สืบค้นงานวิจัย
การชักนำต้นอ่อนของเฟิร์นอัฟริกันจากการเลี้ยงแคลลัส
สุจิตรา เพชรคง - กรมประมง
ชื่อเรื่อง: การชักนำต้นอ่อนของเฟิร์นอัฟริกันจากการเลี้ยงแคลลัส
ชื่อเรื่อง (EN): Plant Regeneration on Bolbitis heudelotii callus
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สุจิตรา เพชรคง
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): sujitra pechkong
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. กรมประมง
บทคัดย่อ: ึกษาการผลิตต้นเฟิร์นอัฟริกาจากการชักน าแคลลัส โดยการชักน าแคลลัสจากยอดอ่อนของ เฟิร์นในอาหารดัดแปลงสูตร MS (Murashinge and Skoog, 1962) ที่เติมสารควบคุมการเจริญเติบโต 2 ชนิด คือ BA (N6-Benzyladenine) และ NAA (Naphthaleneacetic acid) จากนั้นศึกษาระดับสารควบคุมการเจริญเติบโตที่เหมาะสมต่อการเพิ่มปริมาณแคลลัส และการเกิดต้นอ่อนที่สมบูรณ์และมีรากจากแคลลัส ตลอดทั้งศึกษาการเจริญเติบโตของต้นเฟิร์นที่ได้จากการชักน าแคลลัสในสภาพโรงเรือนผลการทดลอง พบว่า สารควบคุมการเจริญเติบโตชนิด BA และ NAA มีปฏิกริยาสัมพันธ์ (interaction) กัน ดังนั้น BA และ NAA มีอิทธิพลร่วมกันในการชักน าการเกิดแคลลัสของเฟิร์นอัฟริกาอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ (P<0.05) เมื่อพิจารณาจากการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางสัณฐานของแคลลัสเมื่อเลี้ยงครบ 4 เดือน พบว่า สารควบคุมการเจริญเติบโตมีผลให้ยอดอ่อนเฟิร์นอัฟริกามีการเปลี่ยนแปลงแคลลัสลักษณะต่างๆกัน แบ่งเป็น 5 ลักษณะ ได้แก่ (A) แคลลัสมีสีเขียว มีขน และเป็นก้อนแคลลัสที่ไม่มีการพัฒนาเป็นอวัยวะ (B) แคลลัสมีสีเขียว มีขน และเป็นก้อนแคลลัสที่มีการพัฒนาเป็นยอดอ่อน (C) แคลลัสมีสีเขียว มีขนและเป็นก้อนแคลลัสที่มีการพัฒนาเป็นใบอ่อน (D) แคลลัสมีสีเขียว มีขน และเป็นก้อนแคลลัสที่มีการพัฒนา เป็นต้นอ่อน และ (E) แคลลัสมีสีเขียว มีขน และเป็นก้อนแคลลัสที่มีการพัฒนาเป็นต้นอ่อนที่สมบูรณ์และมีรากอาหารที่เหมาะสมต่อการเพิ่มปริมาณแคลลัส คือ อาหารที่เติม BA 2.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ NAA 2.0 มิลลิกรัมต่อลิตร รองลงมาคือ อาหารที่เติมเฉพาะ BA 1.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ NAA 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ลักษณะของแคลลัสที่ได้จะเกาะกันแน่น (Compact callus) และ อาหารที่เหมาะสมต่อการ เกิดต้นอ่อนสมบูรณ์และมีรากจากการชักน าแคลลัสสูงสุด คือ อาหารสังเคราะห์ที่เติม BA 0.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ NAA 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร มีค่าเท่ากับ 70.7 % เมื่อเลี้ยงเฟิร์นต้นสมบูรณ์ ในโรงเรือนแบบไร้ดิน เป็นระยะเวลา 4 เดือน พบว่า ต้นเฟิร์นมีชีวิตรอด 78.33?2.887 % และสามารถเจริญเติบโตได้ไม้น้ าเฟิร์นต้นสมบูรณ์ มีความสูงต้นเฉลี่ย 6.433+-1.4247 เซนติเมตร ค าส าคัญ : แคลลัส เฟิร์นอัฟริกา
บทคัดย่อ (EN): Plant Regeneration on Bolbitis heudelotii callus. Induce callus from shoot tips of the fern in MS (Murashinge and Skoog, 1962), the addition of growth regulators, two types of BA (N6-Benzyladenine) and NAA (Naphthaleneacetic acid). After studies on growth regulators of increasing callus. Plant regeneration was achieved from calluses and induced roots. Growth Through Study of plant in the house. The results showed that the growth regulators BA and NAA are associated with reactions. (Interaction) between the BA and NAA had shared in the induction of the fern Africa callus are statistically significant (P <0.05) when considering the nature of the morphology of the callus. The Plant then, have been cultured under tissue culture condition for 4 months. The shoot tips ferns has changed to callus 5 charecteristics: (A) Callus with green hair as well and callus undeveloped into the organ, (B) green compect callus, hairy that had developed into a shoots, (C) green compect callus, hairy that had developed into a young leaves, (D) green compect callus, hairy that had developed into a plantlet and (E) green compect callus, hairy that had developed into a plantlet and root. The highest frequency of green callus was observed on Ms media supplemented with BA 2.0 mg NAA 2.0 mg perliter , followed by Ms meaia supplemented with BA 1.5 mg NAA 0.5 mg per liter. The callus that is sticking together tightly (Compact callus) and suitable for the plant regeneration. The best rooting response was observed on Ms media supplemented with BA 0.0 mg per liter with the NAA. 1.0 milligrams per liter. Consequently. The plantlet grew at highest survival rate (78.33 ? 2.887%, 6.433 ? 1.4247 cm) when transferred to greenhouse transplanted. Key words: callus, Bolbitis heudelotii
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมประมง
คำสำคัญ: แคลลัส
คำสำคัญ (EN): callus
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สุจิตรา เพชรคง. "การชักนำต้นอ่อนของเฟิร์นอัฟริกันจากการเลี้ยงแคลลัสPlant Regeneration on Bolbitis heudelotii callus". กรมประมง. 2554

สุจิตรา เพชรคง. "การชักนำต้นอ่อนของเฟิร์นอัฟริกันจากการเลี้ยงแคลลัสPlant Regeneration on Bolbitis heudelotii callus". กรมประมง. 2554. Print.



TARR Wordcloud:
การชักนำต้นอ่อนของเฟิร์นอัฟริกันจากการเลี้ยงแคลลัส
สุจิตรา เพชรคง
กรมประมง
30 กันยายน 2554
กรมประมง
การชักนำให้เกิดแคลลัสและต้นใหม่ของข้าวเจ้าหอมนิล การชักนำให้เกิดแคลลัสในกล้วย การชักนำให้เกิดแคลลัสและยอดจากเอนโดสเปิร์มของเมล็ดอ่อนสบู่ดำ การคัดเลือกแคลลัสอ้อยทนแล้งและการชักนำให้เกิดต้นโดยใช้สาร polyethylene glycol ในสภาพหลอดทดลอง ผลของ Thidiazuron (TDZ) และ 2, 4-Dichlorophenoxyacetec acid (2, 4-D) ต่อการชักนำให้เกิดแคลลัสและยอดของใบอ่อนพุดจีบ (Tabernaemontana divaricate L.) ในสภาพหลอดทดลอง ผลของอาหารและชิ้นส่วนพืชในการชักนำให้เกิดแคลลัสของสบู่ดำ การชักนำให้ฟักข้าวเกิดแคลลัสและผลิตสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ การเพาะเลี้ยงแคลลัสของผักเชียงดาเพื่อการผลิตสารต้านอนุมูลอิสระ การทดลองเลี้ยงหอยสังข์กระโดด Strombus canarium ควบคู่กับการเลี้ยงกุ้งขาววานาไม การประเมินความแปรปรวนของเอ็มบริโอเจนิคแคลลัสปาล์มน้ำมัน ที่เพาะเลี้ยงบนอาหารแข็งและในอาหารเหลวโดยเทคนิค RAPD และ SSR
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair