สืบค้นงานวิจัย
การแยกเชื้อแบคเทอริโอเฟจที่จำเพาะต่อเชื้อ Vibrio harveyi เพื่อใช้เป็นตัวควบคุมการเกิดโรคในกุ้งกุลาดำ
พงศ์ศักดิ์ รัตนชัยกุลโสภณ - มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ชื่อเรื่อง: การแยกเชื้อแบคเทอริโอเฟจที่จำเพาะต่อเชื้อ Vibrio harveyi เพื่อใช้เป็นตัวควบคุมการเกิดโรคในกุ้งกุลาดำ
ชื่อเรื่อง (EN): Isolation of bacteriophage specific to a giant tiger prawn pathogen, Vibrio harveyi, as a candidate for disease control
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พงศ์ศักดิ์ รัตนชัยกุลโสภณ
บทคัดย่อ: การใช้สารเคมี และยาปฏิชีวนะในการป้องกัน และควบคุมโรคของกุ้งกุลาดำมักก่อให้เกิดผลในเชิงลบ เช่น ก่อให้เกิดแบคทีเรียที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ และก่อให้เกิดปัญหาในด้านความปลอดภัยต่อผู้บริโภค และต่อสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากการตกค้างของสารในผลผลิต และในธรรมชาติ ดังนั้นจึงมีความต้องการทางเลือกที่สามารถใช้ในการควมคุมโรคของกุ้งกุลาดำ ซึ่งการใช้แบคเทอริโอเฟจในการรักษาโรคถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่มีความเป็นไปได้ การศึกษานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจหา และศึกษาคุณสมบัติของแบคเทอริโอเฟจที่มีความสามารถในการบุกรุกทำลาย Vibrio harveyi ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเรืองแสงของกุ้งกุลาดำ ในการศึกษานี้ได้ทำการตรวจตัวอย่างน้ำจำนวน 12 ตัวอย่างที่เก็บมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ และบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ซึ่งพบว่าตัวอย่างน้ำจากบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำแห่งหนึ่งมีแบคเทอริเฟจที่สามารถทำลาย V. harveyi ทุกสายพันธุ์ที่นำมาทดสอบอย่างจำเพาะ แบคเทอริโอเฟจดังกล่าวถูกให้ชื่อว่า bacteriophage PW2 จากการศึกษาความสามารถในการยึดเกาะบนผิวเซลล์ของ V. harveyi CS101 โดย bacteriophage PW2 พบว่า 90% ของแบคเทอริโอเฟจดังกล่าว สามารถยึดเกาะบนผิวเซลล์ของ V. harveyi CS101 ได้ภายในเวลา 30 นาที การศึกษาการทนของ bacteriophage PW2 ต่อความร้อน และสารเคมีแสดงให้เห็นว่าแบคเทอริโอเฟจดังกล่าวสามาถทนความร้อนได้ที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที และสามารถทนต่อสารเคมีที่นำมาใช้ทดสอบทุกชนิด ความเข้มข้นของ CaCl2 มีผลต่อการเพิ่มจำนวนของ bacteriophage PW2 โดยแบคเทอริโอเฟจดังกล่าวสามารถเพิ่มจำนวนในสภาวะที่มี CaCl2 ความเข้มข้น 20 mM ได้ดีกว่าในสภาวะที่ไม่มี CaCl2 หรือมี CaCl2 น้อยกว่า 10 mM จากการศึกษาโดยการใช้กล้องจุลทรรศน์อิเลค ตรอนแบบส่องผ่านพบว่า bacteriophage PW2 มีส่วนหัวเป็นรูป icosahedral ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 ? 3.8 นาโนเมตร และมีส่วนหางเป็นแบบ noncontractile tail ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 11 ? 0.5 นาโนเมตร และมีความยาว 136 ? 6.2 นาโนเมตร ซึ่งทำให้สามารถจัดจำแนก bacteriophage PW2 ไว้ใน famiy Siphoviridae nucleic acid ของ bacteriophage PW2 ถูกตรวจสอบพบว่าเป็น DNA สายคู่ ทั้งนี้เนื่องจาก nucleic acid ของ bacteriophage PW2 สามารถถูกย่อยสลายได้โดย restriction enzymes แต่ไม่ถูกย่อยสลายโดย RNase และ S1 nuclease นอกจากนี้ยังพบว่า DNA ของ bacteriophage PW2 มีขนาดประมาณ 46kb การศึกษาโปรตีนโดยวิธี SDS-PAGE แสดงให้เห็นว่า bacteriophage PW2 ประกอบด้วยโปรตีนหลักอย่างน้อย 6 ชนิด ซึ่งมีน้ำหนักโมเลกุลประมาณ 75, 60, 35, 30, 20 และ 15 kDa
บทคัดย่อ (EN): The use of chemicals and antibiotics to prevent and treat diseases of Penaeus monodon (giant tiger prawn) has been known to have adverse effects including the development of drug resistant bacteria and the safety problems to consumers and environment caused by their accumulation in animal products and environment. Thus, an alternative approach has been needed for controlling the diseases. Recently, bacteriophage therapy has been shown to be a potential one. This study aimed to find and characterize a bacteriophage infecting Vibrio harveyi, a pathogen causing the luminous disease in P. monodon. Twelve water samples collected from natural water resources and from P. monodon ponds were screened for the desired bacteriophage. Bacteriophage PW2 isolated from a P. monodon pond had ability to specifically infect all tested strains of V. harveyi. Test of bacteriophage adsorption on the cell surface of the V. harveyi CS101 revealed that 90% of the phage was adsorbed on the bacterial cell surface within 30 min. Heat and chemical sensitivity tests showed that bacteriophage PW2 was resistant to heat at 50?C for 30 min and to all chemicals and antibiotics used in this study. Concentration of CaCl2 was found to influence the propagation of the phage. It propagated in the V. harveyi CS101 culture with 20 mM CaCl2 better than in that without CaCl2 or containing CaCl2 below 10 mM. Transmission electron microscopy showed that bacteriophage PW2 had an icosahedral head (50 ? 3.8 nm in diameter) and a noncontractile tail (11 ? 0.5 nm in diameter and 136 ? 6.2 nm in length). It could be classified as a member in the family Siphoviridae. The nucleic acid of bacteriophage PW2 was found to be double stranded DNA because it could be degraded by restriction enzymes but not by RNase and S1 nuclease. Furthermore, DNA of bacteriophage PW2 was estimated to be 46 kb. Analysis of proteins purified from bacteriophage PW2 by SDS-PAGE revealed that it contained at least 6 major proteins with molecular mass of 75, 60, 35, 30, 20 and 15 kDa
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
คำสำคัญ: สารต้านจุลินทรีย์
คำสำคัญ (EN): Penaeus monodon
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การแยกเชื้อแบคเทอริโอเฟจที่จำเพาะต่อเชื้อ Vibrio harveyi เพื่อใช้เป็นตัวควบคุมการเกิดโรคในกุ้งกุลาดำ
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
30 กันยายน 2553
การแยกเชื้อแบคเทอริโอเฟจที่จำเพาะต่อเชื้อ Vibrio harveyi เพื่อใช้เป็นตัวควบคุมการเกิดโรคในกุ้งกุลาดำ การวิจัยรูปแบบโครงการฟาร์มเลี้ยงกุ้งแชบ๊วยแบบพัฒนาโดยใช้ระบบรีไซเคิลผสมผสานกับระบบมีนเกษตร การศึกษาลักษณะสมบัติและการแสดงออกของยีน asialoglycoprotein receptor จากกุ้งกุลาดำPenaeus monodon ปฏิสัมพันธ์ของวิบริโอกับแบคเทอริโอเฟจวีเอชเอสวัน และกลไกการก่อโรคในกุ้ง ศึกษาชีววิธีในการควบคุมปริมาณจุลินทรีย์วิบริโอด้วยจุลินทรีย์บาซิลลัสในห้องปฏิบัติการ ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณเชื้อไวรัสตัวแดงดวงขาว (White spot syndrome virus, WSSV) กับการถ่ายทอดโรคในกุ้งกุลาดำโดยใช้เทคนิค real time PCR ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อม และการเกิดโรคไวรัสตัวแดงดวงขาว (white spot syndrome virus, WSSV) ในกุ้งกุลาดำ การเพิ่มศักยภาพการขนส่ง shRNA ด้วยเปปไทด์ เพื่อใช้ในการป้องกันโรคตัวแดงดวงขาวในกุ้ง การวิเคราะห์ความเป็นพ่อแม่ลูกของกุ้งกุลาดำโดยใช้เครื่องหมายทางพันธุกรรมไมโครแซททัลไลซ์ การเพิ่มผลผลิตกุ้งกุลาดำเพื่อการส่งออก
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก