สืบค้นงานวิจัย
สภาพการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ในจังหวัดลำพูน
ดุษณีย์ ผลาฤทธิ์ - กรมส่งเสริมการเกษตร
ชื่อเรื่อง: สภาพการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ในจังหวัดลำพูน
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ดุษณีย์ ผลาฤทธิ์
บทคัดย่อ: การศึกษาสภาพการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ในจังหวัดลำพูน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานภาพของเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งพันธุ์ สภาพการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะของเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งในจังหวัดลำพูน ซึ่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษา ได้มาจากการสอบถามเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งจังหวัดลำพูน รวมทั้งสิ้น 70 ราย แล้วนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS/PC+(Statistical Package for Social Science/Personal Computer Plus) ผลการศึกษาพบว่า ผู้เลี้ยงผึ้งส่วนใหญ่ มีเพศเป็นชาย มีอายุเฉลี่ย 42 ปี สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา มีสมาชิกในครอบครัวเฉลี่ย 4 คน เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งร้อยละ 45.7 ประกอบอาชีพเลี้ยงผึ้ง เป็นอาชีพหลัก ร้อยละ 64.3 ประกอบอาชีพการเลี้ยงผึ้ง เป็นอาชีพรอง มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 12000 บาท ร้อยละ 37 มีตำแหน่งในสังคม มีประสบการณ์เลี้ยงผึ้งพันธุ์เฉลี่ย 7 ปี จำนวนรังที่เริ่มต้นการเลี้ยงผึ้ง 1- 10 รัง ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เลี้ยงผึ้งมากกว่า 150 รัง และในอนาคตระบุว่าจะเลี้ยงมากกว่า 150 รัง สาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจเลี้ยงผึ้งส่วนใหญ่ระบุว่าตัดสินใจด้วยตนเอง และเคยผ่านการอบรมการเลี้ยงผึ้งมาแล้ว การจำหน่ายน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์ ส่วนใหญ่ขายทั้งขายปลีกและขายส่ง ราคาผลผลิตที่จำหน่ายได้เมื่อขายปลีกราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 83.5 บาท เมื่อขายส่งราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 63 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินเฉลี่ยต่อปี เป็นเงิน 23,209 บาท เป็นค่าอาหาร น้ำตาล เกสร และแป้งถั่วเหลือง เป็นเงิน 40,525 ต่อ ค่าสารเคมี เป็นเงิน 1,728 บาทต่อปี ค่าแรงงานเป็นเงิน 9468 บาทต่อปี ค่าอื่นๆ เป็นเงิน 3,157 บาทต่อปี สภาพการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ของเกษตรกรส่วนใหญ่ผลิตนางพญาใช้เอง อายุการใช้นางพญา 1 ปี รังผึ้งใช้เป็นแบบเอเซีย (ไต้หวัน ) การเรียงลำดับคอนกรณีมี 5 คอนต่อรัง โดยเรียงคอนเกสร น้ำหวาน ไข่ หนอน ดักแด้ อายุของคอนแผ่นรังเทียมที่ใช้ไม่เกิน 1 ปี การเสริมคอนแผ่นรังเทียมเกษตรกรนิยมใส่ด้านที่ชิดกับคอนที่เก็บน้ำหวาน การให้เกสรเสริมเกษตรกรจะให้โดยวางบนหัวคอน การให้น้ำตาลและน้ำ ผู้เลี้ยงผึ้งส่วนใหญ่จะใส่ในภาชนะวางไว้ใกล้รัง การตรวจรังผึ้งผู้เลี้ยงผึ้ง ตรวจรังผึ้งทุก ๆ 7 วัน ประเด็นที่ทำการตรวจคือ สภาพและศักยภาพในการไข่ของนางพญา การเตรียมผึ้งก่อนดอกไม้บานหรือก่อนฤดูการเก็บเกี่ยวผู้เลี้ยงผึ้งจะเลี้ยงให้แข็งแรงเต็มที่ การจัดการผึ้งหลังฤดูการเก็บเกี่ยวผลิตภัณฑ์ผึ้ง ผู้เลี้ยงผึ้งจะใช้วิธีรวมรัง จากการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลพื้นฐานของเกษตรกร กับความสำเร็จในการเลี้ยงผึ้งของเกษตรกรผู้ให้ข้อมูล 4 ประเด็นย่อยคือ กำไรขั้นต้นต่อรัง ต้นทุนต่อรัง มูลค่าขายต่อรัง และ ผลผลิตเฉลี่ยต่อรัง พบว่ามีเพียง อาชีพหลัก และอาชีพรอง ที่มีความสัมพันธ์กับกำไรขั้นต้นต่อรัง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่น 98.00 % และ 99.00 % ตามลำดับ พบว่ามีเพียง รายได้ การศึกษา และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่มีความสัมพันธ์ต้นทุนต่อรัง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 93.00 97.50 และ 97.50 ตามลำดับ มีเพียง การศึกษา และอาชีพรอง ที่มีความสัมพันธ์กับมูลค่าขายต่อรัง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 93.00 และ 97.50 ตามลำดับ และมีเพียง อาชีพหลัก และอาชีพรอง ที่มีความสัมพันธ์กับกับ ผลผลิตต่อรัง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 97.50 ปัญหาด้านการลงทุน พบว่า เกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งส่วนใหญ่ระบุว่าปัญหาที่พบคือ วัสดุอุปกรณ์มีราคาสูง และ ขาดการสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐ ปัญหาที่พบรองลงไปคือ ขาดทุนทรัพย์ในการลงทุนเลี้ยงผึ้ง และ การขาดแคลนแหล่งทุนเช่น แหล่งกู้ ปัญหาด้านการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ พบว่าปัญหาที่เกษตรกรส่วนใหญ่ประสบเรียงตามลำดับความสำคัญคือ ขาดแคลนอหล่งอาหารในแหล่งที่เลี้ยง ขาดข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ขาดเจ้าหน้าที่ของรัฐให้คำแนะนำปรึกษา ขาดสถานที่ตั้งเลี้ยงผึ้ง อาหารเสริมไม่มีจำหน่ายหรือหาซื้อยาก ขาดการฝึกอบรมหรือดูงาน ขาดแคลนแรงงานในการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ และ ความรู้เรื่องการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ ปัญหาด้านการดูแลป้องกันและกำจัดศัตรูพืช พบว่าเกษตรกรระบุว่าปัญหาที่พบเรียงตามลำดับความสำคัญคือ ขาดความรู้ในการดูแลป้องกันกำจัดศัตรูผึ้ง ขาดเจ้าหน้าที่ของรัฐให้คำแนะนำปรึกษา ไม่มีเวลาในการดูแลป้องกันรักษา สารเคมีป้องกันรักษาผึ้งเป็นอันตรายต่อคนสัตว์และสิ่งแวดล้อมไม่สามารถดำเนินการป้องกันรักษาได้มีความรู้เรื่องการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ไม่เพียงพอ ปัญหาด้านศัตรูผึ้งที่พบ ผู้เลี้ยงผึ้ง มีปัญหาที่สำคัญคือ ต่อ ไรวารัว (ตัวใหญ่ ) ไรทรอปิเลแลปส์ (ตัวเล็ก ) หนอนผีเสื้อกินไขผึ้ง มด นก โรคชอล์คบรูค โรคหนอนเน่ายูโรเปี้ยน คางคก โรคแซคบรูค โรคหนอนเน่าอเมริกัน และโรคโนซีมา (ทางเดินอาหาร) ปัญหาด้านการตลาด พบว่าปัญหาที่สำคัญเรียงตามลำดับคือ ราคาน้ำผึ้งถูก พ่อค้าคนกลางกดราคา ผู้บริโภคไม่เชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของน้ำผึ้ง ไม่มีสถานที่ แหล่งจำหน่ายน้ำผึ้งหรือผลิตภัณฑ์ผึ้ง ผู้เลี้ยงผึ้งทีมีปัญหาคุณภาพน้ำผึ้งที่ผลิตได้ไม่ได้มาตรฐาน ผู้เลี้ยงผึ้ง ต้องการให้รัฐสนับสนุนในประเด็นต่าง ๆ เรียงลำดับความสำคัญได้คือ ให้รัฐประกันราคาน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์ การตั้งกองทุนผู้เลี้ยงผึ้งพันธุ์ รับรองคุณภาพน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์ผึ้ง การสนับสนุนการแปรรูปและยกระดับมูลค่าน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์ผึ้งและการส่งเสริมการบริโภคน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์ผึ้ง ต้องการให้รัฐบริการ / จัดหาหรือจำหน่าย อุปกรณ์เลี้ยงผึ้งในราคาถูก ต้องการข้อมูล ข่าวสารต่างๆในด้านการเลี้ยงผึ้ง ต้องการให้รัฐจัดหาแหล่งจำหน่ายผลผลิต ต้องการความรู้ คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในด้านการเลี้ยงผึ้ง และต้องการแหล่งเงินกู้
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมส่งเสริมการเกษตร
คำสำคัญ: ผึ้ง
หมวดหมู่ AGRIS:
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
สภาพการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ในจังหวัดลำพูน
กรมส่งเสริมการเกษตร
2547
สภาพการเลี้ยงผึ้งพันธุ์ของเกษตรกร : กรณีศึกษาในอำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู สภาพการผลิตและการตลาดลำไยของเกษตรกรในจังหวัดลำพูน การเลี้ยงปลายะขุ่ยด้วยอาหารต่างชนิดกัน การเลี้ยงปลาหมอร่วมกับกบนาในบ่อดิน สภาวะการเลี้ยงปลาหมอไทยของเกษตรกรในจังหวัดเชียงใหม สภาพภูมิอากาศกับการให้ผลผลิตของลำไยจังหวัดลำพูน ปี 2525 - 2539 การศึกษาสภาพการเลี้ยงโคขุนของเกษตรกรในจังหวัดชุมพร สภาพการเลี้ยงโคขุนของเกษตรกรรายย่อย ในจังหวัดอุดรธานี การเลี้ยงกั้งตั๊กแตน (Harpiosquilla raphidea Fabricus, 1798) ด้วยอาหารชนิดต่างๆ การพัฒนาการเลี้ยงปลานิลด้วยวัตถุดิบโปรตีนทดแทนจากแปลงปลูกเกษตรปลอดสารพิษ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก