สืบค้นงานวิจัย
โครงการย่อย : ชุดที่ 3 การศึกษาวิธีการทาใบบาง จากใบบัวหลวง และ แนวโน้มในการพัฒนาสู่การทำผลิตภัณฑ์
เสริมศรี สงเนียม - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ชื่อเรื่อง: โครงการย่อย : ชุดที่ 3 การศึกษาวิธีการทาใบบาง จากใบบัวหลวง และ แนวโน้มในการพัฒนาสู่การทำผลิตภัณฑ์
ชื่อเรื่อง (EN): The Study of Bai - Bang Process from Lotus Leaves and Its Possibility to Products
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: เสริมศรี สงเนียม
บทคัดย่อ: การศึกษาวิจัยเรื่อง วิธีการทาใบบาง จากใบบัวหลวง และแนวโน้มในการพัฒนาสู่การทาผลิตภัณฑ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากรรมวิธีที่เหมาะสมในการทา ใบบางจากใบบัว และ พัฒนาผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ และเสริมแนวคิดในการนาใบบางสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ในรูปแบบต่าง ๆ เน้นการนาวัสดุธรรมชาติมาใช้ในเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ วิธีการศึกษา กรรมวิธีการทาใบบางจากใบบัวหลวง โดยการทดลอง มีปัจจัยที่ทาการศึกษา 2 ประการ ได้แก่ ปัจจัยแรก คือ ชนิดของใบบัวหลวง มีจานวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ใบบัวหลวงสายพันธุ์สัตตบุษย์ ใบบัวหลวงสายพันธุ์สัตตบงกช และใบบัวหลวงสายพันธุ์พระราชินี และปัจจัยที่สอง คือ กรรมวิธีการทาใบบาง โดยการทดลอง 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 การหมักใบบัวด้วยวิธีธรรมชาติ (การแช่ในน้าสะอาด) ใช้เวลา 7 วัน , 14 วัน และ 21 วัน และ วิธีที่ 2 การหมักใบบัวในน้าที่มีสบู่กรดเป็นส่วนผสมในปริมาณของสบู่กรด 1 ก้อน ต่อปริมาณของน้า 25 ลิตร และปริมาณของสบู่กรด 2 ก้อน ต่อปริมาณของน้า 25 ลิตร ใช้เวลา 7 วัน , 14 วัน และ 21 วัน สรุปผลการศึกษา พบว่า การหมักใบบัวด้วยวิธีธรรมชาติ (วิธีที่1) โดยการแช่ใบบัวด้วยน้าสะอาด พบว่า ใบบัวหลวงพันธุ์สัตตบงกช ใช้ระยะเวลา 21 วัน สามารถทาใบบางออกมาได้ดีที่สุด เนื่องจากใบบางยังคงสภาพความสมบรูณ์ ของโครงสร้าง หรือเส้นใยของใบได้ดี ซึ่งเหมาะที่จะนาใบบางไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ ส่วนผลของใบบัวหลวงพันธุ์สัตตบุษย์ และ ใบบัวหลวงพันธุ์พระราชินีที่ได้ คือ คลอโรฟิลล์และเยื่อของใบบัวหลุดออกน้อยมาก เพียงระยะเวลา 7 วัน ใบบัวจะเปื่อยและเน่าเสีย ไม่สามารถทาเป็นใบบางได้ ข้อดี ของการทดลองวิธีที่ 1 คือ จะได้ใบบางที่มีคุณภาพเส้นใยจะมีความแข็งแรง และสมบรูณ์ ข้อเสีย คือ ใช้เวลานาน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
คำสำคัญ: ผลิตภัณฑ์SF 494
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
รายละเอียด: การศึกษาวิจัยเรื่อง วิธีการทาใบบาง จากใบบัวหลวง และแนวโน้มในการพัฒนาสู่การทาผลิตภัณฑ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากรรมวิธีที่เหมาะสมในการทา ใบบางจากใบบัว และ พัฒนาผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ และเสริมแนวคิดในการนาใบบางสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ในรูปแบบต่าง ๆ เน้นการนาวัสดุธรรมชาติมาใช้ในเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ วิธีการศึกษา กรรมวิธีการทาใบบางจากใบบัวหลวง โดยการทดลอง มีปัจจัยที่ทาการศึกษา 2 ประการ ได้แก่ ปัจจัยแรก คือ ชนิดของใบบัวหลวง มีจานวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ใบบัวหลวงสายพันธุ์สัตตบุษย์ ใบบัวหลวงสายพันธุ์สัตตบงกช และใบบัวหลวงสายพันธุ์พระราชินี และปัจจัยที่สอง คือ กรรมวิธีการทาใบบาง โดยการทดลอง 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 การหมักใบบัวด้วยวิธีธรรมชาติ (การแช่ในน้าสะอาด) ใช้เวลา 7 วัน , 14 วัน และ 21 วัน และ วิธีที่ 2 การหมักใบบัวในน้าที่มีสบู่กรดเป็นส่วนผสมในปริมาณของสบู่กรด 1 ก้อน ต่อปริมาณของน้า 25 ลิตร และปริมาณของสบู่กรด 2 ก้อน ต่อปริมาณของน้า 25 ลิตร ใช้เวลา 7 วัน , 14 วัน และ 21 วัน สรุปผลการศึกษา พบว่า การหมักใบบัวด้วยวิธีธรรมชาติ (วิธีที่1) โดยการแช่ใบบัวด้วยน้าสะอาด พบว่า ใบบัวหลวงพันธุ์สัตตบงกช ใช้ระยะเวลา 21 วัน สามารถทาใบบางออกมาได้ดีที่สุด เนื่องจากใบบางยังคงสภาพความสมบรูณ์ ของโครงสร้าง หรือเส้นใยของใบได้ดี ซึ่งเหมาะที่จะนาใบบางไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ ส่วนผลของใบบัวหลวงพันธุ์สัตตบุษย์ และ ใบบัวหลวงพันธุ์พระราชินีที่ได้ คือ คลอโรฟิลล์และเยื่อของใบบัวหลุดออกน้อยมาก เพียงระยะเวลา 7 วัน ใบบัวจะเปื่อยและเน่าเสีย ไม่สามารถทาเป็นใบบางได้ ข้อดี ของการทดลองวิธีที่ 1 คือ จะได้ใบบางที่มีคุณภาพเส้นใยจะมีความแข็งแรง และสมบรูณ์ ข้อเสีย คือ ใช้เวลานาน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
โครงการย่อย : ชุดที่ 3 การศึกษาวิธีการทาใบบาง จากใบบัวหลวง และ แนวโน้มในการพัฒนาสู่การทำผลิตภัณฑ์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ไม่ระบุวันที่เผยแพร่
โครงการย่อย : ชุดที่ 1การศึกษาวิธีการแยกเส้นใยจากก้านใบบัวหลวง สายพันธุ์พระราชินีและความเป็นไปได้ในการนำเส้นใยมา ผลิตเป็นเส้นด้าย การศึกษาผลของสารสกัดจากใบบัวและใบพลูต่อ การยับยั้ง Staphylococcus aureus ATCC 25923 การออกแบบและพัฒนาวิธีการสร้างสรรค์งานผลิตภัณฑ์ จากใบหญ้าแฝกด้วยผ้าไหมไทย โครงการวิจัยผลิตภัณฑ์ผ้าทอมือ โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ โครงการวิจัยผลิตภัณฑ์จักสานและดอกไม้ประดิษฐ์โครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ โครงการศึกษารูปแบบ และออกแบบบรรจุภัณฑ์หัตถกรรมโลหะดุลลายบ้านวัวลาย เชียงใหม่ ต้นแบบกลยุทธ์การตลาดส าหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชน เพื่อการค้าระดับประเทศ สู่ความยั่งยืน (กรณีศึกษา : ผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีระดับต่ำกว่า 3 ดาว ในเขตอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา) การพัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนแม่ปูคา ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกาแพง จังหวัดเชียงใหม่ สารเคมีจากใบมะกล่ำตาหนู : รายงานผลการวิจัย การใช้น้ำมันเมล็ดชาในผลิตภัณฑ์เค้ก : รายงานการวิจัย
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก