งก๋วยเตี๋ยวเส้นสดและเส้นแห้ง โดยมีค่าความแข็งแรงของเส้น (Hardness) วัดโดยเครื่อง Texture analyzer ที่มากที่สุด ค่า water adsorption (%) สูงที่สุด รวมไปถึงมีค่า % cooking loss ต่ำที่สุด จากการศึกษาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพพบว่า อัตราส่วนของข้าวกล้องต่อน้ำ 1:1.07 จะมีค่า total phenolic content, total anthocyanin content และ สารต้านอนุมูลอิสระวัดโดย DPPH, ABTS, FRAP และ metal chelating capacity ที่สูงที่สุด จากการผลิตก๋วยเตี๋ยวเส้นสดและเส้นแห้ง โดยการแทนที่แป้งข้าวเจ้าด้วยแป้งข้าวกล้องพันธุ์ SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (ติณสูลานนท์) ในระดับ 20, 40, 60, 80, 100 % โดยการผลิตแบบโม่เปียก พบว่า เมื่อระดับการแทนที่แป้งข้าวเจ้าด้วยแป้งข้าวกล้องในระดับสูงขึ้นจะท้าให้ความแข็งแรงของเส้น (hardness) วัดโดยเครื่อง Texture analyzer มีค่าลดลง มีค่าความสามารถในการดูดซับน้ำ (Water adsorption) และค่า cooking loss ที่สูงขึ้น ค่า L* มีค่าลดลงเมื่อระดับการแทนที่ด้วยข้าวกล้องเพิ่มสูงขึ้น และค่า a* ของเส้นก๋วยเตี๋ยวจะมีค่าสูงขึ้นเมื่อระดับการแทนที่ด้วยแป้งข้าวกล้องเพิ่มสูงขึ้น การแทนที่แป้งข้าวเจ้าด้วยข้าวกล้อง จะมีปริมาณสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่สูงขึ้น โดยการใช้ข้าวกล้อง 100 % ในการผลิตก๋วยเตี๋ยวเส้นสดและเส้นแห้งจะมีค่า total phenolic content, total anthocyanin content และ สารต้านอนุมูลอิสระวัดโดย DPPH, ABTS, FRAP และ metal chelating capacity สูงที่สุด จากการศึกษาความคงตัวของร้าข้าวโดยใช้วิธี Infrared drying โดยแปรระดับการผลิต โดยใช้ก้าลังไฟความเร็วสายพาน และ feed rate 3 ระดับได้แก่ 1) ก้าลังไฟ 7500 W ความเร็วสายพาน 10 Hz และ feed rate 15 kg/h 2) ก้าลังไฟ 9000 W ความเร็วสายพาน 10 Hz และ feed rate 15 kg/h และ 3) ก้าลังไฟ 9000 W ความเร็วสายพาน 15 Hz และ feed rate 24 kg/h พบว่า การใช้คลื่นรังสี infrared สามารถรักษาความคงตัวของร้าข้าวได้ โดยสภาวะของการผลิตที่ดีที่สุด ได้แก่ การใช้ก้าลังไฟ 9000 W ความเร็วสายพาน 10 Hz และ feed rate 15 kg/h โดยมี ค่า acid value ในระหว่างการเก็บรักษาเป็นระยะเวลา 4 เดือนต่้าที่สุด และมีปริมาณ alpha tocopherol สูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับร้าข้าวควบคุมที่ไปผ่านการ stabilize จากการศึกษาการสกัดน้ำมันร้าข้าวและเก็บรักษาเป็นเวลาสี่เดือนที่อุณหภูมิ 30 °C และ 40 °C พบว่า yield ของน้ำมันร้าข้าวมีค่า 4.93 % และเมื่อเก็บรักษาเป็นเวลานานขึ้นจะท้าให้สารต้านออกซิเดชั่นในน้ำมันร้าข้าวได้แก่ tocopherols, -Oryzanol และ phytosterols ได้แก่ campesterol, stigmatosterol, β-sistosterol, stigmatostanol มีปริมาณที่ลดลง และที่อุณหภูมิการเก็บรักษาสูงขึ้นจะท้าให้สารสารต้านออกซิเดชั่นในน้ำมันร้าข้าวมีค่าต่้าลง
บทคัดย่อ (EN): This research was conducted to study the utilization of SRN07026-6-1-5-CPA-1-3 1 (Tinnasuranon) rice varieties which is high in amylose content and containing black pericarp for noodle and cold pressed rice bran oil production. The production of noodle by wet milling was conducted by varying the ratio of brown rice to water at 1:1.07, 1:1.15, and 1:1.25. The results indicated that the ratio of brown rice to water at 1:1.07 gave the best quality of fresh and dried noodles. Hardness of noodles measured by texture analyzer and water absorption were highest and cooking loss was lowest compared to other noodles. Bioactive compounds of noodle varied ratio of brown rice to water at 1 :1.07 gave highest total phenolic content, total anthocyanin content and antioxidant activities in terms of DPPH, ABTS, FRAP แ ล ะ metal chelating capacity. Fresh and dried noodles was produced by replacing rice flour with brown rice from SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (Tinnasuranon) rice varieties at the level of 20, 40, 60, 80, 100 % using wet milling procedure. The result indicated that as the level of brow rice substitution increased the hardness of noodle measured by Texture analyzer decreased and water adsorption and cooking loss increased. The L* value decreased and a* value increased as the level substitution of brown rice increased. High level addition of brown rice to rice flour increased bioactive compounds and 100% substitution for production of fresh and dried noodles increased total phenolic content, total anthocyanin content and antioxidant activities in terms of DPPH, ABTS, FRAP and metal chelating capacity. Rice bran stabilization was studied using Infrared drying by varying power, belt speed and feed rate at 3 levels including 1) Power 7500 W, Belt speed 10 Hz, and feed rate 15 kg/h 2) Power 9000 W, Belt speed 10 Hz, and feed rate 15 kg/h and 3) Power 79000 W, Belt speed 15 Hz and feed rate 24 kg/h. The result indicated that Infrared drying effectively stabilized rice bran and optimum condition for rice bran stabilization was power 9000 W, Belt speed 10 Hz, and feed rate 15 kg/h which contain low acid value of rice bran during 4 months of storage and contain high amount of alpha tocopherol compared to fresh rice bran. Cold pressed rice bran oil storage for 4 months at 30 °C and 40 °C yields 3.1-4.07 % of oil and as the storage time progressed, the antioxidants in rice bran oil including tocopherols, -Oryzanol และ phytosterols ได้แก่ campesterol, stigmatosterol, β-sistosterol, stigmatostanol decreased. Increasing of storage temperature also decreased antioxidants in rice bran oil.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยนเรศวร
คำสำคัญ: น้ำมันรำข้าวบีบเย็น
คำสำคัญ (EN): cold pressed rice bran oil
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยนเรศวร
รายละเอียด: 6.1 เพื่อศึกษาคุณสมบัติของข้าวกล้องและแป้งข้าวกล้องจากข้าวเจ้าสายพันธุ์SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (ติณสูลานนท์) สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตก๋วยเตี๋ยว 6.2 เพื่อศึกษาการผลิตก๋วยเตี๋ยวอบแห้งจากแป้งข้าวกล้องพันธุ์SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (ติณสูลานนท์) และการตรวจสอบคุณสมบัติด้านต่างๆของผลิตภัณฑ์ 6.3 เพื่อศึกษาการคงสภาพของรำข้าว การสกัดน้ำมันและคุณภาพน้ำมันจากรำข้าวพันธุ์ SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (ติณสูลานนท์) 6.4 เพื่อศึกษาคุณภาพของกากรำข้าวสกัดน้ำมัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การผลิตก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กอบแห้งและน้ำมันรำข้าวบีบเย็นจากข้าวที่มีสีสายพันธุ์ SRN07026-6-1-5-CPA-1-31 (ติณสูลานนท์) ในเชิงพาณิชย์
มหาวิทยาลัยนเรศวร
30 กันยายน 2562
ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร น้ำมันรำข้าวเพื่อสุขภาพ คุณค่าของรำข้าว รูปพรรณข้าวขึ้นน้ำผลผลิตสูง การแข่งขันระหว่างข้าวกับวัชพืชจากการใส่ปุ๋ยรองพื้นระยะเวลาต่างๆ ในนาหว่านข้าวแห้ง การปรับปรุงประสิทธิภาพการสกัดและคุณภาพของน้ำมันรำข้าวบีบเย็นเพื่อการผลิตเชิงพาณิชย์โดยการคงสภาพรำข้าวด้วยกระบวนการเอ็กซ์ทรูชั่น ผลของระยะปักดำต่อผลผลิตและการเป็นโรคจู๋ของข้าว ดัชนีความไวของข้าวบางพันธุ์ที่มีต่อช่วงแสงตามธรรมชาติ การพัฒนาเชื้อราไตรโคเดอร์มาปฏิปักษ์ที่ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดโรคข้าวเป็นชีวภัณฑ์เชิงพาณิชย์ การวิเคราะห์ปริมาณสารแกมมาโอรีซานอลและสมบัติบางประการในระหว่างกระบวนการผลิตน้ำมันรำข้าวบีบเย็น
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก