สืบค้นงานวิจัย
กระบวนการตัดสินใจในการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมของเกษตรกรจังหวัดแพร่
ชูชีพ ชีพอุดม - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: กระบวนการตัดสินใจในการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมของเกษตรกรจังหวัดแพร่
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ชูชีพ ชีพอุดม
บทคัดย่อ: การศึกษากระบวนการตัดสินใจในการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมของเกษตรกรจังหวัดแพร่มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1)พรรณาถึงลักษณะส่วนบุคคล เศรษบกิจ และสังคมของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมในจังหวัดแพร่ (2)ศึกษากระบวนการตัดสินใจในการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม และ (3)ระบุถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไขในการประกอบอาชีพการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมของเกษตรกรในจังหวัดแพร่ ข้อมูลที่ใช้ในงานวิจัยได้ถูกรวบรวมโดยการสัมภาษณ์เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมที่เป็นหัวหน้าครอบครัวหรือมีอำนาจในการตัดสินใจที่ดำเนินการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมในจังหวัดแพร่ทั้งหมดที่มีรายชื่อในการดำเนินการปลูกหม่อนควบคู่ไปกับการเลี้ยงไหม ของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท สถานีทดลองหม่อนไหมแพร่และวิทยาลัยเกษตรกรรมแพร่ จำนวน 58 รายข้อมูลที่ได้นำมาจัดหมวดหมู่และวิเคราะห์ด้วยสถิติคือ ค่าร้อยละ (percentage) ค่ามัชฌิมเลขคณิต (arithmetic mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (standard deviation) และฐานนิยม (mode) ผลการวิจัยพบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ให้ข้อมูล (56.90)เป็นเพศหญิงมีอายุเฉลี่ย 40 ปี และเป็นผู้ที่แต่งงานแล้ว ส่วนใหญ่จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และมีจำนวนสมาชิกในครอบครัวเฉลี่ยครอบครัวละ 4 คน มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ให้ข้อมูลมีอาชีพทำสวนและทำไร่ก่อนหันมาปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม รองลงมาคืออาชีพข้าราชการ อาชีพค้าขาย และอาชีพรับจ้าง ผู้ให้ข้อมูลส่วนมากเป็นสมาชิกกลุ่มผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและมีที่ดินประกอบอาชีพการเกษตรเป็นของตนเองโดยเฉลี่ย 13 ไร่ต่อครอบครัว สำหรับลักษณะพื้นที่เป็นที่ดอนและไม่มีระบบน้ำชลประทาน เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมในจังหวัดแพร่ส่วนใหญ่ไม่เคยกู้เงินมาลงทุนแต่ใช้เงินทุนส่วนตัวที่ได้จากการออมเท่านั้น ผู้ให้ข้อมูลมากกว่าครึ่ง(55.18) ระบุว่าได้เข้ารับการฝึกอบรมเรื่องการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมจากสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดแพร่ ได้แก่ วิทยาลัยเกษตรกรรมแพร่ บริษัทจุลไหมไทย จำกัด จังหวัดเพชรบูรณ์ และศูนย์วิจัยหม่อนไหมจังหวัดนครราชสีมา ก่อนที่จะหันมาประกอบอาชีพปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม สำหรับแหล่งข่าวสารที่เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมในจังหวัดแพร่ได้รับมากที่สุดคือ เพื่อนบ้าน รองลงมาได้แก่ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เอกสารเผยแพร่และวิทยุกระจายเสียง กระบวนการตัดสินใจปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมของผู้ให้ข้อมูลซึ่งมีด้วยกันทั้งหมดรวม 5 ขั้นตอนนั้นพบว่าขั้นตอนที่ 1 ซึ่งเป็นในขั้นปัญหา (problem stage) ผู้ให้ข้อมูลส่วนใหญ่ระบุว่ามีปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ที่ทำการเกษตรที่ขาดแคลนน้ำ ต้องอาศัยน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ส่วนปัญหาเรื่องการตลาดคือความไม่แน่นอนในราคาของผลผลิตทางการเกษตร และปัญหาด้านราคาของต้นทุนในการผลิตที่มีแนวโน้มว่าจะสูงขึ้นทุกขณะ ตลอดจนปัญหาการขาดการติดต่อ และถ่ายทอดความรู้จากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล ขั้นตอนที่ 2 ขั้นวิเคราะห์ทางเลือก (alternative caurse of action) พบว่าผู้ให้ข้อมูลได้วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของทางเลือกใหม่คือการหันมาปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมว่า หม่อนมีคุณสมบัติเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ขยายพันธุ์ง่าย ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดแมลง ในด้านพันธุ์ไหม ผู้ให้ข้อมูลระบุว่าใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงสั้น และมีความต้านทานโรคเป็นอย่างดี รวมทั้งมีการประกันราคาของผลผลิต ทำให้ไม่มีปัยหาเรื่องการตลาดเพราะมีบริษัทเอกชนรับซื้อในจำนวนที่ไม่จำกัด รวมทั้งมีการบริการให้สินเชื่อตลอดจนการให้บริการความรู้จากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะจากสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดแพร่และวิทยาลัยเกษตรกรรมแพร่ ขั้นตอนที่ 3 เป็นขั้นตัดสินใจ (decision stage) ในขั้นนี้พบว่าผู้ให้ข้อมูลทั้งหมดตัดสินใจที่จะปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม โดยได้มีการพิจารณาข้อดีข้อเสียของอาชีพนี้อย่างละเอียดแล้วในขั้นตอนที่ 2 ที่ผ่านมา ขั้นตอนที่ 4 (action stage) ในขั้นนี้พบว่าผู้ให้ข้อมูลได้ดำเนินการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมโดยปฏิบัติอย่างถูกวิธีตามลำดับขั้นตอนที่เคยได้รับการฝึกอบรมมาจากสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบทจังหวัดแพร่ สถานีทดลองหม่อนไหมแพร่ และวิทยาลัยเกษตรกรรมแพร่ ขั้นตอนที่ 5 (evaluation stage) เป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการตัดสินใจพบว่าผู้ให้ข้อมูลมีความพอใจกับรายได้ที่ได้รับจากการจำหน่ายผลผลิตรังไหมให้กับบริษัทจุลไหมไทย จำกัด จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งทำให้เกษตรกรมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม และผู้ให้ข้อมูลทุกคนมีความคิดเห็นตรงกันว่า อาชีพการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมเป็นอาชีพที่คุ้มค่ากับการลงทุน สมควรที่จะยึดเป็นอาชีพหลักต่อไป สำหรับปัญหาอุปสรรคที่เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมในจังหวัดแพร่ประสบอยู่ขณะนี้คือ 1.ขาดแคลนหม่อนพันธุ์ดี 2.ขาดแคลนทุนทรัพย์ในการขยายการผลิต 3.โรคระบาดในตัวไหมทำให้ไหมตายก่อนวัย 5 4.พื้นที่ขาดน้ำเพื่อใช้ในการปลูกหม่อนให้มีคุณภาพ
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: จังหวัดแพร่
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
กระบวนการตัดสินใจในการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมของเกษตรกรจังหวัดแพร่
กรมส่งเสริมการเกษตร
2535
ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรผู้เลี้ยงไหมในกลุ่มจังหวัดร้อยแก่นสาร การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมของเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่น สภาพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและความต้องการการส่งเสริม ของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม ที่ดำเนินโครงการแปลงใหญ่หม่อนไหม กรณีศึกษาจังหวัดมุกดาหาร จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดน่าน และจังหวัดอุดรธานี การศึกษาการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมเชิงหัตถกรรมที่ดีและเหมาะสมระดับฟาร์มเกษตรกร ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลี้ยงไหมของเกษตรกรในจังหวัดขอนแก่น ปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมอุตสาหกรรม ในเขตภาคเหนือ การเลี้ยงไหมพันธุ์ไทยลูกผสมของเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ การเลี้ยงไหมพันธุ์ไทยลูกผสมของเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ สภาพการเลี้ยงไหมของเกษตรกรใน จ.ขอนแก่น ความคิดเห็นของเกษตรกรต่อการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมในอำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก