สืบค้นงานวิจัย
การเจริญเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็ก (Vallisneria sp.) และแนวทางการจัดการเพื่อสร้างสมดุลย์ระบบนิเวศในแหล่งน้ำชลประทาน
ศิริพร บุญดาว - สำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน
ชื่อเรื่อง: การเจริญเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็ก (Vallisneria sp.) และแนวทางการจัดการเพื่อสร้างสมดุลย์ระบบนิเวศในแหล่งน้ำชลประทาน
ชื่อเรื่อง (EN): Growth, Distribution and Ecology of Eelgrass (Vallisneria sp.) and Tendency of Management for Equilibrium Ecosystem in Irrigation Waters
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ศิริพร บุญดาว
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Siripon Boondaw
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กรมชลประทาน
บทคัดย่อ: การศึกษาการเจริญเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็กที่แพร่ระบาดในแหล่งน้ำชลประทาน ดำเนินการศึกษาทั้งในสภาพเรือนทดลองและในแหล่งน้ำชลประทานจากการศึกษาการแพร่ระบาดของเทปเล็กในพื้นที่ชลประทานทั้งหมด 8 จุดโดยเริ่มสำรวจจากบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคองเรื่อยมาจนถึงบริเวณเขื่อนระบายน้ำมะเกลือใหม่อ. สูงเนินจ. นครราชสีมาพบเทปเล็กมีการแพร่ระบาดจากอ่างเก็บน้ำลำตะคองเข้าสู่คลองลำตะคองจนถึงบริเวณสะพานคลสข้ามลำตะคองบ้านน้ำเมาต. ลาดบัวขาวอ. สีคิ้วจ. นครราชสีมาเท่านั้นซึ่งยังมีการแพร่ระบาดไปไม่ไกลจากตัวอ่างเก็บน้ำมากนักและยังพบในปริมาณไม่มากในแต่ละพื้นที่สำรวจโดยพบแพร่กระจายเป็นหย่อมๆบริเวณริมและตอนกลางของลำน้ำตลอดช่วงลำคลองจากการศึกษาวงจรชีวิตลักษณะทางพฤกษศาสตร์และการแพร่กระจายพันธุ์ของเทปเล็กที่พบแพร่ระบาดในพื้นที่ชลประทานมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Fallisteria spiralis เป็นพืชได้น้ำที่มีอายุข้ามปีลำต้นมีทั้งที่เป็นเหง้าสั้นและเป็นไหลใบเดี่ยวแตกเรียงรอบต้นเป็นกอได้กยมีรากยึดติดพื้นดินแผ่นใบรูปแถบยาวตามระดับน้ำเป็น dioecious plant คือมีดอกตัวผู้และดอกตัวเมียแยกกันอยู่คนละต้นเทปเล็กที่พบมีการแพร่ระบาดอยู่ในบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะคลองและคลองส่งน้ำใกล้เคียงเป็นชนิดต้นตัวเมียไม่พบต้นตัวผู้การแพร่กระจายพันธุ์จึงเกิดจากการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศเท่านั้นคือการแตกไหลซึ่งเป็นวิธีการแพร่ขยายพันธุ์ได้เร็วดอกตัวเมียพบมีการออกดอกในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายนสำหรับการพัฒนาของดอกตัวเมียพบว่าหลังจากปลูกใช้ระยะเวลาจากเริ่มแทงดอกอนกระทั่งดอกเริ่มบานประมาณ 4-5 วันคอกบานเพียง 1 วันหลังจากนั้นจะโรยเมื่อดอกตัวเมียไม่ได้รับการผสมจากดอกตัวผู้คอกตัวเมียก็จะขาดหลุดโดยใช้เวลาประมาณ 8-10 วันลักษณะดอกตัวเมียประกอบด้วยเสืบเลี้ยงเด็กๆ 3 กลีบกลีบดอก 3 กลีบรังไข่รูปทรงกระบอกยาวมีก้านดอกยาวชุดอกขึ้นมาบานที่ผิวน้ำลักษณะของก้านดอกตัวเมียในช่วงแรกของการพัฒนาของตยกจะมีก้านดอกบางและตรงคล้ายเส้นด้ายเมื่ออายุดอกมากขึ้นคือคอกเริ่มจะบานก้านดอกจะเริ่มเป็นคลื่นหนาขึ้นพอหลังจากดอกบานแล้วก้านดอกอะขดเป็นสปริงและดึงดอกลงไปอยู่ได้น้ำโดยถ้านดอกจะมีความยาวประมาณ 45-95 ซม. จากการศึกษาคุณตำทางอาหารและองค์ประกอบทางเคมีของเทปเล็กโดยวิเคราะห์จากส่วนของใบลำเต้นและรากของเทปเล็กแบบสดพบมีค่าความชื้น (Moisture) 93.92% โปรตีน (Protein) 0.74% ไขมัน (Fat) 0.02% ปริมาณคาร์โบไฮเครต (Total carbohydrate) 4.09% เถ้า (Ash) 1.23% เส้นใย (Crud nber) 1.14% และพลังงาน (Total caloics) 19.50 Kcal/100g จากการศึกษาเปรียบเทียบการเจริญเติบโตของเทปเล็กที่ระดับความเค็มของน้ำต่างๆที่ระยะเวลา 7, 14, 21, 30, 45, 60, 75 และ 90 วันหลังการทดลอง พบว่าความเค็มของน้ำมีผลต่อการเจริญเติบโตของเทปเล็ก โดยที่ความเค็มของน้ำที่ระดับ 5 ppt. มีผลต่อเทปเล็กบ้างแต่ยังสามารถที่จะเจริญเติบโตอยู่ได้มีความยาวรวมของส่วนลำต้นและใบและจำนวนต้นที่แตกใหม่แตกต่างจากชุดควบคุมเล็กน้อยที่ระยะเวลา 75 และ 90 วัน แต่ที่ความเค็มของน้ำตั้งแต่ 10 ppt. ขึ้นไปมีผลต่อการเจริญเติบโตของเทปเล็กตั้งแต่ที่ระยะเวลา 7 วันจนถึง 90 วัน ที่สิ้นสุดการทดลอง โดยทำให้ใบพืชเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองแบบตายนึ่งใบไม่ตั้งตรงและเปื่อยเน่าไปในที่สุดรากพืชมีสีคล้ำออกค้าไม่มีการแตกต้นใหม่เพิ่มหรือมีน้อยมากเมื่อเทียบกับชุดควบคุมซึ่งใบมีสีเขียวปรกติมีรากสีขาวและมีการแตกต้นใหม่เพิ่มอย่างชัดเจนจากการศึกษาผลของระดับน้ำต่อการเจริญเติบโตของเทปเล็กที่ระยะเวลา 15, 30, 45, 60, 75 และ 90 วันหลังการทดลอง พบว่า ระดับน้ำมีผลต่อการเจริญเติบโตของเทปเล็กเฉพาะกับความยาวรวมของลำต้นและใบของเทปเล็กเท่านั้นเมื่อระดับน้ำเพิ่มมากขึ้นความยาวรวมของลำต้นและใบของเทปเล็กเพิ่มมากขึ้นที่ระดับความลึกของน้ำที่ 30 และ 45 ซม. ความยาวรวมของลำต้นและใบของเทปเล็กไม่แตกต่างกันมากนักในเกือบทุกช่วงเวลาที่ทำการศึกษาแต่มีความแตกต่างจากระดับความลึกน้ำ 15 ซม. อย่างชัดเจนในส่วนความยาวรากและน้ำหนักแห้งพบว่าก็ไม่มีความแตกต่างกันมากนักในแต่ละระดับความลึกของน้ำและสำหรับการแตกต้นใหม่เพิ่มจะพบว่าไม่มีความแตกต่างกันในแต่ละระดับความลึกจากการศึกษาการเจริญเติบโตของเทปเล็กในดิน 3 ชนิด ได้แก่ ดินทรายดินร่วนและดินเหนียวที่ระยะเวลา 15, 30, 45, 60, 75 และ90วันหลังการทดลองพบว่าคนทั้ง 3 ชนิดที่นำมาทดลองมีคุณสมบัติของดินที่แตกต่างกันซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชจากการศึกษาจะพบว่าโดยรวมแล้วเทปเล็กที่ปลูกในดินเหนียวมีการเจริญเคืบโตได้ดีที่สุดทั้งทางด้านความยาวรวมของลำต้นและใบอำนวนค้นที่แตกใหม่และน้ำหนักแห้งรองลงมาคือดินทรายและดินร่วนตามลำต้นจากการศึกษาการเจริญเติบโตของเทปเล็กในสภาพลอยน้ำไม่ยึดติดดินโดยใช้เทปเล็กที่มีความยาวรวมของสาต้นและใบที่ความยาว 1. 5, 10, 20 และ 30 ซม. ที่ระยะเวลา 15, 30, 45, 60, 75 และ90วันหลังการทดลองพบว่าความยาวรวมของลำต้นและใบขยงเทปเล็กมีผลต่อการอยู่รอดและการแพร่กระยายพันธุ์พบว่าที่ความยาวรวมของลำต้นและใบที่สั้นคือที่ความยาว 1 ชม. จะมีอัตราการเจริญของความยาวรวมของลำต้นและใบสูงสุด 100 55 ตั้งแต่ที่ระยะเวลา 15 วันจนถึง 60 วันหลังการทดลองและที่ 85% ที่ 75 วันหลังการทดลองรองลงมาคือที่ความยาว 5, 10, 20 และ 30 ซมตามลำค้นสำหรับการเจริญของส่วนรากของเทปเล็กในสภาพลอยน้ำไม่ยึดติดดินจะให้ผลตรงข้ามกับส่วนความยาวรวมของลำต้นและใบคือที่ความยาว 1 ซม. มีความยาวรากต่ำสุดและในทุกความยาวรวมของลำต้นและใบของต้นเทปเล็กที่ใช้ทดลองจะมีความยาวรากสูงในช่วง 15 – 30 วันหลังจากนั้นจะมีความยาวรากลดลงในส่วนการแตกต้นใหม่เพิ่มพบเทปเล็กที่มีส่วนความยาวรวมของเจ้าค้นและใบที่ 30 ซม. จะมีการแตกต้นใหม่ได้ดีที่สุดตั้งแต่ที่ระยะเวลา 15 วันหลังการทดลองจนสิ้นสุดการทดลองส่วนที่ความยาวรวมของลำต้นและใบที่ 1, 5 และ 10 ซม. ไม่แตกค้นใหม่หรือแตกเพิ่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเช่นเดียวกับเมื่อพิจารณาจากน้ำหนักแห้งพบว่าเทปเล็กที่มีส่วนความยาวรวมของลำต้นและใบที่ 30 ชม. มีอัตราการเพิ่มของน้ำหนักแห้งสูงสุดรองลงมาคือที่ความยาว 20, 10, 5 และ 1 ซม. ตามลำดับ
บทคัดย่อ (EN): Abstract is in the attached file.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://drive.google.com/file/d/1HZm9GkMnnAeeJLonecPyc774AqD_Tr4_/view?usp=share_link
เผยแพร่โดย: สำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน
คำสำคัญ: ระบบนิเวศ
คำสำคัญ (EN): ecosystem
หมวดหมู่: อื่นๆ
เจ้าของลิขสิทธิ์: กรมชลประทาน
รายละเอียด: Submitted by รดา รุจณรงค์ กรมชลประทาน (rada_ru@rid.go.th) on 2019-03-06T03:33:37Z No. of bitstreams: 2 การเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็ก.pdf: 176110 bytes, checksum: 1f795932551e848dbed023e3cbd92848 (MD5) license_rdf: 811 bytes, checksum: 53b05846eb6eeb1c33891ab08e36a383 (MD5)
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

ศิริพร บุญดาว. "การเจริญเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็ก (Vallisneria sp.) และแนวทางการจัดการเพื่อสร้างสมดุลย์ระบบนิเวศในแหล่งน้ำชลประทานGrowth, Distribution and Ecology of Eelgrass (Vallisneria sp.) and Tendency of Management for Equilibrium Ecosystem in Irrigation Waters". สำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน. 2557

ศิริพร บุญดาว. "การเจริญเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็ก (Vallisneria sp.) และแนวทางการจัดการเพื่อสร้างสมดุลย์ระบบนิเวศในแหล่งน้ำชลประทานGrowth, Distribution and Ecology of Eelgrass (Vallisneria sp.) and Tendency of Management for Equilibrium Ecosystem in Irrigation Waters". สำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
การเจริญเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็ก (Vallisneria sp.) และแนวทางการจัดการเพื่อสร้างสมดุลย์ระบบนิเวศในแหล่งน้ำชลประทาน
ศิริพร บุญดาว
สำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน
2557
แนวทางการควบคุมวัชพืชใต้น้ำ : เทปเล็ก (Vallisneria sp.) ที่แพร่ระบาดในพื้นที่ชลประทาน การเจริญเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็ก (Vallisneria sp.) : วัชพืชน้ำชนิดใหม่ที่แพร่ระบาดในแหล่งน้ำชลประทาน การเจริญเติบโต การแพร่กระจายพันธุ์ และนิเวศวิทยาของเทปเล็ก : วัชพืชน้ำชนิดใหม่ที่แพร่ระบาดในแหล่งน้ำชลประทาน การศึกษาสมดุลย์น้ำของพืชน้ำมันในเขตภาคเหนือ 1.การสมดุลย์น้ำของทานตะวันในสภาพการชลประทาน การศึกษาชนิดและการกระจายพันธุ์ของพรรณไม้น้ำในประเทศไทย การศึกษาการแพร่กระจายของปลิงทะเล พื้นที่ชายฝั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การศึกษาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรของจังหวัดจันทบุรีโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศภูมิศาสตร์ ระบบนิเวศ คืออะไร ความถี่ อัตราและช่วงระยะเวลาการให้น้ำสำหรับอ้อยในเขตชลประทานภาคกลาง ผลของการให้น้ำชลประทานต่อการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของยางพารา ปีที่1
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair