สืบค้นงานวิจัย
รายงานการวิจัยเรื่องศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้กรณีจังหวัดสุราษฎร์ธานี
วิมล พุ่มใย - มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
ชื่อเรื่อง: รายงานการวิจัยเรื่องศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้กรณีจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: วิมล พุ่มใย
บทคัดย่อ: การวิจัยเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ กรณีศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เพื่อศึกษาสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินงานกลุ่มเกษตรชาวสวนยาง ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานของกลุ่มชาวสวนยาง รวมถึงปัญหาและข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง จำนวน 10 กลุ่ม มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 450 คน โดยวิธีการ โดยวิธีการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาข้อเปรียบเทียบปัจจัยต่าง ๆ ด้วยโปรแกรม SPSS for Window สรุปผลการวิจัยในด้านลักษณะพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพบว่า สมาชิกส่วนใหญ่เป็นเพศชายร้อยละ 88 อายุเฉลี่ย 41.37 ปี มีความสามารถอ่านและเขียนหนังสือได้มากที่สุดร้อยละ 84.89 ส่วนที่ไม่สามารถอ่านหรือเขียนหนังสือได้มีเพียงร้อยละ 4.67 มีระดับการศึกษาประถมศึกษามากที่สุดร้อยละ 44 อาชีพหลักของกลุ่มเกษตรกรจำทพสวนยางพารามากที่สุดร้อยละ 55.12 รองลงมาคือ ทำสวนปาล์มน้ำมันร้อยละ 17.78 ส่วนการเลี้ยงสัตว์มีน้อยที่สุดคือ มีพียงร้อยละ1.11 เป็นสมาชิกกลุ่มอื่น ๆ อีกคือกลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) สำหรับรายได้ของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรที่ศึกษาพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ร้อยละ60 ที่มีรายได้มากกว่า 80,000 บาท มีเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น ที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อปีต่อครัวเรือนทั้งหมดอยู่ที่ 72,408.72 บาท และจากการศึกษารายได้ของครัวเรือนพบว่าสมาชิกร้อยละ 61.56 ที่มีรายได้จากยางพาราอย่างดียวมากกว่า 80,000 บาท โดยเฉลี่ยกลุ่มเกษตรกรจะมีรายได้เฉลี่ยจากยางพาราต่อปีต่อครัวเรือนอยู่ที่ 73,832.56 บาท สมาชิกกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางมีจำนวนที่ดินที่ถือครองต่อครัวเรือนโดยเฉลี่ย 23.64 ไร่และมีจำนวนที่ดินถือครองที่ใช้ทำสวนยางพาราต่อครัวเรือนเฉลี่ย 24.89 ไร่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.89 มีสถานภาพเป็นเจ้าของสวนยางพารา ด้านสถานภาพในกลุ่มของสมาชิกกลุ่มที่ศึกษาพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ร้อยละ 77 .11 มีสถานภาพในกลุ่มเป็นเพียงสมาชิก และมีประสบการณ์เป็นสมาชิกเฉลี่ย 7.62 ปี ทั้งนี้กลุ่มเกษตรกรที่ศึกษาส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาการจัดตั้งกลุ่ม เฉลี่ย 10.87 ปี ส่วนสภาพการดำเนินงานที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพบว่าสภาพการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรสวนยางมีค่เฉลี่ยทั้งหมด คือ 2.82 อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยพบว่าลักษณะการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการดำเนินงานมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ 3.34 รองลงมาคือ ผู้นำและกรรมการกลุ่มมีความสามาารถในการบริหารงานมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.12 บรรยากาศที่ดีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่มมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.08 มีการเปิดรับข้อมูลข่าวสารทั้งภายในและภายนอกกลุ่มอย่างสม่ำเสมอมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.98 การตัดสินใจร่วมกันภายในกลุ่ม มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.68 กลุ่มสามารถต่อรองผลประโยชน์ในด้านการตลาด การผลิตกับภายนอกกลุ่ม มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่2.64 การจัดรูปแบบองค์กรและโครงสร้างกลุ่มอย่างชัดเจนและเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.52 และการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของระฐที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มจะมีค่าฉลี่ยน้อยที่สุด คือ 2.17 จากการศึกษาสภาพการดำเนินงานที่ส่งผลต่อการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางทำให้สามารถจำแนกกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเป็น 3 กลุ่ม 1. กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) ได้แก่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเขาวง กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางบ้านเสด็จ และกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางสินปุน มีค่าเฉลี่ยสภาพการดำเนินงานทั้ง 3 กลุ่มคือ 3.43 อยู่ในเกณฑ์มาก จากการศึกษาลักษณะโดยทั่วไปของกลุ่มประเภทนี้ พบว่ากลุ่มมีผผู้นำกลุ่มและกรรมการกลุ่มที่เข้มแข็ง มีความรู้ และอำนาจต่อรองภายนอกสูง สมาชิกมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นมาก กลุ่มมีความสามารถในการต่อรองโดยส่วนใหญ่สมาชิกจะมอบความไว้วางใจให้กับผู้นำ และกรรกการเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มเกษตรกรระดับนี้มีความเข้มแข็๋งในฐานะทางการเงิน สมาชิกมีความเชื่อมั่นต่อกลุ่มโดยมั่นใจว่ากลุ่มสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเป็นที่พึ่งของตนเองได้ สำหรับโครงสร้างและการจัดองค์กรมีการแบ่งงานอย่างชัดเจน และกลุ่มมีการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างสม่ำเสมอ แต่มีข้อสังเกตประการหนึ่งว่า เจ้าหน้าที่ส่งเสริมส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับกลุ่มระดับนี้มากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ล้มเหลว สำหรับข่าวสารต่าง ๆ พบว่าผู้นำกลุ่มและกรรมการจะกระตือรือร้นและมีบทบาทในการนำข่าวสารให้กลุ่ม และกลุ่มจะมีการแจ้งข่าวสารก็จะให้สมาชิกทราบ นอกจากนี้พบว่าการบริหารงานกลุ่มเป็นลักษณะกระจายอำนาจ 2. กลุ่มเกาตรกรชาวสวนยางระดับปานกลาง (พอใช้) ได้แก่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเคียนซา กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางไทรโสภา และกลุ่มเกาตรกรชาวสวนยางบางสวรรค์ มีค่าเฉลี่ยของสภาพการดำเนินงานทั้ง 3 กลุ่มอยู่ที่ 2.92 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง จากการศึกษาลักษณะทั่วไปของกลุ่มประเภทนี้พบว่า ผู้นำและกรรมการกลุ่มมีความเข้มแข็งเช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) แต่ความสามารถในการต่อรองกับภายนอกกลุ่มด้อยกว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) สมาชิกมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นมาก ความเชื่อมั่นของสมาชิกที่มีต่อผู้นำกลุ่มมีพอสมควร สมาชิกบางส่วนยังไม่ค่อยไว้วางใจผู้นำและกรรมการกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามสมาชิกส่วนใหญ่ยังมีความมั่นใจว่ากลุ่มสามารถแก้ไขปัญหาให้ตนเองได้ กลุ่มมีการจัดโครงสร้างและองค์กรดี แต่มีการกำหนดบทบาทและหน้าที่ของสมาชิกยังไม่ชัดเจนเท่ากับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง การติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่มีไม่บ่อยนัก และกลุ่มยังต้องการที่ปรึกษา คอยให้คำแนะนำการดำเนินงานของกลุ่ม 3. กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับต่ำ (ปรับปรุง) ได้แก่ พบว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางท่าเรือ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางควรศรี ซึ่งค่าเฉลี่ยรวมของสภาพการดำเนินงาน ทั้ง 4 กลุ่มอยู่ในระดับต่ำ คือ 2.34 อยู่ในเกณฑ์น้อย ซึ่งจากการศึกษาลักษณะโดยทั่วไปของกลุ่มประเภทนี้พบว่าการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการบริหารและการตัดสินใจมีน้อยมาก สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ทราบวัตถุประสงค์การดำเนินงานของกลุ่ม กลุ่มมีการประชุมชี้แจงการดำเนินงานน้อยมาก บางกลุ่มสมาชิกไม่มั่นใจในตัวผู้บริหารและกรรมการกลุ่ม จากการศึกษาลักษณะผู้นำและกรรมการกลุ่มประเภทนี้พบว่า การบริหารงานยังไม่เป็นระบบ ขาดความโปร่งใส และไม่มีความจริงใจ ความกระตือรือร้นไม่ค่อยมี และไม่มีความรู้ในด้านการจัดการเรื่องการเงินทำให้กลุ่มประเภทนี้มีหนี้สินมากและไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบได้ ความเชื่อมั่นและความคาดหวังของสมาชิกต่อกลุ่มมีน้อยมากและอยู่ในสภาพหมดหวัง ทัศนคติของสมาชิกที่มีต่อการดำเนินงานกลุ่มไม่ดีและยังพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ต้องการให้มีกลุ่มใหม่เกิดขึ้นและต้องการให้ทางหน่วยงานให้มั่นใจและช่วยเหลืออย่างจริงจังกว่าเก่า อย่างไรก็ตามรัฐต้องช่วยแก้ปัญหาเก่า ๆ ของกลุ่มด้วย เมื่อทำการเปรียบเทียบภาพรวมของสภาพการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานแต่ละระดับ พบว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) มีสภาพการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์มาก กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับปานกลาง (พอใช้)มีสภาพการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับต่ำ (ปรับปรุง)มีสภาพการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์น้อย นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) มีการออมเงิน การทำกิจกรรมกลุ่ม ผลผลิตรวมต่อปีของกลุ่ม และรายได้ของกลุ่มสุงกว่ากลุ่มเกษตรกรระดับปานกลาง (พอใช้) และเช่นเดียวกันกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับปานกลาง (พอใช้) มีเงินออม การทำกิจกรรมกลุ่ม ผลผลิตต่อปีของกลุ่ม และรายได้ต่อปีของกลุ่มสูงกว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับต่ำ (ปรับปรุง) ส่วนปัญหาการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่พบมากที่สุดของกลุ่ม คือ ปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนทุนหมุนเวียนและหนี้สินคิดเป็นร้อยละ 20.12 รองลงมา คือ ปัญหาการขาดผู้นำกลุ่มที่ดีมีความสามารถร้อยละ 14.47 ส่วนปัญหาที่พบน้อยที่สุด คือ ปัญหาในการติดต่อสื่อสารกันภายในกลุ่มไม่ชัดเจน มีเพียงร้อยละ 1.94 ข้อเสนอแนะของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางมีมากที่สุด คือ ต้องการให้รัฐมีนโยบายช่วยเหลือเรื่องเงินทุน ระบบสินเชื่อและอุปกรณ์ในการดำเนินงานอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 19.73 รองลงมาคือ ต้องการให้มีการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกในกลุ่มให้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=15&RecId=8&obj_id=9
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
คำสำคัญ: สวนยาง
คำสำคัญ (EN): 633.89
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
รายละเอียด: การวิจัยเรื่องปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ กรณีศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ เพื่อศึกษาสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม และการดำเนินงานกลุ่มเกษตรชาวสวนยาง ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานของกลุ่มชาวสวนยาง รวมถึงปัญหาและข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง จำนวน 10 กลุ่ม มีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 450 คน โดยวิธีการ โดยวิธีการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาข้อเปรียบเทียบปัจจัยต่าง ๆ ด้วยโปรแกรม SPSS for Window สรุปผลการวิจัยในด้านลักษณะพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคมของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพบว่า สมาชิกส่วนใหญ่เป็นเพศชายร้อยละ 88 อายุเฉลี่ย 41.37 ปี มีความสามารถอ่านและเขียนหนังสือได้มากที่สุดร้อยละ 84.89 ส่วนที่ไม่สามารถอ่านหรือเขียนหนังสือได้มีเพียงร้อยละ 4.67 มีระดับการศึกษาประถมศึกษามากที่สุดร้อยละ 44 อาชีพหลักของกลุ่มเกษตรกรจำทพสวนยางพารามากที่สุดร้อยละ 55.12 รองลงมาคือ ทำสวนปาล์มน้ำมันร้อยละ 17.78 ส่วนการเลี้ยงสัตว์มีน้อยที่สุดคือ มีพียงร้อยละ1.11 เป็นสมาชิกกลุ่มอื่น ๆ อีกคือกลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) สำหรับรายได้ของสมาชิกกลุ่มเกษตรกรที่ศึกษาพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ร้อยละ60 ที่มีรายได้มากกว่า 80,000 บาท มีเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น ที่มีรายได้ต่ำกว่า 20,000 บาท ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อปีต่อครัวเรือนทั้งหมดอยู่ที่ 72,408.72 บาท และจากการศึกษารายได้ของครัวเรือนพบว่าสมาชิกร้อยละ 61.56 ที่มีรายได้จากยางพาราอย่างดียวมากกว่า 80,000 บาท โดยเฉลี่ยกลุ่มเกษตรกรจะมีรายได้เฉลี่ยจากยางพาราต่อปีต่อครัวเรือนอยู่ที่ 73,832.56 บาท สมาชิกกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางมีจำนวนที่ดินที่ถือครองต่อครัวเรือนโดยเฉลี่ย 23.64 ไร่และมีจำนวนที่ดินถือครองที่ใช้ทำสวนยางพาราต่อครัวเรือนเฉลี่ย 24.89 ไร่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.89 มีสถานภาพเป็นเจ้าของสวนยางพารา ด้านสถานภาพในกลุ่มของสมาชิกกลุ่มที่ศึกษาพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ร้อยละ 77 .11 มีสถานภาพในกลุ่มเป็นเพียงสมาชิก และมีประสบการณ์เป็นสมาชิกเฉลี่ย 7.62 ปี ทั้งนี้กลุ่มเกษตรกรที่ศึกษาส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาการจัดตั้งกลุ่ม เฉลี่ย 10.87 ปี ส่วนสภาพการดำเนินงานที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพบว่าสภาพการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรสวนยางมีค่เฉลี่ยทั้งหมด คือ 2.82 อยู่ในเกณฑ์ปานกลาง โดยพบว่าลักษณะการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการดำเนินงานมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ 3.34 รองลงมาคือ ผู้นำและกรรมการกลุ่มมีความสามาารถในการบริหารงานมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.12 บรรยากาศที่ดีระหว่างสมาชิกภายในกลุ่มมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.08 มีการเปิดรับข้อมูลข่าวสารทั้งภายในและภายนอกกลุ่มอย่างสม่ำเสมอมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.98 การตัดสินใจร่วมกันภายในกลุ่ม มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.68 กลุ่มสามารถต่อรองผลประโยชน์ในด้านการตลาด การผลิตกับภายนอกกลุ่ม มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่2.64 การจัดรูปแบบองค์กรและโครงสร้างกลุ่มอย่างชัดเจนและเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.52 และการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของระฐที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มจะมีค่าฉลี่ยน้อยที่สุด คือ 2.17 จากการศึกษาสภาพการดำเนินงานที่ส่งผลต่อการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางทำให้สามารถจำแนกกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเป็น 3 กลุ่ม 1. กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) ได้แก่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเขาวง กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางบ้านเสด็จ และกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางสินปุน มีค่าเฉลี่ยสภาพการดำเนินงานทั้ง 3 กลุ่มคือ 3.43 อยู่ในเกณฑ์มาก จากการศึกษาลักษณะโดยทั่วไปของกลุ่มประเภทนี้ พบว่ากลุ่มมีผผู้นำกลุ่มและกรรมการกลุ่มที่เข้มแข็ง มีความรู้ และอำนาจต่อรองภายนอกสูง สมาชิกมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นมาก กลุ่มมีความสามารถในการต่อรองโดยส่วนใหญ่สมาชิกจะมอบความไว้วางใจให้กับผู้นำ และกรรกการเป็นส่วนใหญ่ กลุ่มเกษตรกรระดับนี้มีความเข้มแข็๋งในฐานะทางการเงิน สมาชิกมีความเชื่อมั่นต่อกลุ่มโดยมั่นใจว่ากลุ่มสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และเป็นที่พึ่งของตนเองได้ สำหรับโครงสร้างและการจัดองค์กรมีการแบ่งงานอย่างชัดเจน และกลุ่มมีการติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างสม่ำเสมอ แต่มีข้อสังเกตประการหนึ่งว่า เจ้าหน้าที่ส่งเสริมส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับกลุ่มระดับนี้มากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ล้มเหลว สำหรับข่าวสารต่าง ๆ พบว่าผู้นำกลุ่มและกรรมการจะกระตือรือร้นและมีบทบาทในการนำข่าวสารให้กลุ่ม และกลุ่มจะมีการแจ้งข่าวสารก็จะให้สมาชิกทราบ นอกจากนี้พบว่าการบริหารงานกลุ่มเป็นลักษณะกระจายอำนาจ 2. กลุ่มเกาตรกรชาวสวนยางระดับปานกลาง (พอใช้) ได้แก่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางเคียนซา กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางไทรโสภา และกลุ่มเกาตรกรชาวสวนยางบางสวรรค์ มีค่าเฉลี่ยของสภาพการดำเนินงานทั้ง 3 กลุ่มอยู่ที่ 2.92 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง จากการศึกษาลักษณะทั่วไปของกลุ่มประเภทนี้พบว่า ผู้นำและกรรมการกลุ่มมีความเข้มแข็งเช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) แต่ความสามารถในการต่อรองกับภายนอกกลุ่มด้อยกว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) สมาชิกมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นมาก ความเชื่อมั่นของสมาชิกที่มีต่อผู้นำกลุ่มมีพอสมควร สมาชิกบางส่วนยังไม่ค่อยไว้วางใจผู้นำและกรรมการกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามสมาชิกส่วนใหญ่ยังมีความมั่นใจว่ากลุ่มสามารถแก้ไขปัญหาให้ตนเองได้ กลุ่มมีการจัดโครงสร้างและองค์กรดี แต่มีการกำหนดบทบาทและหน้าที่ของสมาชิกยังไม่ชัดเจนเท่ากับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง การติดต่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่มีไม่บ่อยนัก และกลุ่มยังต้องการที่ปรึกษา คอยให้คำแนะนำการดำเนินงานของกลุ่ม 3. กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับต่ำ (ปรับปรุง) ได้แก่ พบว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางท่าเรือ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางควรศรี ซึ่งค่าเฉลี่ยรวมของสภาพการดำเนินงาน ทั้ง 4 กลุ่มอยู่ในระดับต่ำ คือ 2.34 อยู่ในเกณฑ์น้อย ซึ่งจากการศึกษาลักษณะโดยทั่วไปของกลุ่มประเภทนี้พบว่าการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการบริหารและการตัดสินใจมีน้อยมาก สมาชิกส่วนใหญ่ไม่ทราบวัตถุประสงค์การดำเนินงานของกลุ่ม กลุ่มมีการประชุมชี้แจงการดำเนินงานน้อยมาก บางกลุ่มสมาชิกไม่มั่นใจในตัวผู้บริหารและกรรมการกลุ่ม จากการศึกษาลักษณะผู้นำและกรรมการกลุ่มประเภทนี้พบว่า การบริหารงานยังไม่เป็นระบบ ขาดความโปร่งใส และไม่มีความจริงใจ ความกระตือรือร้นไม่ค่อยมี และไม่มีความรู้ในด้านการจัดการเรื่องการเงินทำให้กลุ่มประเภทนี้มีหนี้สินมากและไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบได้ ความเชื่อมั่นและความคาดหวังของสมาชิกต่อกลุ่มมีน้อยมากและอยู่ในสภาพหมดหวัง ทัศนคติของสมาชิกที่มีต่อการดำเนินงานกลุ่มไม่ดีและยังพบว่าสมาชิกส่วนใหญ่ต้องการให้มีกลุ่มใหม่เกิดขึ้นและต้องการให้ทางหน่วยงานให้มั่นใจและช่วยเหลืออย่างจริงจังกว่าเก่า อย่างไรก็ตามรัฐต้องช่วยแก้ปัญหาเก่า ๆ ของกลุ่มด้วย เมื่อทำการเปรียบเทียบภาพรวมของสภาพการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานแต่ละระดับ พบว่า กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) มีสภาพการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์มาก กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับปานกลาง (พอใช้)มีสภาพการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ในขณะที่กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับต่ำ (ปรับปรุง)มีสภาพการดำเนินงานอยู่ในเกณฑ์น้อย นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับสูง (ดี) มีการออมเงิน การทำกิจกรรมกลุ่ม ผลผลิตรวมต่อปีของกลุ่ม และรายได้ของกลุ่มสุงกว่ากลุ่มเกษตรกรระดับปานกลาง (พอใช้) และเช่นเดียวกันกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับปานกลาง (พอใช้) มีเงินออม การทำกิจกรรมกลุ่ม ผลผลิตต่อปีของกลุ่ม และรายได้ต่อปีของกลุ่มสูงกว่ากลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางระดับต่ำ (ปรับปรุง) ส่วนปัญหาการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่พบมากที่สุดของกลุ่ม คือ ปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนทุนหมุนเวียนและหนี้สินคิดเป็นร้อยละ 20.12 รองลงมา คือ ปัญหาการขาดผู้นำกลุ่มที่ดีมีความสามารถร้อยละ 14.47 ส่วนปัญหาที่พบน้อยที่สุด คือ ปัญหาในการติดต่อสื่อสารกันภายในกลุ่มไม่ชัดเจน มีเพียงร้อยละ 1.94 ข้อเสนอแนะของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางมีมากที่สุด คือ ต้องการให้รัฐมีนโยบายช่วยเหลือเรื่องเงินทุน ระบบสินเชื่อและอุปกรณ์ในการดำเนินงานอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 19.73 รองลงมาคือ ต้องการให้มีการประสานการทำงานร่วมกันระหว่างสมาชิกในกลุ่มให้
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานการวิจัยเรื่องศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จในการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้กรณีจังหวัดสุราษฎร์ธานี
วิมล พุ่มใย
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
17 กรกฎาคม 2548
การศึกษาระบบโลจิสติกส์ยางพารา กรณีศึกษากลุ่มสมาชิกสหกรณ์ กองทุนสวนยางบ้านอ่างคีรีจำกัด ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี รายงานการวิจัยเรื่อง ผลกระทบทางเศรษฐกิจของการขายที่ดิน ต่อเกษตรกรเจ้าของที่ดิน : กรณีศึกษา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ งานวิจัยเรื่อง พลังงานในมะขามหวานพันธุ์ต่าง ๆ รายงานการวิจัยเรื่องการพยากรณ์พื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตของยางพาราในเขตพื้นที่ภาคเหนือ งานวิจัยเรื่อง การศึกษาการผลิตโยเกิร์ตพร้อมดื่มรสมะขามหวาน งานวิจัยเรื่อง ชุดทดสอบหาสารปราบศัตรูพืชที่ตกค้างในผัก รายงายวิจัยการเลี้ยงหอยนางรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานี รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสูตรอาหารที่เหมาะสมต่อการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ฟีโลเดนดรอนมูนไลท์ รายงานการวิจัยเรื่อง การวัดประสิทธิภาพการเจริญเติบโตของลูกปลาดุกวัยอ่อนต่อระดับโปรตีนในอาหารที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาลในจังหวัดเพชรบูรณ์ รายงายผลการวิจัยฉบับสมบูรณ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เค็มไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก