สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาเปรียบเทียบยุทธศาสตร์และกระบวนการแห่งความสัมฤทธิ์ผลในการบริหารจัดการองค์กรเกษตรกรของประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น
ธนณัฎฐ์ รูปสม - มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ชื่อเรื่อง: ศึกษาเปรียบเทียบยุทธศาสตร์และกระบวนการแห่งความสัมฤทธิ์ผลในการบริหารจัดการองค์กรเกษตรกรของประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Effectiveness Strategy and Process in Administrative Management of Farmers Organizations between Thailand and Japan
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ธนณัฎฐ์ รูปสม
บทคัดย่อ: แม้การพัฒนาภาคการเกษตรของญี่ปุ่นได้ดำเนินมาอย่างต่อเนืองจริงจังมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1948 แล้วก็ตาม แต่งานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ยังคงมีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องความรวดเร็วในการ ปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ ให้ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและ วิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่เปลี่ยนแปลงไป ยิ่งมีความล่าช้า ขาดความชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเคยเป็นงานที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนา ภาคการเกษตรของญี่ปุ่นก็ยังคงประสบกับปัญหาทสำคัญต่างๆอยู่ เช่น 1)ความไม่ชัดเจนของบทบาทและ หน้าที่ 2)การแข่งขันอย่างรุนแรงของแหล่งผลิตและการขาดเอกภาพของนโยบาย 3)การปรับตัวล่าช้า 4) การตอบสนองความต้องการของเกษตรกรไม่พอเพียง และ 5) ความพร้อมของหน่วยงานเอกชนที่มีมากกว่า ทำให้บทบาทของงานส่งเสริมของภาครัฐลดลงอย่างรุนแรง เป็นต้น อย่างไรก็ตามมีความพยายามในการพัฒนาและปรับปรุงงานส่งเสริมการเกษตรในปัจจุบันและ อนาคตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 เป็นต้นมา ญี่ปุ่นประสบกับปัญหาที่เกี่ยวกับอาหาร ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและอาหารที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในเรื่อง คุณภาพและความปลอดภัยของอาหารของผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นอย่างรุนแรง รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้ออกประกาศเรื่อง “แผนการทบทวนเรื่องอาหารและเกษตรกรรม” เพื่อใช้เป็นแผน นโยบายพื้นฐานของรัฐบาลที่มีต่อภาคเกษตรกรรม โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปกป้องผู้บริโภค โดยประกาศ ดั่งกล่าวแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ 1) ความปลอดภัยและความมั่นใจของอาหาร 2) เร่งปฏิรูป โครงสร้างการเกษตร และ 3) การดำรงอยู่ร่วมกันของสังคมเมืองและสังคมชนบท สำหรับทิศทางของการพัฒนางานด้านการเกษตรในอนาคตนั้น ญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญการพัฒนา ศักยภาพของเกษตรกรเป็นสำคัญ พร้อมกับการปรับปรุงพัฒนาระบบโครงสร้างภาคการเกษตร และวิธีการ ดำเนินการบริหารจัดการภาคการเกษตรด้านต่างๆควบคู่กันไป เช่นการแก้ไขกฎหมายให้สอดคลองกับ สถานการณ์การเกษตรในปัจจุบัน การผลักดันสนับสนุนการสร้างคนรุ่นใหม่เข้ามาสืบทอดอาชีพเกษตรกรรม แทนเกษตรกรปัจจุบันซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ การสนับสนุนส่งเสริมบุคคลที่จะมีบทบาทสำคัญในการรวบรวมชุมชนเกษตร (ผู้นำชุมชน) การทบทวนโครงสร้างการดำเนินธุรกิจการเกษตร การพัฒนาองค์รวม เพื่อการบริหารจัดการธุรกิจการเกษตร (การประกอบอาชีพรายบุคคลและนิติบุคคลการเกษตร) การจดแบ่ง บทบาทหน้าที่กับหน่วยงานภาคเอกชน การวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยการผลิตชั้นสูงเพื่อการผลิตสินค้าเกษตร ที่มีคุณภาพสูง การจัดการการศึกษาด้านการเกษตรและการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญและ ความจำเป็นของอาชีพเกษตรกรรมและชุมชนเกษตร เป็นต้น เกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรของญี่ปุ่นตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันจะสังกัดเข้าเป็นสมาชิกของ สหกรณ์การเกษตร(JA) และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกรรม เกษตรกรจะได้รับสิทธิประโยชน์ รวมถึงการสนับสนุนต่างๆ จากภาครัฐ ทั้งจากรัฐบาลกลาง และองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นทั้งในระดับจังหวัด อำเภอหรือเมือง โดยความช่วยเหลือหรือสิทธิประโยชน์ต่างๆเหล่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะถูกส่งผ่านระบบ สหกรณ์การเกษตรไปยิ่งเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกร ซึ่งวิธีดำเนินการเช่นนี้ได้เคยสร้างความสำเร็จในการ พัฒนาภาคเกษตรกรรมและองค์กรเกษตรกรของญี่ปุ่นให้เข้มแข็งมาจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตามแม้ใน ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรของญี่ปุ่นจะยังคงมีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการบริหารจัดการธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาชีพเกษตรกรรมอยู่ก็ตามแต่ก็มีคำกล่าวว่า “สหกรณ์ฯเข้มแข็ง เกษตรกรอ่อนแอ” สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาที่เกษตรกรญี่ปุ่นพึ่งพิงสหกรณ์การเกษตรมากเกินไป โดยเฉพาะด้านการตลาด ทำให้เกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรขาดองค์ความรู้และทักษะในการบริหารจัดการการตลาดด้วยตนเอง สหกรณ์การเกษตรซึ่ง เคยเป็นพี่เลี้ยง เป็นที่ปรึกษาที่ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเกษตรกรทั้งด้านวิชาการ การบริหารจัดการธุรกิจ เกษตรมาโดยตลอด อาจกลายเป็นเพียงพ่อค้าคนกลางธรรมดาเท่านั้น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ส่งเสริม การเกษตรนั้นก็ถูกลดความคาดหวังลงอย่างมาก เกษตรกรญี่ปุ่นคาดหวังเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรให้เป็น เพียงผู้ส่งข้อมูลที่ทันสมัยให้อย่างรวดเร็วเท่านั้น ต่างจากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรจากภาคเอกชนที่ สามารถสร้างความเชื่อถือและไว้วางใจได้มากกว่า ทั้งนี้เพราะมีความคลองตัวมากกว่า สามารถเข้าถึง เกษตรกรและองค์กรเกษตรกรได้มากกว่า และรวดเร็วกว่า อาจกล่าวได้ว่าการพัฒนาภาคการเกษตรและการบริหารจัดการองค์กรเกษตรกรของญี่ปุ่นตั้งแต่หลัง สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมานั้นประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง เกษตรกรเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านการผลิต จนสามารถสร้างสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ สนองตอบความต้องการของผู้บริโภคที่มีสูงขึ้นอย่างต่อเนือง มาโดยตลอดได้ อีกทั้งแม้การรวมกลุ่มกนอย่างเข้มแข็ง การสืบทอดอาชีพต่อจากบิดา จะเป็นวัฒนธรรมหรือ วิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์มายาวนานก็ตาม แต่ค่านิยมของคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ที่มองเห็นอาชีพ เกษตรกรรมเป็นเพียงอาชีพ 3 K (KITSUI;ลำบาก หนัก ,KITANAI;สกปรก ,KIKEN;อันตราย) ไม่ น่าสนใจ ผนวกกับนโยบายของรัฐที่ไม่สร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจประกอบอาชีพเกษตรกรรม อย่างต่อเนื่องจริงจัง ขาดการสร้างความรู้ ความเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาอาชีพเกษตรกรรมไว้ ให้แก่คนรุ่นใหม่ การเปิดการค้าเสรีที่ส่งผลให้สินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน เข้า มาตีตลาดสินค้าเกษตรของญี่ปุ่นอย่างหนัก เป็นต้น ได้สร้างความเสื่อมให้แก่อาชีพเกษตรกรรมของญี่ปุ่น อย่างรุนแรง ส่งผลให้เกษตรกรและองค์กรเกษตรกรของญี่ปุ่นอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น เรื่อยๆ ที่ประชุมกลุ่มเกษตรกรหรือองค์กรเกษตรกรที่เคยมีความเข้มแข็ง มีชีวิตชีวา จึงกลายเป็นเพียงที่ ประชุมปรึกษาหารือกันของผู้สูงอายุเท่านั้น แม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะพยายามสนับสนุนผลักดันให้เกิดเกษตรกรรุ่นใหม่ขึ้น หรือการสนับสนุน ส่งเสริมให้เกิดการประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้สะดวกขึ้น ด้วยการแก้กฎหมาย ให้สามารถจนทะเบียนการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นนิติบุคคลได้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะเพียงพอ ต่อปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงได้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คำสำคัญ: เกษตรกร
คำสำคัญ (EN): Japan
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาเปรียบเทียบยุทธศาสตร์และกระบวนการแห่งความสัมฤทธิ์ผลในการบริหารจัดการองค์กรเกษตรกรของประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
30 กันยายน 2551
แร่ธาตุกับสัตว์เคี้ยวเอื้องในประเทศไทย ศักยภาพในการผลิตไก่ฟ้าของประเทศไทย ผลสำเร็จของการย้ายฝากตัวอ่อนโคนมพันธุ์แท้ในประเทศไทย มาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทย ความท้าทายในการบริหารระบบสุขภาพชุมชนของไทย : การศึกษานําร่องในจังหวัดนครสวรรค์ ประเทศไทย ค่าพารามิเตอร์ทางพันธุกรรมของลักษณะความสมบูรณ์พันธุ์ของโคนมในประเทศไทย ความหลากหลายทางพันธุกรรมของกล้วยไม้สกุลกุหลาบในประเทศไทยด้วยเทคนิค SRAP รูปแบบการบริหารจัดการในการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตระบบเกษตรนาแปลงใหญ่สู่ความยั่งยืนในเขตภาคเหนือตอนบน ความหลากหลายทางพันธุกรรมของแมลงวันผลไม้ Bactrocera latifrons ในภาคกลางของประเทศไทย แนวทางการพัฒนาด้านการบริหารจัดการ : มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก