สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กรณีศึกษา ภาคตะวันออก
จรูญศักดิ์ สมพงศ์ - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กรณีศึกษา ภาคตะวันออก
ชื่อเรื่อง (EN): The study of technology management to increase productivity of cassava: A Case Study in the East
บทคัดย่อ: ในการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังของภาคตะวันออก ด้วยเทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาระบบการผลิตที่เหมาะสมต่อเกษตรภาคตะวันออก โดยการพัฒนาแบบจำลองทำการศึกษาจากงานวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการสำรวจเกษตรที่ที่ประสพความสำเร็จในการผลิตมันสำหลังในภาคตะวันออก พบว่า เกษตรกรต้นแบบจะมีความเข้าใจและนำไปปฏิบัติทำให้ประสพความสำเร็จ โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ใช้ปุ๋ยที่ใช้เป็นทั้งปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมี และปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ซึ่งจะทำให้ผลผลิตสูง และถ้ามีการจัดการระบบการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินจะทำให้ลดต้นทุนได้ ส่วนระบบการปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว ยังพบว่าปัญหาเรื่องแรงงานยังเป็นจุดสำคัญทำให้ต้นทุนในการผลิตสูง เพราะฉะนั้นการบริหารระบบสหกรณ์จะเป็นตัวช่วยลดอิทธิพลได้ ส่วนเรื่องสภาพแวดล้อมในปี 2559 ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยมีปริมาณสูงกว่าความต้องการของการปลูกมันสำปะหลัง จึงไม่มีปัญหาเรื่องระบบการให้น้ำ ผลผลิตเฉลี่ยปี 2559 มีค่า 3,523 กิโลกรัมต่อไร่ และถ้าเกษตรกรปฏิบัติตามคำแนะของหลักวิชาการอย่างเกษตรกรต้นแบบคาดว่าน่าจะสามารถผลิตได้ถึง 5.37 ตันต่อไร่ และสามารถผลิตได้สูงสุดตั้งแต่ 5-12 ตันต่อไร่ ผลการสำรวจและวิเคราะห์ดิน N-P-K และ pH พบว่าพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรจะมีปริมาณไนเตรทในเกณฑ์ ไม่มี-ต่ำ ปริมาณ P มีค่า ต่ำมาก-สูงมากขึ้นอยู่พื้นที่ ปริมาณ K มีค่า ต่ำทั้งหมด สูตรปุ๋ยที่แนะนำคือ 16-8-16, 16-4-16 และ 16-0-12 ตามลำดับ ค่า pH พื้นที่เกษตรกรมีค่า 5.5-7.5 ถ้าพื้นที่ที่สูงกว่า 7.5 ให้ใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัสเฟสแทนยูเรีย หว่านผงกำมะถัน เพื่อการปรับปรุง ส่วนการประเมินต้นทุนการผลิตอยู่ระหว่าง 2,720-6,669 บาทต่อไร่ จะกำไรสุทธิ 345 –9,331 บาทต่อไร่ ขึ้นอยู่กับผลผลิตต่อไร่ โดยจากข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรต้นทุนทั้งหมดเฉลี่ยเท่ากับ 6,876.93 บาทต่อไร่ การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิตด้วยวิธี Multi-criteria Decision Analysis (MCDA) โดยสร้างแบบจำลองพื้นฐาน จำนวน 10 แบบจำลอง วิเคราะห์ด้านเศรษฐศาสตร์ (Financial + Economic) ด้านสิ่งแวดล้อม/ทรัพยากร ด้านสังคม และด้านวิทยาศาสตร์/วิศวกรรม โดยการพัฒนาเพิ่มศักยภาพการผลิตด้านวิทยาศาสตร์/วิศวกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก สามารถพัฒนาเพิ่มได้ 6-18 % เนื่องจากสภาพพื้นที่ภาคตะวันออก มีปริมาณดินทรายปนร่วนและดินร่วนปนทรายเพียงร้อยละ 35.4 ที่เป็นพื้นที่เหมาะสม สมบัติทางเคมีของดินมีธาตุอาหารต่ำ เพราะฉะนั้นในส่วนภาคตะวันออกต้องมุ่งเน้นการบำรุงดินและเลือกพื้นที่เหมาะสมในการเพาะปลูก และการบำรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์ควรทำอย่างต่อเนื่องๆ จาก ส่วนกระบวนการเตรียมดินต้องมีการไถดินดานทุกๆ 3-4 ปี และอีกปัจจัยที่สำคัญคือเรื่องการคัดพันธุ์ที่ดีและเหมาะสมนำมาปลูก โดยต้องมีความใส่ใจในเรื่องท่อนพันธุ์ป้องกันโรค ตลอดจนระยะการปลูกเหมาะสม จะทำให้ผลผลิตสูงได้ ด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพย์กรยังมีศักยภาพในการพัฒนาได้อีกสูงเนื่องจากการประเมินพบว่ายังมีแนวทางที่สามารถพัฒนาเพิ่มได้ 10-13 % ถ้าบริหารการจัดการผลิตหรือปรับปรุงพื้นฐาน ดินอย่างถูกวิธี การบำรุงดิน การปลูกพืชหมุนเวียน การให้น้ำในช่วงที่แล้ง จะทำให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน ด้านเศรษฐศาสตร์และด้านสังคมและองค?กรพบว่ายังสามารถพัฒนาเพิ่มได้ 4-8 % และ 7-12 % เกษตรกรยังขาดการร่วมกลุ่มการผลิตมันสำปะหลัง อีกทั้งเกษตรกรยังไม่ได้ใส่ใจในเรื่องเศรษฐศาสตร์และด้านสังคมและองค?กรเท่าที่ควร
บทคัดย่อ (EN): The aims of this project were to study on the technology management for the increase of the cassava production in the East part of Thailand. The various technologies were used to develop the suitable technology for Easthern agriculture area. The model was developed from previous study, related organization and the successful agriculturists. The results expressed the agriculturists understood the fertilizer usage and didn’t it. The both of chemical and organic fertilizers were applied together for high production. The fertilizer management following soil analysis affected the cost reduction. The growth system expressed the labor problem, which was the principal parameter, affected high cost production. Thus, the co-operation system could be used to solve the labor problem. In 2016, the average rainfall was higher than cassava growth demand. It was no problem about feed water caused the cassava production was higher than previous year with 3523 kg/Rai. If the general agriculturist operated following the academic suggestion, the production could reached 5.37 Ton/Rai or in the range of 5-12 Ton/Rai. The soil survey and analysis of N-P-K showed not found or low nitrate content in the cultivated area. The phosphorus content was difference values in the different area while the potassium content was low in all area. The fertilizer suggestion was calculated which was 16-8-16, 16-4-16 and 16-0-12 for Easthern area. The pH of soil showed 5.5-7.5 while the suitable pH are 5-6. If pH of soil was more than 7.5, ammonium sulfate was used instead of urea for improve the soil quality. The cost production was evaluated between 2720-6669 Baht/Rai with net profit 345-9331 Baht/Rai which depended on the amount of production. The Office of Agricultural Economics reported the average of cassava cost was 6876.93 Baht/Rai. The efficiency of production was evaluated using Multi-criteria Decision Analysis (MCDA). The 10 fundamental models were invented for analysis in term of Financial/Economic, Environment/Resource, Social and Science/Engineering which were the major parameters. They could be improved 6-18% increase because of their suitable soil was only 35.4% which was sandy loam and loamy sand. The chemical property of soil was low nutrient. Thus, the enrichment and selection for cultivation were focus. The soil was improved by organic fertilizer usage continuously, plough up and over every 3-4 years and selected cultivar before growing. The disease preventing and suitable length affected the high production. The results showed the Environment/Resource could increase 10-13% with fundamental improvement, soil enrichment, rotated crops, water feeding. The Financial/Economic and Social organization could increase 4-8% and 7-12%, respectively. Accompany with agriculturists were not found and they were not interested in Financial/Economic and Social organization.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: ภาคตะวันออก
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กรณีศึกษา ภาคตะวันออก
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
30 กันยายน 2557
การศึกษาการบริหารจัดการเทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง กรณีศึกษา ภาคเหนือและภาคกลาง การศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตเชื้อเพลิงแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลัง : การศึกษาความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ โครงการการผลิตแอลกอฮอล์จากมันสำปะหลังเพื่อเป็นพลังงานทดแทน การศึกษาการบริหารจัดการแปลงปาล์มน้ำมันเพื่อเพิ่มผลผลิตในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลของการใช้จุลินทรีย์จาวปลวกต่อการเพิ่มผลผลิตของมันสำปะหลัง ผลของชนิดและอัตราการใช้ถ่านชีวภาพต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังในดินกรด ผลของการปลูกพืชตระกูลถั่วแซมต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง การศึกษาหากลุ่มยีนที่จำเพาะต่อวิถีการใช้คาร์บอนในรากมันสำปะหลังที่ส่งผลต่อลักษณะที่โดดเด่นในการสร้างและสะสมแป้ง การไถทำลายชั้นดานร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ที่มีผลต่อการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังอย่างยั่งยืน แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรปลาทู-ลัง บริเวณอ่าวไทยตอนล่าง การถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการปุ๋ยมันสำปะหลังเฉพาะพื้นที่
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก