สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาระดับและปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อระดับอิมมูโนกลอบูลินจีในลูกโคนมที่เลี้ยงในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทย
ธีระ รักความสุข - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การศึกษาระดับและปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อระดับอิมมูโนกลอบูลินจีในลูกโคนมที่เลี้ยงในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทย
ชื่อเรื่อง (EN): A Study on Risk Factors Associated with Immunoglobulin G Level in Calves Raised in Small Holder Farms in Thailand
บทคัดย่อ: จุดประสงค์ของการศึกษาเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อระดับภูมิคุ้มกันของลูกโคนมที่เลี้ยงในฟาร์มเกษตรกรรายย่อย ตัวอย่างถูกสุ่มเก็บจากฟาร์มที่อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนองโพและกำแพงแสน จำนวน 35 ฟาร์ม ตัวอย่างนมน้ำเหลืองและเลือดจากแม่โคจำนวน 80 ตัวและเลือดจากลูกโคจำนวน 80 ตัวถูกเก็บเพื่อใช้ในการวิเคราะห์หาค่าซีรัมโปรตีนและระดับภูมิคุ้มกันในลูกโค แบบสอบถามสำหรับสอบถามเรื่องปัจจัยเสี่ยง ผลการศึกษาพบว่าระดับภูมิคุ้มกันและระดับซีรัมโปรตีนในเลือดมีค่าใกล้เคียง ลูกโคนมแรกเกิดจะอยู่ในภาวะที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ระดับภูมิคุ้มกันและระดับซีรัมในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ลูกโคได้รับนมน้ำเหลืองและสูงสุดในวันที่ 2 และจะลดลงในวันที่ 7 และ 14 ตามลำดับ ปริมาณภูมิคุ้มกันในนมน้ำเหลืองของแม่ในช่วงวันคลอด หนึ่งวันหลังคลอด และสองวันหลังคลอดจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เท่ากับ 93.85?3.72, 37.11?2.58 และ 17.23?1.03 มก./มล. ตามลำดับ (P<0.01) ปริมาณภูมิคุ้มกันและภูมิคุ้มกันชนิดจีจะมีรูปแบบเหมือนกัน สูงสุดในวันคลอดและลดลงอย่างรวดเร็ว ระดับต่ำในวันที่ 7 และ 14 หลังคลอด ซึ่งระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงตามระยะเวลาของการรีดนม ลูกโคนมที่ได้รับนมน้ำเหลืองที่มีคุณภาพดีจะมีระดับซีรัมโปรตีนในเลือดสูง (7.49?0.13 ก/ดล) และแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับลูกโคนมที่ได้รับนมน้ำเหลืองคุณภาพต่ำ (6.4?0.22ก/ดล) การเพิ่มขึ้นของซีรัมโปรตีนในลูกโคที่ได้รับนมน้ำเหลืองคุณภาพดีจะเท่ากับ 1.55?0.13 ก/ดล เมื่อเทียบกับนมน้ำเหลืองคุณภาพต่ำ (0.81?0.18 ก/ดล (P<0.0002). ในการศึกษานี้พบว่าช่วงเวลาของการได้รับนมน้ำเหลืองเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ โดยลูกโคที่ได้รับนมน้ำเหลืองภายหลังจาก 6 ชั่วโมงหลังคลอดจะมีระดับภูมิคุ้มกันที่ต่ำ 4.4 เท่าเมื่อเทียบกับลูกโคนมที่ได้รับนมน้ำเหลืองภายในเวลา 6 ชั่วโมงหลังคลอด ดังนั้นการจัดการลูกโคนม โดยการให้นมน้ำเหลืองกับลูกโคให้เร็วที่สุดหลังคลอดเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ จุดประสงค์ของการศึกษาเพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อระดับภูมิคุ้มกันของลูกโคนมที่เลี้ยงในฟาร์มเกษตรกรรายย่อย ตัวอย่างถูกสุ่มเก็บจากฟาร์มที่อยู่ในการดูแลของโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หนองโพและกำแพงแสน จำนวน 35 ฟาร์ม ตัวอย่างนมน้ำเหลืองและเลือดจากแม่โคจำนวน 80 ตัวและเลือดจากลูกโคจำนวน 80 ตัวถูกเก็บเพื่อใช้ในการวิเคราะห์หาค่าซีรัมโปรตีนและระดับภูมิคุ้มกันในลูกโค แบบสอบถามสำหรับสอบถามเรื่องปัจจัยเสี่ยง ผลการศึกษาพบว่าระดับภูมิคุ้มกันและระดับซีรัมโปรตีนในเลือดมีค่าใกล้เคียง ลูกโคนมแรกเกิดจะอยู่ในภาวะที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ระดับภูมิคุ้มกันและระดับซีรัมในเลือดจะเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ลูกโคได้รับนมน้ำเหลืองและสูงสุดในวันที่ 2 และจะลดลงในวันที่ 7 และ 14 ตามลำดับ ปริมาณภูมิคุ้มกันในนมน้ำเหลืองของแม่ในช่วงวันคลอด หนึ่งวันหลังคลอด และสองวันหลังคลอดจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เท่ากับ 93.85?3.72, 37.11?2.58 และ 17.23?1.03 มก./มล. ตามลำดับ (P<0.01) ปริมาณภูมิคุ้มกันและภูมิคุ้มกันชนิดจีจะมีรูปแบบเหมือนกัน สูงสุดในวันคลอดและลดลงอย่างรวดเร็ว ระดับต่ำในวันที่ 7 และ 14 หลังคลอด ซึ่งระดับภูมิคุ้มกันจะลดลงตามระยะเวลาของการรีดนม ลูกโคนมที่ได้รับนมน้ำเหลืองที่มีคุณภาพดีจะมีระดับซีรัมโปรตีนในเลือดสูง (7.49?0.13 ก/ดล) และแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับลูกโคนมที่ได้รับนมน้ำเหลืองคุณภาพต่ำ (6.4?0.22ก/ดล) การเพิ่มขึ้นของซีรัมโปรตีนในลูกโคที่ได้รับนมน้ำเหลืองคุณภาพดีจะเท่ากับ 1.55?0.13 ก/ดล เมื่อเทียบกับนมน้ำเหลืองคุณภาพต่ำ (0.81?0.18 ก/ดล (P<0.0002). ในการศึกษานี้พบว่าช่วงเวลาของการได้รับนมน้ำเหลืองเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ โดยลูกโคที่ได้รับนมน้ำเหลืองภายหลังจาก 6 ชั่วโมงหลังคลอดจะมีระดับภูมิคุ้มกันที่ต่ำ 4.4 เท่าเมื่อเทียบกับลูกโคนมที่ได้รับนมน้ำเหลืองภายในเวลา 6 ชั่วโมงหลังคลอด ดังนั้นการจัดการลูกโคนม โดยการให้นมน้ำเหลืองกับลูกโคให้เร็วที่สุดหลังคลอดเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ
บทคัดย่อ (EN): The Objective of this study was to determine factors affecting immunoglobulin G levels in dairy calves raised in small holder farms in Thailand. Samples were randomly selected from visited farms by Kasetsart University Veterinary Teaching Hospital at Kamphaengsaen and Nongpho Animal Hospital, in total 35 farms contributed 80 dams and 80 calve’s samples. Samples, colostrum and blood, were taken from 80 dairy cows and 80 blood samples from their calves that used evaluate serum protein and immunoglobulin G (IgG) levels of calves. Questionaires were used to evaluate affecting factors that associated calve’s IgG levels. This study found IgG and serum protein levels of calves were similar result. Calves at birth were hypoimmunoglobulinemia. IgG and serum protein levels were increased after calves received colostrum, maximum levels in second day after calving. Serum protein and IgG levels were decreased in seventh and fourteenth day after calving. Total immunoglobulin of colostrum from calving date, 1 and 2 days after calving was 93.85?3.72, 37.11?2.58 and 17.23?1.03 mg/ml, respectively (P<0.01). Total Ig and IgG levels in colostrum were similar pattern, maximum levels in calving day and rapidly decreased. Low level of total Ig and IgG were in seventh and fourteenth day after calving. Total immunoglobulin was decreased by milking times. The calves that fed high quality colostrum had higher serum protein, 7.49?0.13 g/dl, than calves fed low quality colostrums, 6.4?0.22 g/dl (p<0.01). Increased serum protein after first colostrum feeding of high and low quality colostrum was 1.55?0.13 g/dl and 0.81?0.18 g/dl (P<0.0002). In this study on final model found that time to consume colostrums after birth was affected significantly IgG level’s one-day calves. Calves that received colostrums delay to 6 hours after birth were more likely to 4.4 times to low IgG level in one day age compare to calves that received colostrums early 6 hours after birth. So, neonatal calves management should emphasize on consumption of colostrums during the period shortly after birth.The Objective of this study was to determine factors affecting immunoglobulin G levels in dairy calves raised in small holder farms in Thailand. Samples were randomly selected from visited farms by Kasetsart University Veterinary Teaching Hospital at Kamphaengsaen and Nongpho Animal Hospital, in total 35 farms contributed 80 dams and 80 calve’s samples. Samples, colostrum and blood, were taken from 80 dairy cows and 80 blood samples from their calves that used evaluate serum protein and immunoglobulin G (IgG) levels of calves. Questionaires were used to evaluate affecting factors that associated calve’s IgG levels. This study found IgG and serum protein levels of calves were similar result. Calves at birth were hypoimmunoglobulinemia. IgG and serum protein levels were increased after calves received colostrum, maximum levels in second day after calving. Serum protein and IgG levels were decreased in seventh and fourteenth day after calving. Total immunoglobulin of colostrum from calving date, 1 and 2 days after calving was 93.85?3.72, 37.11?2.58 and 17.23?1.03 mg/ml, respectively (P<0.01). Total Ig and IgG levels in colostrum were similar pattern, maximum levels in calving day and rapidly decreased. Low level of total Ig and IgG were in seventh and fourteenth day after calving. Total immunoglobulin was decreased by milking times. The calves that fed high quality colostrum had higher serum protein, 7.49?0.13 g/dl, than calves fed low quality colostrums, 6.4?0.22 g/dl (p<0.01). Increased serum protein after first colostrum feeding of high and low quality colostrum was 1.55?0.13 g/dl and 0.81?0.18 g/dl (P<0.0002). In this study on final model found that time to consume colostrums after birth was affected significantly IgG level’s one-day calves. Calves that received colostrums delay to 6 hours after birth were more likely to 4.4 times to low IgG level in one day age compare to calves that received colostrums early 6 hours after birth. So, neonatal calves management should emphasize on consumption of colostrums during the period shortly after birth.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: อิมมูโนกลอบูลินจี
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาระดับและปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อระดับอิมมูโนกลอบูลินจีในลูกโคนมที่เลี้ยงในฟาร์มเกษตรกรรายย่อยในประเทศไทย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2554
การศึกษาการเลี้ยงดูลูกโคนมอย่างดีต่อผลผลิตน้ำนมเมื่อเป็นแม่โคนมท้องแรกในฟาร์มเกษตรกร ปัจจัยที่มีอิทธิพลและความเป็นไปได้ในการคัดเลือกพันธุ์เพื่อลดจำนวนเซลล์โซมาติกในน้ำนมของโคนมที่เลี้ยงดูในภาคกลางของประเทศไทย ความชุกทางซีรัมวิทยาและปัจจัยเสี่ยงของโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคนในแพะและแกะในภาคตะวันตกของประเทศไทย การวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพการเลี้ยงลูกโคนมเพื่อใช้เป็นโคสาวทดแทน การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของโรค Trypanosomiasis ที่ทำให้เกิดอาการ แท้งในโคนมในเขตภาคกลาง ของประเทศไทย การศึกษาความชุกและปัจจัยเสี่ยงของปัญหาขาเจ็บในโคนมในเขตภาคตะวันตก ผลการใช้น้ำนมสดและน้ำนมเทียมเลี้ยงลูกโคนมเพศผู้เพื่อผลิตเนื้อลูกโควัยอ่อน ความชุกทางซีรัมวิทยาและปัจจัยเสี่ยงการติดเชื้อ Brucella melitensis และ caprine arthritis encephalitis virus ในแพะภาคตะวันตกของประเทศไทย การทดสอบเทคโนโลยีการเลี้ยงลูกโคนมเพศผู้ในสภาพขังคอกในพื้นที่จังหวัดสกลนคร การเพิ่มอัตราส่วนลูกโคนมเพศเมียและการแก้ไขปัญหาการผสม ไม่ติดในโคนมของสมาชิกสหกรณ์ โคนมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก