สืบค้นงานวิจัย
ประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ (Rhizobium) เพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันที่มีต่อการปลูกข้าวในพื้นที่ดินเค็ม
สุดสงวน เทียมไธสงค์ - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: ประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ (Rhizobium) เพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันที่มีต่อการปลูกข้าวในพื้นที่ดินเค็ม
ชื่อเรื่อง (EN): Effective of microorganism (Rhizobium) on growth and biomass of Sesbania rostrata and rice yield in saline soil.
บทคัดย่อ: การศึกษาประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ (Rhizobium) เพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันที่มีต่อการปลูกข้าวในพื้นที่ดินเค็ม ดำเนินการทดลองที่แปลงนาเกษตรกร อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น วางแผนการทดลองแบบ RCBD มี 3 ซ้ำ มีตำรับการทดลอง 6 ตำรับการทดลอง คือ (1) วิธีเกษตรกร (ปลูกข้าวอย่างเดียวใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่) (2) ปลูกโสนอัฟริกัน+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่) (3) ปลูกโสนอัฟริกัน+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) (4) ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่) (5) ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่+ ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) (6) ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่+ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลผลิต ข้อมูลดิน และผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจของแต่ละตำรับการทดลองดินก่อนทำการทดลอง มีค่าการนำไฟฟ้า EC (mS/cm) อยู่ในระดับที่เค็มมาก คือ 0.83 ปริมาณอินทรียวัตถุอยู่ในระดับต่ำ 1.20 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณธาตุฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินระดับปานกลาง 14.65 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และมีปริมาณธาตุโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ในดินระดับต่ำ 50.23 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หลังทำการทดลองพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติดิน ค่าการนำไฟฟ้า EC (mS/cm) อยู่ในทุกตำรับการทดลองมีแนวโน้มลดลง อยู่ระหว่าง 0.89-0.22 (mS/cm) ปริมาณอินทรียวัตถุในดินหลังการเก็บเกี่ยว ในทุกวิธีการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำ อยู่ระหว่าง 1.12-1.41 เปอร์เซ็นต์ สำหรับปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในทุกวิธีการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่าง 14.68-22.13 mg kg-1และปริมาณโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ทุกวิธีการทดลองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่าง 59.00-78.33 mg kg-1 ผลการศึกษาพบว่า ผลผลิตของข้าว มีไม่ความแตกต่างกันทางสถิติ แต่มีแนวโน้มว่าตำรับการทดลองที่4 ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่) ให้ผลผลิตสูงสุดเฉลี่ยคือ 331 กิโลกรัมต่อไร่ รองลงมาคือ ตำรับการทดลองที่ 3ปลูกโสนอัฟริกัน+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) ให้ผลผลิตเฉลี่ยคือ 242 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 1 วิธีเกษตรกร (ปลูกข้าวอย่างเดียวใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่) ให้ผลผลิตเฉลี่ยคือ 238 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 6 ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่+ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) ให้ผลผลิตเฉลี่ยคือ 233 กิโลกรัมต่อไร่ ตำรับการทดลองที่ 2 ปลูกโสนอัฟริกัน+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่)ให้ผลผลิตเฉลี่ยคือ 230 กิโลกรัมต่อไร่ และตำรับการทดลองที่ 5 ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่+ ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) ให้ผลผลิตเฉลี่ยคือ 230 กิโลกรัมต่อไร่ ตามลำดับ ส่วนเปอร์เซ็นต์เมล็ดดี พบว่า ตำรับการทดลองที่4 ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่) ให้เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีเฉลี่ย 92.10 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ ตำรับการทดลองที่ 6 ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่+ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) ให้เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีเฉลี่ย 91.99 เปอร์เซ็นต์ ตำรับการทดลองที่ 5 ปลูกโสนอัฟริกัน+สารเร่งพด.11ขยายเชื้อในปุ๋ยหมักอัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่+ ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) ให้เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีเฉลี่ย 91.45 เปอร์เซ็นต์ ตำรับการทดลองที่ 3ปลูกโสนอัฟริกัน+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยชีวภาพอัตรา 300 กิโลกรัมต่อไร่) ให้เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีเฉลี่ย 90.51 เปอร์เซ็นต์ ตำรับการทดลองที่ 2 ปลูกโสนอัฟริกัน+ปลูกข้าวตาม (ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่) ให้เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีเฉลี่ย 89.48 เปอร์เซ็นต์ และตำรับการทดลองที่ 1 วิธีเกษตรกร (ปลูกข้าวอย่างเดียวใส่ปุ๋ยเคมีอัตราแนะนำ16-16-8 อัตรา 35 กิโลกรัมต่อไร่ให้เปอร์เซ็นต์เมล็ดดีเฉลี่ย 86.89 เปอร์เซ็นต์ และยังพบว่าพืชปุ๋ยสด (โสนอัฟริกัน) เหมาะสมสำหรับการปลูกเป็นพืชปุ๋ยสดก่อนทำการปลูกข้าวเพื่อปรับปรุงบำรุงดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ดินเค็ม เนื่องจากโสนอัฟริกันสามารถเจริญเติบโตได้ดีในแปลงข้าวเมื่อทำการไถกลบโสนอัฟริกันแล้วสลายตัวเน่าเปื่อยผุพังก็จะช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารให้กับดิน เหมาะสมที่จะนำมาปลูกเป็นพืชปุ๋ยสด เนื่องจากสามารถทนต่อสภาพดินเค็ม
บทคัดย่อ (EN): Study on efficiency of Rhizobium on biomass production of Sesbania rostrata as green manure for rice in saline paddy soils North Eastern. They are studied in paddy field salinity area Phai district, Khon Kaen province. Experimental design was a completely randomized design. There were six treatments and three replications, 1) Framer method, they are growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai 2) Sesbania rostrata incorporated and growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai 3) Sesbania rostrata incorporated and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai 4) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 Kg/rai 5) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai 6) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai and chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai. During the experiment, soil properties, rice yield and economic returns were measured. Before, experimental we are soil properties measured; EC 0.83 mS/cm, Organic matter 1.20 %, Available phosphorus 14.65 mg/kg, Available potassium 50.23 mg/kg. And after experimental, the results showed that there was significant difference all treatments improve soil properties; Organic matter increase 1.12-1.41 %, Available phosphorus increase 14.68-22.13 mg/kg but Available potassium increase 59.00-78.33 mg/kg, but we fund all treatment decrease EC 0.89-0.22 mS/cm. Rice yield, the results showed that there was non-significant but in treatment 4) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 Kg/rai plot gave the highest rice yield 331 kg/rai, followed by treatment 3) Sesbania rostrata incorporated and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai rice yield 242 kg/rai, treatment 1) Framer method, they are growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai rice yield 238 kg/rai, treatment 6) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai and chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai rice yield 233 kg/rai, treatment 2) Sesbania rostrata incorporated and growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai rice yield 230 kg/rai and the lowest treatment 5) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai rice yield 230 kg/rai Yield components; percentage of good seeds the results showed that there was the highest treatment 4) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 Kg/rai percentage of good seeds 92.10 % followed by treatment 6) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai and chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai percentage of good seeds 91.99 %, 5) Sesbania rostrata incorporated + compost by LDD.11 microbial activator (100 kg/rai) and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai percentage of good seeds 91.45 %, treatment 3) Sesbania rostrata incorporated and growing rice and adding bio-fertilizer 300 kg/rai percentage of good seeds 90.51 %, treatment 2) Sesbania rostrata incorporated and growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai percentage of good seeds 89.48 % and treatment 1) Framer method, they are growing rice and adding chemical fertilizer (16-16-8) 35 kg/rai percentage of good seeds 86.89 % is lowest treatment. Sesbania rostrata can grow in saline and they are as green manure can be a potential of plant nutrients suitable for rice growth and improve soil properties in saline paddy soils North Eastern Thailand.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dric.nrct.go.th/Search/SearchDetail/292736
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: ข้าว
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ประสิทธิภาพของจุลินทรีย์ (Rhizobium) เพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันที่มีต่อการปลูกข้าวในพื้นที่ดินเค็ม
กรมพัฒนาที่ดิน
31 มีนาคม 2555
ผลของการใช้ผลิตภัณฑ์สารเร่งพด.11 ต่อการเจริญเติบโต เพิ่มมวลชีวภาพโสนอัฟริกันที่มีต่อผลผลิตของข้าวที่ปลูกในพื้นที่ดินเค็ม การประยุกต์ใช้จุลินทรีย์สำหรับพืชปรับปรุงบำรุงดินเพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันและผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในพื้นที่ดินเค็มน้อย คัดแยกและคัดเลือกจุลินทรีย์ไรโซเบียมทนเค็มเพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสน อัฟริกันที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ดินเค็ม ข้าวให้พลังงานผสานคุณค่าอาหาร ผลของวิธีการต่างกัน ในการใช้เชื้อไรโซเบียมสำหรับโสนอัฟริกันและปอเทือง ต่อมวลชีวภาพของพืชปุ๋ยสด สมบัติของดินและผลผลิตของข้าว คัดแยกและคัดเลือกจุลินทรีย์ไรโซเบียมทนเค็มเพื่อเพิ่มมวลชีวภาพของโสนอัฟริกันที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่ดินเค็ม การเปลี่ยนแปลงการแพร่กระจายคราบเกลือบนผิวดินหลังจากการพัฒนา ดินเค็มแบบบูรณาการในพื้นที่ ตำบลด่านช้าง ตำบลขุนทอง อำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ผลของการใช้จุลินทรีย์ชอบเค็มต่อการปลูกข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในพื้นที่ดินเค็ม การเพิ่มศักยภาพพื้นที่ดินเค็มด้วยปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยพืชสด ปุ๋ยชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 การประยุกต์ใช้ระบบไม้ยืนต้นและหญ้าแฝกร่วมกับวัสดุอินทรีย์คุณภาพต่างกันเพื่อเพิ่มศักยภาพในการปลูกข้าวในพื้นที่ดินเค็ม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก