สืบค้นงานวิจัย
การส่งเสริมการเจริญของข้าวโดยแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน
ชนิกานต์ คุ้มนก - มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ชื่อเรื่อง: การส่งเสริมการเจริญของข้าวโดยแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน
ชื่อเรื่อง (EN): Rice growth promotion of diazotroph endophytic bacteria
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ชนิกานต์ คุ้มนก
บทคัดย่อ: งานวิจัยเรื่องนี้ การส่งเสริมการเจริญเติบโตของข้าวโดยแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน ประกอบด้วยการแยกแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนและลำต้นจากรากและลำต้นของข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และข้าวพันธุ์ orufipogon วัดประสิทธิภาพการตรึงไนโตรเจนและสามารถในการสร้างกรดอินโดอะซีติก(IAA) ผลการวิจัยพบว่าแยกแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทั้งหมด 52 ไอโซเลต จากข้าวป่า32 ไอโซเลต และข้าวพันธุ์ปลูก 20 ไอโซเลต โดยเป็นแบคที่เรียในสกุล 3 สกุล คือ Azospirllum 34 ไอโซเลต Herbaspirllum 8 ไอโซเลต และ Pseudomonas 12 ไอโซเลต แบคที่เรียเอนโดไฟท์ทั้ง 52 ไปโซเลตมีอัตราการตรึงไนโตรเจนระหว่าง 0.72-138.13 นาโนโมลของเอทธิลีนต่อมิลลิกรัมโปรตีนต่อชั่วโมง และมีอัตราการสร้างกรดอินโดลอะซีติก (IAA) อยู่ระหว่าง 25.22-67.91 ไมโครต่อมิลลิกรัม คัดเลือกแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน ที่มีอัตราการตรึงไนโตรเจนและสร้างกรดอนโดอะซีติกสูง จำนวน 6 ไอโซเลต คือ CMOS08, CMOR01, CMOR04, CMOR06, CMOR09, และ CMOR15 ทดสอบความสามารถในการส่งเสริมการเจริญของต้นข้าวในสภพาเรือนทดลอง พบว่าแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทุกไอโซเลต สามารถส่งเสริมการเจริญของข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ที่ช่วงอายุ 30 วัน โดยแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน CMR05 ทำให้น้ำหนักแห้งของลำต้นและปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดที่สะสมในส่วนที่เหนือดิน (N-uptake) มากที่สุด รองลงมาคือ ไอโซเลต CMR06 โดยมีค่าน้ำหนักของลำต้นเท่ากับ 1.69 และ 1.58 กรัมต่อกระถาง และปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดที่สะสมในส่วนเหนือดินเท่ากับ 29.19 และ 27.93 มิลลิกรัม/กระถาง ตามลำดับ ทำการปลูกถ่ายเชื้อแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทั้งสองไอโซเลตนี้ให้กับข้าว 3 พันธุ์คือ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 พันธุ์พิษณุโลก 80 และพันธุ์ชัยนาท 80 ปลูกในกระถางสภพาเรือนทดลอง วัดความสู.ของลำต้น จำนวนกอต่อต้น ที่ช่วงอายุ 30 45 60 และ 75 วัน ทำการนับจำนวนแบคที่เรียเอนโดไฟท์และวัดน้ำหนักแห้งของลำต้นและรากที่ช่วงอายุ 75 วันพบว่าแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนไอโซเลต CMOR 15 โดยทำให้ความสูงของลำต้นจำนวนกอต่อต้น มากกว่าไอโซเลต CMOR06 และชุดควบคุมที่ทุกช่วงอายุตั้งแต่ 45 วันจนถึง75 วันสำหรับจำนวนแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทั้งในส่วนของรากและลำต้นของข้าวทั้ง 3 พันธุ์ มีค่า log number อยู่ระหว่าง 4.81-4.85 และ 4.16 -4.72 ตามลำดับ โดยพบไอโซเลต CMOR15 มากกว่าไอโซเลต CMOR06 ในส่วนของรากมากกว่าลำต้นในข้าวทุกพันธุ์ ในส่วนของน้ำหนักแห้งของลำต้นและรากของข้าวทั้ง 3 พันธุ์ที่ปลูกถ่ายเชื้อแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทั้งสองไอโซเลตมีค่ามากกว่าชุดควบคุมโดยมีค่าอยู่ระกว่า9.36-15.43 และ4.63-11.56 กรัม ต่อกระถาง แต่ทั้งสองไอโซเลตไม่มีความแตกต่างกัน
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
คำสำคัญ: พันธุ์ orufipogon
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
รายละเอียด: งานวิจัยเรื่องนี้ การส่งเสริมการเจริญเติบโตของข้าวโดยแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน ประกอบด้วยการแยกแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนและลำต้นจากรากและลำต้นของข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และข้าวพันธุ์ orufipogon วัดประสิทธิภาพการตรึงไนโตรเจนและสามารถในการสร้างกรดอินโดอะซีติก(IAA) ผลการวิจัยพบว่าแยกแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทั้งหมด 52 ไอโซเลต จากข้าวป่า32 ไอโซเลต และข้าวพันธุ์ปลูก 20 ไอโซเลต โดยเป็นแบคที่เรียในสกุล 3 สกุล คือ Azospirllum 34 ไอโซเลต Herbaspirllum 8 ไอโซเลต และ Pseudomonas 12 ไอโซเลต แบคที่เรียเอนโดไฟท์ทั้ง 52 ไปโซเลตมีอัตราการตรึงไนโตรเจนระหว่าง 0.72-138.13 นาโนโมลของเอทธิลีนต่อมิลลิกรัมโปรตีนต่อชั่วโมง และมีอัตราการสร้างกรดอินโดลอะซีติก (IAA) อยู่ระหว่าง 25.22-67.91 ไมโครต่อมิลลิกรัม คัดเลือกแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน ที่มีอัตราการตรึงไนโตรเจนและสร้างกรดอนโดอะซีติกสูง จำนวน 6 ไอโซเลต คือ CMOS08, CMOR01, CMOR04, CMOR06, CMOR09, และ CMOR15 ทดสอบความสามารถในการส่งเสริมการเจริญของต้นข้าวในสภพาเรือนทดลอง พบว่าแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทุกไอโซเลต สามารถส่งเสริมการเจริญของข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ที่ช่วงอายุ 30 วัน โดยแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน CMR05 ทำให้น้ำหนักแห้งของลำต้นและปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดที่สะสมในส่วนที่เหนือดิน (N-uptake) มากที่สุด รองลงมาคือ ไอโซเลต CMR06 โดยมีค่าน้ำหนักของลำต้นเท่ากับ 1.69 และ 1.58 กรัมต่อกระถาง และปริมาณไนโตรเจนทั้งหมดที่สะสมในส่วนเหนือดินเท่ากับ 29.19 และ 27.93 มิลลิกรัม/กระถาง ตามลำดับ ทำการปลูกถ่ายเชื้อแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทั้งสองไอโซเลตนี้ให้กับข้าว 3 พันธุ์คือ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 พันธุ์พิษณุโลก 80 และพันธุ์ชัยนาท 80 ปลูกในกระถางสภพาเรือนทดลอง วัดความสู.ของลำต้น จำนวนกอต่อต้น ที่ช่วงอายุ 30 45 60 และ 75 วัน ทำการนับจำนวนแบคที่เรียเอนโดไฟท์และวัดน้ำหนักแห้งของลำต้นและรากที่ช่วงอายุ 75 วันพบว่าแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนไอโซเลต CMOR 15 โดยทำให้ความสูงของลำต้นจำนวนกอต่อต้น มากกว่าไอโซเลต CMOR06 และชุดควบคุมที่ทุกช่วงอายุตั้งแต่ 45 วันจนถึง75 วันสำหรับจำนวนแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทั้งในส่วนของรากและลำต้นของข้าวทั้ง 3 พันธุ์ มีค่า log number อยู่ระหว่าง 4.81-4.85 และ 4.16 -4.72 ตามลำดับ โดยพบไอโซเลต CMOR15 มากกว่าไอโซเลต CMOR06 ในส่วนของรากมากกว่าลำต้นในข้าวทุกพันธุ์ ในส่วนของน้ำหนักแห้งของลำต้นและรากของข้าวทั้ง 3 พันธุ์ที่ปลูกถ่ายเชื้อแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจนทั้งสองไอโซเลตมีค่ามากกว่าชุดควบคุมโดยมีค่าอยู่ระกว่า9.36-15.43 และ4.63-11.56 กรัม ต่อกระถาง แต่ทั้งสองไอโซเลตไม่มีความแตกต่างกัน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การส่งเสริมการเจริญของข้าวโดยแบคที่เรียเอนโดไฟท์ตรึงไนโตรเจน
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
2557
ฤทธิ์ทางชีวภาพของราเอนโดไฟท์ที่แยกได้จากป่าชายเลน : รายงานการวิจัย -aminolevulinic acid (ALA) ในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของแหนแดงเพื่อใช้เป็นปุ๋ยพืชสดในนาข้าว ผลการใช้แหนแดงแทนปุ๋ยไนโตรเจนต่อผลผลิตของข้าว การใช้ชีวภัณฑ์จุลินทรีย์ Bacillus subtilis ในการส่งเสริมการเจริญเติบโต ของต้นกล้าข้าวที่ปลูกในสภาวะดินเค็มจากนํ้าทะเล ผลของออกซิเจนและแอมโมเนียมไนเตรทต่อการปลดปล่อยมีเทนและการตรึงไนโตรเจนของข้าว การศึกษาลักษณะการเจริญเติบโตของข้าวสาลีที่มีต่อผลผลิตในสภาพแล้ง ผลการคลุกฟางข้าวติดต่อกันที่มีต่อดินและผลผลิตข้าว ศึกษาการทำลายเมล็ดข้าวบาร์เลย์ของด้วงงวงข้าว ผลของแหล่งไนโตรเจนและฟอสฟอรัสต่อการเจริญและการผลิต แอสตาแซนทินของ Haematococcus sp. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระดับปุ๋ยไนโตรเจนกับความเสียหายเนื่องจากการทำลายของหนอนกอข้าวสาลี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก