สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาคุณสมบัติด้านกำลังรับแรง ความซึมน้ำและ CBR. ของดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ และการนำดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ไปใช้ในงานก่อสร้างถนนของโครงการชลประทาน
นางอรสา วงศ์คำ - กรมชลประทาน
ชื่อเรื่อง: การศึกษาคุณสมบัติด้านกำลังรับแรง ความซึมน้ำและ CBR. ของดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ และการนำดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ไปใช้ในงานก่อสร้างถนนของโครงการชลประทาน
ชื่อเรื่อง (EN): A Study on mechanical properties in strength, permeability and CBR of lateritic soil with cement and utilization of these material in road construction of Irrigation porject
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นางอรสา วงศ์คำ
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Mrs.Aurasa Wongkam
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะนำดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ไปใช้แทนหินคลุกในงานก่อสร้างถนน เพื่อเปรียบเทียบคุณสมบัติด้าน C.B.R. คุณสมบัติทางด้านกำลังรับแรงเฉือนแบบแรงอัดแกนเดียว และ คุณสมบัติด้านการซึมน้ำ ระหว่างดินลูกรังเดิมกับดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ เพื่อศึกษาหาปริมาณปูนซีเมนต์ที่จะนำมาผสมกับดินลูกรังไปใช้แทนหินคลุกในงานด้านการก่อสร้างถนน ผลการศึกษาพบว่า การรับแรงต้านทานแบบ C.B.R. และ กำลังรับแรงเฉือนแบบแรงอัดแกนเดียวมีเพิ่มขึ้นตามปริมาณปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้นแบบแปรผันตรง ส่วนคุณสมบัติด้านการซึมน้ำ จะลด ลงตามปริมาณปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้นแบบแปรผกผัน และการเลือกใช้ดินลูกรังที่ขนาดโตสุดมีขนาดใหญ่จะทำให้ค่า C.B.R. สูงกว่า เมื่อพิจารณาเกณฑ์กำหนดค่า C.B.R. ของชั้นพื้นทางหรือหินคลุกตามมาตรฐานของกรมทางหลวงที่กำหนดค่า C.B.R. มีค่าไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ไว้ ถ้าจะทำปูนซีเมนต์ผสมดินลูกรังเมื่อใช้แทนหินคลุกตามมาตรฐานดังกล่าว ปริมาณปูนซีเมนต์ที่เหมาะสมกับดินลูกรังจากแหล่ง จ.กาญจนบุรี และ จ.ชลบุรี สามารถใช้ได้ตั้งแต่ร้อยละ 2 ขึ้นไปเพื่อความปลอดภัยต่อโครงสร้างถนน ดินร่วนที่นำมาทำการศึกษาในงานวิจัยนี้ ได้เลือกศึกษาจากแหล่งดิน 2 แหล่งคือ สำนักงานชลประทานที่ 5 โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยอีจ้อ จ. อุดรธานี และ สำนักงานชลประทานที่ 1 โครงการอ่างเก็บน้ำห้วยบ่อคี จ. แม่ฮ่องสอน จากการทดสอบหาขนาดคละของดิน และทดสอบคุณสมบัติด้านความเหนียวในห้องทดสอบ พบว่าดินร่วนจากทั้ง 2 แหล่ง เป็นดินทรายปนตะกอนทราย ซึ่งดินร่วนมีคุณสมบัติที่สำคัญ คือจัดเป็นดินที่ไม่มีความเหนียว มีค่าความซึมน้ำผันแปรไปตามสภาพความหนาแน่น กล่าวคือถ้าอยู่ในสภาพหลวม จะมีค่าความซึมน้ำสูง แต่เมื่ออยู่ในสภาพแน่นก็จะมีความซึมน้ำต่ำลงได้ แต่ดินร่วนในสภาพธรรมชาติ จะถูกกัดเซาะได้ง่ายเพราะไม่มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างเม็ดดิน และมีกำลังต้านทานแรงเฉือนขึ้นอยู่กับมุมของแรงเสียดทานภายในเป็นหลัก เมื่อผสมเบนโทไนท์ซึ่งเป็นดินเม็ดละเอียดที่มีความเหนียวสูงลงไปตั้งแต่ปริมาณร้อยละ 2 , 4 , 6 จนถึง 8 จะทำให้คุณสมบัติของดินร่วนเกิดการเปลี่ยนแปลงดังนี้คือ ดินร่วนเริ่มมีความเหนียวเพิ่มมากขึ้นแต่มีค่าความซึมน้ำต่ำลง และบทบาทของหน่วยแรงยึดเหนี่ยวค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในขณะที่มุมของแรงเสียดทานภายในเริ่มลดลงสำหรับค่ากำลังต้านทานแรงเฉือนของดินร่วนผสมเบนโทไนท์ เมื่อพิจารณาคุณสมบัติในการเก็บกักน้ำ ของดินร่วนผสมเบนโทไนท์ในปริมาณต่าง ๆ พบว่าเมื่อปริมาณเบนโทไนท์ เท่ากับ 4% เป็นปริมาณที่เหมาะสมในการที่จะเปลี่ยนแปลงดินร่วนให้เกิดมีหน่วยแรงยึดเหนี่ยวขึ้นระหว่างเม็ดดิน และมีค่าความซึมน้ำต่ำกว่า 10-6 เซนติเมตร/วินาที จนสามารถใช้เป็นดินที่เก็บกักน้ำได้
บทคัดย่อ (EN): A study is to analyze a possibility to apply lateritic soil with cement instead of using crushed aggregate in a road construction process. Besides, the article is to compare CBR Qualification, Unconfined Compressive Strength Qualification and Permeability Qualification between lateritic soil with cement in order to explore cement’s quantity which will be mixed with lateritic soil as a replacement for crushed aggregate in a road construction process. The study has found that the increase of C.B.R. resistance and Unconfine Compressive Strength relates to the increasing of cement’s quantity as direct variation. As for Permeability also decreases which depends on the increasing of cement’s quantity as inverse variation. Furthermore, the C.B.R. value is higher when the biggest size of lateritic soil is chosen. When concerning C.B.R. value of base layer or crushed aggregate according to Department of Highways Standard specifies C.B.R. value must not less than 80%. According to the standard, when applying lateritic soil with cement in place of crushed aggregate, appropriate cement’s quantity and origins of lateritic soil from Karnchanaburi and Chonburi will be able to be used more than 2% for the road construction safety. Lome Soil for this study is come from borrow of Udornthanee and Maehongsorn province. Experiment in laboratory of gradation and plasticity show that lome soil from these source are silty sand which have important properties are non – plastic material and permeability vary from density condition which high value when being in loose state and low value when being in dense state. The nature of loam soil is easy for erosion because of it doesn’t have cohesion and strength is come from angle of internal friction. For bentonite which has fine grain and high plasticity is blended with loam soil from quantity of 2% , 4% , 6% to 8% and so finally it can increase a plasticity of soil but decrease a permeability in the same time and strength parameter is increased in cohesion but decreased in internal friction. A quantity of bentonite equal to 4% blended with loam soil have a permeability lower than 10-6 centimeter per second , which is an appropriate quantity to change loam soil properties for impervious material.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: https://drive.google.com/file/d/1YrEjP2hrAuizCvtSeoeRjxoW52-mGmaf/view?usp=share_link
เผยแพร่โดย: กรมชลประทาน
คำสำคัญ: กำลังของดิน
คำสำคัญ (EN): Strength of soil
หมวดหมู่: อื่นๆ
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
รายละเอียด: Submitted by migration@tarr.arda.or.th (migration@tarr.arda.or.th) on 2017-08-21T05:40:38Z No. of bitstreams: 0
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาคุณสมบัติด้านกำลังรับแรง ความซึมน้ำและ CBR. ของดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ และการนำดินลูกรังผสมปูนซีเมนต์ไปใช้ในงานก่อสร้างถนนของโครงการชลประทาน
กรมชลประทาน
2551
กรมชลประทาน
ความสัมพันธ์ระหว่างดิน น้ำ และพืช การทดสอบคุณสมบัติดินลูกรังธรรมดา การศึกษาถนนดินซีเมนต์ผสมยางพารา การปรับปรุงคุณภาพดินลูกรังด้วยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ประเภท 1 เถ้าปาล์มน้ำมันและเส้นใยปาล์มน้ำมัน เพื่อใช้เป็นผนังดินแบบบดอัด การศึกษากำอัดของดินลูกรังในจังหวัดศรีสะเกษเพื่อนำมาใช้เป็นวัสดุชั้นรองพื้นทางในการก่อสร้างถนน คุณสมบัติการซึมได้ และ CBR. ของดินชั้นทางบดอัดผสมยางมะตอยและน้ำยางพารา โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบสารสนเทศงานทดสอบและวิเคราะห์คุณภาพวัสดุวิศวกรรม ในงานชลประทาน การศึกษาปัญหาการกระจายตัวของดินในเขตชลประทานจังหวัดชัยภูมิ โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ กรณีศึกษา : พื้นที่ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ผลกระทบของปุ๋ยหมักต่อสมบัติทางกายภาพบางประการของดิน การดูดตรึงฟอสเฟตสูงของดินชุดต่าง ๆ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก