สืบค้นงานวิจัย
ผลของการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนอินทรีย์ในดินชุด กำแพงแสน
กมลทิพย์ ศศิธร - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ผลของการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนอินทรีย์ในดินชุด กำแพงแสน
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of bio-compost on babycorn cultivation in organic farming system in Kamphaeng Sean Soil series.
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กมลทิพย์ ศศิธร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Kamontip Sasithron
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนอินทรีย์ในชุดดินกำแพงแสน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของปุ๋ยหมักชีวภาพ และการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพร่วมกับปุ๋ยพืชสดต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนอินทรีย์ และการศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติดินทางเคมีและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ โดยวางแผ นการทดลองแบบ Randomized Complete Block Design จำนวน 7 วิธีการ คือ วิธีการที่ 1 แปลงควบคุม วิธีการที่ 2 ปลูกตามแบบเกษตรกร วิธีการที่ 3 ถั่วพร้า 10 กก./ไร่ วิธีการที่ 4 ปุ๋ยหมักชีวภาพ 500 กก./ไร่ วิธีการที่ 5 ปุ้ยหมักชีวภาพ 1,000 กก./ไร่ วิธีการที่ 6 ถั่วพร้า 10 กก/ไร่ + ปุ๋ยชีวภาพ 500 กก./ไร่ และวิธีการที่ 7 ถั่วพร้า 10 กก./ไร่+ปุ๋ยหมักชีวภาพ 1,000 กก./ไร่ ผลการทดลองเฉลี่ยทั้ง 3 ปี พบว่า วิธีการที่ 2 เกษตรกรใส่ปุ๋ยเคมี ให้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุด คือ 2,888 กิโลกรัมต่อไร่ ส่วนวิธีการที่ 7 ปลูกถั่วพร้าร่วมกับใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ อัตรา 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ ให้น้ำหนักผลผลิตคือ 2,817 กิโลกรัมต่อไร่ และรองลงมาได้แก่ วิธีการที่ 5 6 3 4 และ 1 โดยน้ำหนักผลผลิตเฉลี่ย 2,682 2,605 2,476 2,118 และ 1,406 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ สำหรับปุ๋ยพืช สดคือ ถั่วพร้าให้มวลชีวภาพน้ำหนักสดเฉลี่ย 3,466 กิโลกรัมต่อไร่ น้ำหนักแห้งเฉลี่ย 642 กิโลกรัมต่อไร่ และมีองค์ประกอบของธาตุอาหารหลัก คือ ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม เฉลี่ย 2.95 0.33 และ 2.50 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติดินทางเคมีของดินก่อนการทดลองและหลังการทดลอง พบว่า ดินหลังการทดลองปริมาณธาตุอาหารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คือ ปริมาณอินทรียวัตถุ 1.88 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ 692 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ 240 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมและปริมาณแคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ 3,707 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ พบว่า วิธีการที่ 2 ใส่ปุ๋ยเคมีตามแบบเกษตรกร ให้ผลตอบแทนรายได้สูงสุดของวิธีการที่ 2 คือ 10,811 บาทต่อไร่ สำหรับ เปรียบเทียบกับผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของวิธีการที่ 7 คือ 9,689 บาทต่อไร่ พบว่ามีค่าส่วนต่างของผลตอบแทนทางเศรษฐกิจเท่ากับ 1,122 บาทต่อไร่
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: เกษตรอินทรีย์
คำสำคัญ (EN): Organic Agriculture
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของการใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพต่อการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนอินทรีย์ในดินชุด กำแพงแสน
กรมพัฒนาที่ดิน
30 ธันวาคม 2551
การใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพเพื่อเพิ่มผลิตภาพของดินและผลผลิตข้าวโพดฝักอ่อนในระบบเกษตรอินทริย์ ปกป้องสายตาด้วยข้าวโพด การปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดเพื่อเพิ่มคุณภาพโปรตีน การเพิ่มผลผลิตข้าวนาหว่านน้ำตมภายใต้การจัดการปุ๋ยในชุดดินพัทลุง ปัจจัยบางประการที่มีผลต่อการยอมรับการทำและการใช้ปุ๋ยหมักของเกษตรกรใน อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร การใช้ประโยชน์จากเศษเหลือทิ้งของข้าวโพดฝักอ่อนจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารกระป๋อง การใช้ Bacillus subtilis เพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดฝักอ่อน ผลของการใช้ซิลิกอนในการปรับปรุงดินเปรี้ยวจัด ชุดดินชะอำที่มีผลผลิตและคุณภาพของข้าวโพด การใช้เศษวัสดุเหลือใช้ของข้าวโพดฝักอ่อนและข้าวโพดหวานเป็นอาหารสัตว์ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับเทคโนโลยีการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรตามโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวโพดชุมชนจังหวัดพะเยา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก