สืบค้นงานวิจัย
การศึกษาลักษณะทางนิเวศวิทยาและการใช้ประโยชน์ในท้องถิ่นของต้นลานป่า (Corypha lecomtei Becc.) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน
พงศ์เทพ สุวรรณวารี - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ชื่อเรื่อง: การศึกษาลักษณะทางนิเวศวิทยาและการใช้ประโยชน์ในท้องถิ่นของต้นลานป่า (Corypha lecomtei Becc.) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน
ชื่อเรื่อง (EN): The ecology and local utilization of Corypha lecomtei Becc. in Tab Lan National Park
บทคัดย่อ: อุทยานแห่งชาติทับลานอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี คือป่าธรรมชาติผืนสุดท้ายที่มีต้นลานขึ้นอยู่มากที่สุดของประเทศไทย การศึกษาลักษณะทางนิเวศวิทยาและการใช้ประโยชน์ในท้องถิ่นของต้นลานป่าในอุทยานแห่งชาติทับลาน พบว่าพื้นที่“ป่าลาน” มีขนาด 22.91 ตารางกิโลเมตร คิดเป็น ร้อยละ 29 ของพื้นที่ศึกษา พบพันธุ์ไม้ยืนต้นทั้งหมด 53 ชนิด 48 สกุล และ 27 วงค์ จำนวนทั้งสิ้น 330 ต้น จาก 7 แปลงศึกษา พันธุ์ไม้วงค์ Moraceae พบมากที่สุด ซึ่งมีจำนวน 5 ชนิด รองลงมา ได้แก่ พันธุ์ไม้ในวงค์ Caesalpinioideae, Bignoniaceae, Mimosoideae และ Rubiaceae พบจำนวนวงศ์ละ 4 ชนิด แปลงที่มีชนิดพันธุ์ไม้มากที่สุดคือแปลงที่ 4 ริมถนนสาย 304 หลักกิโลเมตรที่ 29 จำนวน 15 ชนิด ส่วนแปลงที่มีน้อยที่สุดคือ แปลงที่ 2 สวนป่าเขาไผ่ และแปลงที่ 5 ข้างที่ทำการอุทยาน มีแปลงละ 10 ชนิด ส่วนความหนาแน่นของต้นไม้ พบมากที่สุดในแปลงที่ 1 น้ำตกบ่อทอง แต่น้อยที่สุดในแปลงที่ 5 เช่นกัน ต้นไม้ที่มีความสำคัญสูงที่สุดคือ ลานป่า ตามด้วย สมพง นนทรี ตะแบกเปลือกบาง และปออีเก้ง ป่าที่สำรวจส่วนใหญ่จะแบ่งโครงสร้างออกเป็น 3 ชั้น จากต้นลานที่สำรวจ 96 ต้น พบว่า มีความหนาแน่นเฉลี่ย 137 ต้น/เฮกแตร์ เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นที่ความสูงเพียงอกเฉลี่ย 70.1 เซ็นติเมตร รัศมีทรงพุ่มเฉลี่ย 3.8 เมตร และความสูงเฉลี่ย 9.4 เมตร โดยทั้งสามค่า มีความสัมพันธ์กันอย่างยิ่ง จากการประเมินโดยภาพถ่ายดาวเทียมและการสำรวจภาคสนาม พบว่าในพื้นที่ศึกษาแห่งนี้ มีจำนวนต้นลานถึง 313,942 ต้น ผลการศึกษาการเจริญและพัฒนาของช่อดอกลานป่า พบว่าลานป่าออกดอกในเดือนพฤษภาคม ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง รูปพีระมิด มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนแรก วัดความกว้างได้ 3 เมตรและสูงถึง 7 เมตร ดอกจะติดผลในเดือนกรกฎาคม แล้วผลจะร่วงหล่นในเดือนพฤษภาคมในปีถัดไป เมื่อนำเมล็ดลานมาปลูกพบว่า ต้นลานมีการเจริญเติบโตช้ามาก โดยต้นลานอายุ 4 ปี มีน้ำหนักแห้งทั้งต้นเฉลี่ยเพียง 172 กรัม มีการเจริญเติบโตเป็นแบบเอ็กโพแนลเชี่ยล ส่วนของต้นลานป่าที่ชาวบ้านนำมาใช้ประโยชน์มากที่สุด คือ ยอดลานหรือใบลานอ่อน นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์จักสาน เช่น หมวกสตรี-บุรุษ กระเป๋า สามารถสร้างรายได้ได้ดี โดยคนตัดยอดลาน 13,000 บาทต่อเดือน คนจักสานยอดลาน 13,600 บาทต่อเดือน และ พ่อค้าคนกลางหรือกลุ่ม OTOP มีรายได้ 37,740 บาทต่อเดือน ในพื้นที่มีกลุ่มจักสาน 3 กลุ่ม ใช้ยอดลาน 1,500 ยอดต่อเดือน สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท ต่อปี ถึงแม้ว่าสมาชิกของกลุ่มจักสานใบลานจะมีความสำนึกในการอนุรักษ์ลานอยู่แล้ว แต่มีแต่ชาวบ้านทั่วไปบางคนที่ใช้ประโยชน์จากลานโดยไม่คำนึงถึงอนาคต แต่ปัญหาใหญ่ของชาวบ้านคือเรื่องกรรมสิทธิ์ของที่ดินและแนวเขตอุทยานฯ ทำให้การประสานความร่วมมือระหว่างชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นไปได้ยาก คำสำคัญ: ลานป่า ชุมชน การอนุรักษ์ ป่าไม้ ผลิตภัณฑ์จากป่า ?
บทคัดย่อ (EN): Thap Lan National Park, in Nadee district, Pracinburi province, is the last natural area that contains the most number of Corypha lecomtei Becc. in Thailand. The study of ecology and local use of this plant revealed that the “Lan forest” area is 22.91 km2 or 29% of the study area. From 330 trees in 7 sampling plots, 53 tree species 48 genera 27 family were found. Moraceae family included the 5 highest species, followed by Caesalpinioideae, Bignoniaceae, Mimosoideae and Rubiaceae with 4 species each. Plot number 4 at 29-km mark near the road had the highest plant species of 15 but the lowest were plot number 2 at forest plantation and 5 near the national park head quarter with 10 species each. Whereas, tree density was highest in plot number 1, Bo Tong waterfall, but lowest in plot number 5. The most important plant, according to important value index, was C. lecomtei, followed by Tetrameles nudiflora R. Br., Peltophorum pterocarpum (DC.) Backer ex K. Heyne, Lagerstroemia duperreana Pierre ex Gagnep. and Pterocymbium tinctorium (Blanco) Merr. In most plots, 3 forest layers were found. From 96 sampling trees, C. lecomtei had average of 137/ha density, 70.1 cm diameter at breast height (DBH), 3.8 m canopy radial and 9.4 m stem height. The later 3 parameters were significantly related. From both satellite image and field survey, a total of 313,942 C. lecomtei was estimated in this area. This plant flowered in May in pyramid-shape fluorescents. They grew very fast in the first 2 months, reaching 3 m canopy diameter and 7 m height. The fruits formed in July, then rip and fell in May a year later. The growth of this plant was very slow. It weighed only 172 g dry weight in 4 years and fit with exponential curve growth. Young leaves were the most popular choice for local people, they woven them into a hat or a bag, earning good income. The cutter, weaver and middle man could earn 13,000, 13,600 and 37,740 Bath/month. Three groups of weavers used approximately 1,500 leaves a month bringing more than 7 millions Bath per year to this community. Although their members are concerned about the future and sustainable use of this plant but some vilagers are not. However, the most fear of local people is the uncertainty of land owner right and national park boundery. This considerably prevents the cooperation between villagers and national park officers. Keywords: Corypha, community, conservation, forest, non timber forest product
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
คำสำคัญ: การใช้ประโยชน์
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การศึกษาลักษณะทางนิเวศวิทยาและการใช้ประโยชน์ในท้องถิ่นของต้นลานป่า (Corypha lecomtei Becc.) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
30 กันยายน 2553
ความหลากหลายของไส้เดือนดินในอุทยานแห่งชาติทับลาน ยางพารากับท้องถิ่น การใช้ประโยชน์จากเศษเหลือทิ้งของข้าวโพดฝักอ่อนจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารกระป๋อง ความหลากหลายของเห็ดและการนำไปใช้ประโยชน์ ในพื้นที่ป่าทุ่งบะ ต.เกาะแก้ว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด การใช้ประโยชน์ สัณฐานวิทยาและเซลล์พันธุศาสตร์ของสมุนไพรท้องถิ่นที่ใช้เป็นยาดองเหล้าในจังหวัดนครศรีธรรมราช ลักษณะทางพันธุกรรมของประชาคมแบคทีเรียและการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ปกปักพันธุกรรมพืชทางทะเล หมู่เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี การใช้ประโยชน์จากหนังสือพิมพ์ในงานประชาสัมพันธ์ การใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ในการปลูกยางพารา รูปแบบการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรหอยลาย การจัดการความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม เพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก