สืบค้นงานวิจัย
รูปแบบการทำนาข้าวที่เหมาะสมสำหรับโรงเรียนเกษตรกร จังหวัดชัยนาท
สุรพล พหลภาคย์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
ชื่อเรื่อง: รูปแบบการทำนาข้าวที่เหมาะสมสำหรับโรงเรียนเกษตรกร จังหวัดชัยนาท
ชื่อเรื่อง (EN): Model of Reasonable Rice Farm In Farmer School Chainat Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุรพล พหลภาคย์
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวิธีการปลูกข้าวโดยใช้สารชีวภาพบำรุงและกำจัดศัตรูพืชของโรงเรียนเกษตรกร 2) รูปแบบการทำนาที่เหมาะสมสำหรับโรงเรียนเกษตรกรและเปรียบเทียบคะแนนความรู้ก่อนและหลังอบรม 3) การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของเกษตรกรที่ใช้สารเคมี และสารชีวภาพ วิธีวิจัยเป็นวิธีผสมผสานระหว่างคุณภาพและปริมาณ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 26 คน ซึ่งเลือกโดยวิธีการเจาะจง วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา และ Independent t-test ผลการวิจัยมีดังนี้ 1. วิธีการปลูกข้าวโดยใช้สารชีวภาพบำรุงและกำจัดศัตรูพืชของโรงเรียนเกษตรกร สามารถสรุปได้เป็นระยะ คือ ระยะที่ 1 ระยะการเตรียมดิน แบ่งได้เป็น 2 วิธี คือ 1) การหมักฟางข้าวด้วยจุลินทรีย์ และ2) การหมักฟางข้าวด้วยน้ำ ระยะที่ 2 ระยะการปลูก มี 2 วิธี คือ 1) การหว่าน 2) การดำ มีการดำด้วยแรงงานคน การดำโดยใช้เครื่องยนต์ และการโยนกล้า ระยะที่ 3ระยะการบำรุงดูแล ได้แก่ ภายหลัง 15 วันหลังจากหว่าน ให้ใส่ปุ๋ย 16-20-0 และภายหลัง 30 วันหลังจากการหว่าน ใส่ปุ๋ย 16-20-0 ผสม ปุ๋ยยูเรีย ในอัตรา 2 : 1 พร้อมทั้งใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ 60 วัน ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 อายุ 70 วัน ฉีดฮอร์โมนบำรุงการตั้งท้อง เพราะอยู่ในช่วงผสมเกสรให้เม็ดเต่ง ทั้งนี้ทั้ง 3 ระยะให้ทำการระวังเรื่องของศัตรูพืชต่าง ๆ และฉีดสารชีวภาพทุก 15 วัน ระยะที่ 4 ระยะเก็บเกี่ยว ใช้รถรับจ้างเกี่ยวราคาไร่ละ 500 บาท ขนส่งเกวียนละ 100 บาท ระยะที่ 5 ระยะภายหลังการเก็บเกี่ยว ปลูกพืชตระกูลถั่ว หรือ ปอเทือง เป็นปุ๋ยพืชสดแล้วไถกลบ เลี้ยงปศุสัตว์เพิ่มมูลสัตว์ในนาข้าว และใช้สารชีวภาพหมัก 2. รูปแบบการทำนาที่เหมาะสมสำหรับโรงเรียนเกษตรกร คือรูปแบบนาหว่าน นาดำ นาดำเครื่องจักร และนาโยน โดยใช้สารเคมีและสารชีวภาพ ส่วนรูปแบบโรงเรียนเกษตรกรเป็นรูปแบบการศึกษานอกระบบตามโครงสร้างหลักสูตรของโรงเรียนเกษตรกร การวัดความรู้ของเกษตรกรก่อนและหลังการอบรม พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังการอบรมสูงกว่าร้อยละ 75 และคะแนนหลังการอบรมสูงกว่าก่อนการอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3. การเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของเกษตรกรที่ใช้สารเคมี และที่ใช้สารชีวภาพ พบว่า นาหว่านสารชีวภาพ มีค่าใช้จ่ายลดลงลดลง 4,255 บาท/ไร่ นาดำชีวภาพมีค่าใช้จ่ายลดลง 1,035 บาท/ไร่ นาใช้เครื่องปักดำชีวภาพมีค่าใช้จ่ายลดลง 1,313-1,033 บาทต่อไร่ และนาโยนกล้าชีวภาพมีค่าใช้จ่ายลดลง 1,077-1,047 บาท/ไร่ คำสำคัญ: รูปแบบการทำนา โรงเรียนเกษตรกร สารชีวภาพ
บทคัดย่อ (EN): The purposes of this research were: 1) to study rice planting process from farmer school.2) to study consistent rice planting process model and evaluate farmer’s knowledge in biological fertilizer and pesticide and compare farmer’s purchase. In this research 26 farmers were studied by qualitative and qualitative techniques and choose purposive sampling. The interview observation and knowledge data analyze by content analysis and t-test independence. The result of the research were : (1) Soil prepared by 2 processes: 1) straw microbial fertilized and water. 2) Planting process by seedlings hand drippings machine dripping and parachute. 3) Planting management after 15 and 30 days after seedlings with Urea and bio-fertilizer 16-20-0 ratio 2:1 60 days with 15-15-15 fertilizer and Hormone in 70 days for rice spikes and look after pesticides before harvesting. 4) Harvesting by harvester machine 500 baht per ton and truck 100 per ton. 5) After harvest manage by green manure plant and plow. (2) Rice planting model for farmer school were: seedling hand dripping machine dripping and parachute that use chemical and natural process in non-formal farmer school by curriculum structure. Farmers knowledge average over than 75% after training. The farmers knowledge before-after were different at statistically significant 0.05 (3) Purchase comparative between chemical and natural process: Seedling natural process pay 4,255 baht lower Hand dripping natural process pay 1,035 baht lower Machine dripping natural process pay 1,313-1,033 baht lower and Parachute natural process pay 1,077- 1,047 baht lower. Keywords: Model of Reasonable Rice, Farmer School, bio-fertilizer
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
คำสำคัญ: จังหวัดชัยนาท
คำสำคัญ (EN): Chainat Province
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รูปแบบการทำนาข้าวที่เหมาะสมสำหรับโรงเรียนเกษตรกร จังหวัดชัยนาท
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม
30 กันยายน 2555
การพัฒนารูปแบบการผลิตข้าวแบบครบวงจรโดยเกษตรกรมีส่วนร่วมในพื้นที่เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร (ปีที่ 3) ศึกษาวิธีการปลูกที่เหมาะสมสำหรับข้าวปทุมธานี 1 ประสิทธิผลการผลิตข้าวแปลงใหญ่ของเกษตรกรในเขตภาคเหนือตอนบน แนวทางการยกระดับรายได้ของเกษตรกรที่ปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าว การพัฒนารูปแบบการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าวคุณภาพดีเชิงบูรณาการ โดยเกษตรกรต้นแบบสู่เกษตรกรเป้าหมายในพื้นที่นอกเขตชลประทานจังหวัดสุพรรณบุรี (ปีที่2) ศึกษาพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมสำหรับการปลูกในฤดูนาปรังในระบบการใช้น้ำอย่างประหยัด ที่ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี อิทธิพลของสภาพพื้นที่ในช่วงก่อนและหลังการเก็บเกี่ยวข้าวต่อพฤติกรรมโคเนื้อที่เลี้ยงภายใต้การจัดการของเกษตรกร สารอาลีโลพาธิกจากเปลือกส้มเหลือใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อควบคุมวัชพืชในนาข้าว การเปรียบเทียบประสิทธิภาพสารป้องกันและกำจัดวัชพืชในนาข้าวขึ้นน้ำ อายุกล้าที่เหมาะสมสำหรับการใช้เครื่องปักดำข้าว
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก