สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาการตัดแต่งกิ่งที่มีผลต่อปริมาณและคุณภาพขององุ่นพันธุ์ไม่มีเมล็ด
รัฐพล ฉัตรบรรยงค์ - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาการตัดแต่งกิ่งที่มีผลต่อปริมาณและคุณภาพขององุ่นพันธุ์ไม่มีเมล็ด
ชื่อเรื่อง (EN): Study on Pruning to Yield and Quality of Seedless Grape Varieties
บทคัดย่อ: ศึกษาผลของ paclobutrazol ต่อ Total Non-structural Carbohydrates การเจริญเติบโตของยอด และการเกิดตาดอกขององุ่นทำไวน์แดงพันธุ์ Cabernet Sauvignon โดยการราดสารพาโคลบิวทราโซลที่ความเข้มข้น 0 0.25 0.5 และ 0.75 กรัม a.i./ต้น ที่ระยะแตกตาใหม่มีใบ 5-7 ใบ ทำการทดลองที่สวนองุ่นในอำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2554 ถึงเดือนตุลาคม 2554 พบว่าต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคลบิวทราโซลและไม่ได้รับสารมีความยาวของกิ่ง และจำนวนช่อดอกต่อต้นแตกต่างกันทางสถิติ โดยต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคบิวทราโซลความเข้มข้น 0.25 0.5 และ 0.75 กรัม a.i./ต้น มีความยาวของกิ่งสั้นกว่าและมีจำนวนช่อดอกต่อต้นมากกว่าต้นที่ไม่ได้รับสาร ขณะที่ความยาวปล้อง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปล้อง ขนาดใบ ค่าความเขียวใบ และปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ไม่อยู่ในรูปโครงสร้างนั้น ไม่แตกต่างกันทางสถิติ แต่ต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคบิวทราโซลความเข้มข้น 0.25 0.5 และ 0.75 กรัม a.i./ต้น มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ไม่อยู่ในรูปโครงสร้างระหว่าง 71.58 ถึง 82.08 มิลลิกรัม/กรัม น้ำหนักแห้ง ซึ่งมากกว่าต้นที่ไม่ได้รับสาร (68.50 มิลลิกรัม/กรัม น้ำหนักแห้ง) ในส่วนของเปอร์เซ็นต์การเกิดช่อดอกพบว่า ต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคลบิวทราโซลความเข้มข้น 0.75 กรัม a.i./ต้น มีเปอร์เซ็นต์การเกิดช่อดอกของตาตำแหน่งที่ 4 ถึง 12 มากกว่าต้นองุ่นที่ไม่ได้รับสาร โดยต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคบิวทราโซลความเข้มข้น 0.75 กรัม a.i./ต้น มีเปอร์เซ็นต์การเกิดช่อดอกของตาตำแหน่งที่ 4 ถึง 12 อยู่ระหว่าง 20.6-65.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ต้นองุ่นที่ไม่ได้รับสารพาโคบิวทราโซล มีเปอร์เซ็นต์การเกิดช่อดอกของตาตำแหน่งที่ 4 ถึง 12 อยู่ระหว่าง 6.8-33.2 เปอร์เซ็นต์ และตำแหน่งที่เหมาะสมในการตัดแต่งกิ่งองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ที่ได้รับสารพาโคบิวทราโซลความเข้มข้น 0.75 กรัม a.i./ต้นนั้น ควรตัดแต่งให้เหลือ 7-9 ตาต่อกิ่ง ศึกษาผลของ paclobutrazol ต่อ Total Non-structural Carbohydrates การเจริญเติบโตของยอด และการเกิดตาดอกขององุ่นทำไวน์แดงพันธุ์ Cabernet Sauvignon โดยการราดสารพาโคลบิวทราโซลที่ความเข้มข้น 0 0.25 0.5 และ 0.75 กรัม a.i./ต้น ที่ระยะแตกตาใหม่มีใบ 5-7 ใบ ทำการทดลองที่สวนองุ่นในอำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร ระหว่างเดือนพฤษภาคม 2554 ถึงเดือนตุลาคม 2554 พบว่าต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคลบิวทราโซลและไม่ได้รับสารมีความยาวของกิ่ง และจำนวนช่อดอกต่อต้นแตกต่างกันทางสถิติ โดยต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคบิวทราโซลความเข้มข้น 0.25 0.5 และ 0.75 กรัม a.i./ต้น มีความยาวของกิ่งสั้นกว่าและมีจำนวนช่อดอกต่อต้นมากกว่าต้นที่ไม่ได้รับสาร ขณะที่ความยาวปล้อง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางปล้อง ขนาดใบ ค่าความเขียวใบ และปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ไม่อยู่ในรูปโครงสร้างนั้น ไม่แตกต่างกันทางสถิติ แต่ต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคบิวทราโซลความเข้มข้น 0.25 0.5 และ 0.75 กรัม a.i./ต้น มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ไม่อยู่ในรูปโครงสร้างระหว่าง 71.58 ถึง 82.08 มิลลิกรัม/กรัม น้ำหนักแห้ง ซึ่งมากกว่าต้นที่ไม่ได้รับสาร (68.50 มิลลิกรัม/กรัม น้ำหนักแห้ง) ในส่วนของเปอร์เซ็นต์การเกิดช่อดอกพบว่า ต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคลบิวทราโซลความเข้มข้น 0.75 กรัม a.i./ต้น มีเปอร์เซ็นต์การเกิดช่อดอกของตาตำแหน่งที่ 4 ถึง 12 มากกว่าต้นองุ่นที่ไม่ได้รับสาร โดยต้นองุ่นที่ได้รับสารพาโคบิวทราโซลความเข้มข้น 0.75 กรัม a.i./ต้น มีเปอร์เซ็นต์การเกิดช่อดอกของตาตำแหน่งที่ 4 ถึง 12 อยู่ระหว่าง 20.6-65.6 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ต้นองุ่นที่ไม่ได้รับสารพาโคบิวทราโซล มีเปอร์เซ็นต์การเกิดช่อดอกของตาตำแหน่งที่ 4 ถึง 12 อยู่ระหว่าง 6.8-33.2 เปอร์เซ็นต์ และตำแหน่งที่เหมาะสมในการตัดแต่งกิ่งองุ่นพันธุ์ Cabernet Sauvignon ที่ได้รับสารพาโคบิวทราโซลความเข้มข้น 0.75 กรัม a.i./ต้นนั้น ควรตัดแต่งให้เหลือ 7-9 ตาต่อกิ่ง
บทคัดย่อ (EN): Effects of paclobutrazol (PBZ) on total non-structural carbohydrates (TNC), shoot growth and flower bud formation of red wine grape, namely Cabernet Sauvignon were studied by soil application of PBZ at the concentration of 0, 0.25, 0.5 and 0.75 g a.i./vine at 5 to 7-leaf stage. The experiment was conducted at vineyard, Dong Charoen District, Phichit Province from May, 2011 to October, 2011. The results showed that PBZ treated and control vines were significantly different on shoot length and number of flower clusters/vine which the treated vines with PBZ at the concentration of 0.25, 0.5 and 0.75 g a.i./vine gave shorter shoot length and higher the number of flower cluster than the untreated. While internode length, internode diameter, leaf size, leaf greenness (SPAD unit) and TNC were not significant different among the treatments. However, the treated vines with PBZ at the concentration of 0.25, 0.5 and 0.75 g a.i./vine gave the TNC between 71.58 to 82.08 mg/g dry weight which had higher TNC than the untreated (68.50 mg/g dry weight). The percentage of fruitful buds showed that vines were treated by PBZ at the concentration of 0.75 g a.i./vine gave higher percentage of fruitful buds at bud positions 4 to 12 (count form base) than the untreated vine. The treated vines with PBZ at the concentration of 0.75 g a.i./vine gave percentage of fruitful bud between 20.6-65.6% whereas the untreated gave percentage of fruitful bud between 6.8-33.2% and the recommendation level of pruning in the treated ‘Cabernet Sauvignon’ grapevines with PBZ at the concentration of 0.75 g a.i./vine was 7-9 node/cane.Effects of paclobutrazol (PBZ) on total non-structural carbohydrates (TNC), shoot growth and flower bud formation of red wine grape, namely Cabernet Sauvignon were studied by soil application of PBZ at the concentration of 0, 0.25, 0.5 and 0.75 g a.i./vine at 5 to 7-leaf stage. The experiment was conducted at vineyard, Dong Charoen District, Phichit Province from May, 2011 to October, 2011. The results showed that PBZ treated and control vines were significantly different on shoot length and number of flower clusters/vine which the treated vines with PBZ at the concentration of 0.25, 0.5 and 0.75 g a.i./vine gave shorter shoot length and higher the number of flower cluster than the untreated. While internode length, internode diameter, leaf size, leaf greenness (SPAD unit) and TNC were not significant different among the treatments. However, the treated vines with PBZ at the concentration of 0.25, 0.5 and 0.75 g a.i./vine gave the TNC between 71.58 to 82.08 mg/g dry weight which had higher TNC than the untreated (68.50 mg/g dry weight). The percentage of fruitful buds showed that vines were treated by PBZ at the concentration of 0.75 g a.i./vine gave higher percentage of fruitful buds at bud positions 4 to 12 (count form base) than the untreated vine. The treated vines with PBZ at the concentration of 0.75 g a.i./vine gave percentage of fruitful bud between 20.6-65.6% whereas the untreated gave percentage of fruitful bud between 6.8-33.2% and the recommendation level of pruning in the treated ‘Cabernet Sauvignon’ grapevines with PBZ at the concentration of 0.75 g a.i./vine was 7-9 node/cane.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: ผลผลิตและคุณภาพ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาการตัดแต่งกิ่งที่มีผลต่อปริมาณและคุณภาพขององุ่นพันธุ์ไม่มีเมล็ด
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2555
ศึกษาวิธีการตัดแต่งกิ่งยางอ่อน ผลของการตัดดอกต่อผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดดองดึง การทดสอบผลของการตัดก่อนการเก็บเกี่ยวต่อผลผลิตและคุณภาพเมล็ดพันธุ์หญ้าอะตราตัม การปรับปรุงสวนลำไยเก่าโดยวิธีการตัดแต่งกิ่งและเปลี่ยนยอดพันธุ์ ผลของระยะการตัดที่มีต่อผลผลิตและคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ถั่วคาวาลเคด ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงร่วมกับปุ๋ยเคมีต่ผลผลิตและคุณภาพขององุ่นพันธุ์ Perlette (ชื่อเดิม : ผลของปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงและปุ๋ยอินทรีย์น้ำต่อผลผลิตและคุณภาพขององุ่นพันธุ์ Perlette) การศึกษาพืชสกุล Brachiaria เพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์3.ผลของเวลาตัดปิดแปลงที่มีผลต่อผลผลิตและคุณภาพเมล็ดพันธุ์หญ้าซิกแนลตั้ง 4 สายพันธุ์ การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวลูกผสมเดี่ยวพันธุ์ใหม่ Kwsx 107 และ Kwsx 91 เพื่อผลผลิตและคุณภาพเมล็ดพันธุ์สูงเพื่อการค้า ผลของการจัดทรงต้นและการตัดแต่งกิ่งแขนงในหม่อนผลสดพันธุ์เชียงใหม่ต่อผลผลิตผลหม่อน ผลของการใส่ปุ๋ยไนโตรเจนที่มีผลต่อผลผลิตและคุณภาพเมล็ดพันธุ์หญ้าซิกแนลตั้ง 5 สายพันธุ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก