สืบค้นงานวิจัย
ศึกษาการเพิ่มอุณหภูมิดินด้วยการเพิ่มตัวสะท้อนรังสีแบบแผ่นเรียบในระหว่างการอบดิน
พรพรรณ พิพัฒน์พงศ์กุล - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: ศึกษาการเพิ่มอุณหภูมิดินด้วยการเพิ่มตัวสะท้อนรังสีแบบแผ่นเรียบในระหว่างการอบดิน
ชื่อเรื่อง (EN): Effect of Adding a Fixed Tilt Solar Flat-Plate Reflectorduring Soil Solarization on Increasing of Soil Temperature
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พรพรรณ พิพัฒน์พงศ์กุล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Bhornphan Pipatpongkul
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มอุณหภูมิดินโดยการนำตัวสะท้อนรังสีแบบแผ่นเรียนที่มีมุม เอียงคงที่มาใช้ควบคู่กับการอบดินด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยความคาดหวังว่าตัวสะท้อนรังสีนี้จะ เพิ่มรังสีอาทิตย์ ส่งผลให่อุณหภูมิดินสูงขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดการควบคุมเชื้อโรคในดินได้มากชนิดขึ้น และยาวนานขึ้น เมื่อมีการเพิ่มตัวสะท้อนแสงจึงจำเป็นที่จะต้องหาความสัมพันธ์ระหว่างมุมเงยของแสงอาทิตย์ที่ถูก สะท้อนลงจากตัวสะท้อนแสงกับตำแหน่งของดวงอาทิตย์และกับมุมเอียงของตัวสะท้อนแสง การ เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับมุมเอียงได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับอัตราส่วนความกว้างของตัว สะท้อนแสงต่อความกว้างของแปลงดินที่ได้กำหนดให้เป็น 5:12 เมื่อพิจารณาละติจูดของกรุงเทพฯ เท่ากับ 13.75 มุมเอียงงที่เหมาะสมในแต่ละเดือนสำหรับพฤษภาคมถึงสิงหาคมควรที่จะปรับให้อยู่ ในช่วง 52.53-57.84 หันหน้าไปทางทิศเหนือขณะที่เดือนที่เหลือจะต้องปรับมุมให้อยู่ในช่วงของ 54.62-73.32 หันหน้าไปทางทิศใต้ ผู้วิจัยไดทำการทดลองวัดอุณหภูมิของดินที่ระดับความลึกต่างๆ โดยแบ่งกรณีการศึกษาดินเป็นสาม ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ดินเปล่า ดินที่ถูกอบด้วยแสงอาทิตย์โดยใช้วัสดุคลุมดินและดินที่มีทั้งการอบ และการสะท้อนของแสงอาทิตย์รวมกันอุณหภูมิดินที่ได้จากการวัดทั้งสามกรณีแสดงให้เห็นการ เปลี่ยนแปลงตามเวลาในช่วงขอองวันและการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงทั้ง สองแบบนี้มีค่าการเปลี่ยนแปลงที่มากสุดในดินที่พื้นผิวแล้วค่อยลดลงตามความลึกของดิน ผลของ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยที่ผิวดิน และ ที่ความลึก 5, 10, 15 และ 25 เซนติเมตรอยู่ที่ 35.76 , 33.51 , 33.18, 33.07 และ 33.54 C สำหรับดินเปล่า , 42.29 , 38.51 , 37.48 , 36.81 และ 36.48 C สำหรับดินที่มีการคลุม ดิน และ 45.60 , 42.34 , 39.72 , 37.63 และ 36 .47 C สำหรับดินที่มีทั้งการอบและการสะท้อนของ แสงอาทิตย์รวมกันตามลำดับ เพื่อที่จะทำความอุณหภูมิดินทั้งสามกรณี ในสองกรณีแรก (กรณีดินเปล่า และกรณีกินที่มีการคลุมดิน) ผู้วิจัยได้อ้างอิงสมการแบบจำลอง และสมการการกำหนดตัวแปรมาจากสมการที่เสนอโดย Wu และ คณะ [1], Saito และ Simunek [2] และ Ham และ Kluitenberg [3] ส่วนในกรณีของดินที่ได้รับแสง สะท้อนร่วมกับการอบดินนั้น ผู้วิจัยได้ทำการประยุกต์สมการแบบจำลองมาจากสมการแบบจำลอง ของดินที่มีการคลุมดิน โดยการปรับเปลี่ยน เทอมของรังสีอาทิตย์ ในสมการเงื่อนไขขอบเขตที่ผิวดิน ใต้วัสดุคลุม และ ในสมการเงื่อนไขขอบเขตที่ผิววัสดุคลุม ผลของอุณหภูมิดินที่ได้จากการทำนายแสดงลักษณะที่คล้ายคลึงกับผลของอุณหภูมิดินที่ได้จากการวัด ต่างก็ตรงที่ผลที่ได้จากแบบจำลองมีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมากกว่าจึงทำให้ดู เหมือนว่าอุณหภูมิดินในแบบจำลองมีการนำของอุณหภูมิ (lead - in - phase) การเหลื่อมล้ำของอุณหภูมิ นี้ทำให้มีช่วงความแตกต่างระหว่างผลที่ได้จากแบบจำลองและที่ได้จากการวัดกว้างและมีค่า Root Mean Square Error (RMSE) สูงแต่มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อค่าความแตกต่างโดยเฉลี่ย สุดท้ายนี้ ผู้วิจัยยังได้ทำการเปรียบเทียบค่าของอุณหภูมิดินที่ดินทั้งสามกรณีกับอุณหภูมิของ การกำจัดเชื้อโรคในดินทั้งหลายที่ได้ถูกรวบรวมโดย Noble และ Roberts [4] เพื่อที่จะดูความเป็นไป ได้ว่าวิธีการควบคุมใดเหมาะใดเหมาะสมที่กำจัดเชื้อโรคในดินที่พิจารณาจนถึงความลึกของดินที่ต้องการ
บทคัดย่อ (EN): This research studied the possibility of increasing soil temperature by introducing a fixed-tilt flat plate reflector in combination with soil solarization. The reflector is expected to magnify solar radiation, resulting in soil temperature improvement which in turn leads toa longer lasting control and wider spectrum suppression of soilborne pathogens. To add reflector, it is important to find the solar altitude reflected from the reflector as a function of the sun position as well as the reflector tilted angle. Optimization for the tilted angle has been designed to have the width ratio of the reflector to the soil plot to be 5:12. When considering Bangkok's latitude of 13.75, the optimum tilted angle adjusted monthly is found to be in the range of 52.53-57.84 facing toward North from May to August while that of the remaining months is in the range of 54.62-73.32 facing toward South. Soil temperature measurements at various depths were performed in three soil cases which included bare soil, solarized soil and reflected-solarized soil. It was found that the soil temperatures vary under diurnal cycle and fluctuate according to weather for all three cases. The degrees of the variation and the fluctuation were highest at the soil surface and were decreasing with increasing soil depth. When applying the plastic mulch alone, the mean temperatures at 0, 5, 10, 15 and 25 cm in depthwere 42.29, 38.51, 37.48, 36.81 and 36.48 C which were higher than those ofthe bare soil that have the values of 35.76, 33.51, 33.18, 33.07 and 33.54 C, respectively. By using a combination of the reflector and the plastic mulch, the average temperatures of 45.60, 42.34, 39.72, 37.63 and 36.47 C at the five soil depths could be reached. To estimate the temperature distribution of the three soil cases, the models and parameterizations of the first two cases (the bare and the mulched soil)were based on those proposed by Wu, et al. [l], Saito and Simunek [2], and Ham and Kluitenberg [3]. On the other hand, the modelof the last case (the reflected-solarized soil) was developed from the mulched soil model by modifying the radiation terms in both mulch surface and mulched soil surface boundary conditions. The soil temperature profiles predicted by the models had similar behaviors to those obtained by the measurements. However, when compared with the measured soil temperatures, the simulated ones were more sensitive to the weather, causingto lead-inphase of soil temperature in all soil layers. This temperature phase leading gave wide error ranges and high Root Mean Square Errors (RMSE) albeit low average errors. Finally, to find out which control method has potential to eradicate soilborne pathogens up to a required soil depth, three measured soil temperature profiles were then compared to the lists of temperature-time eradicated conditions reviewed by Nobleand Roberts [4].
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ: การอบดินด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
คำสำคัญ (EN): Soilborne Pathogens Control
เจ้าของลิขสิทธิ์: โครงการพัฒนาเครือข่ายระบบห้องสมุดในประเทศไทย
รายละเอียด: งานวิจัยนี้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มอุณหภูมิดินโดยการนำตัวสะท้อนรังสีแบบแผ่นเรียนที่มีมุม เอียงคงที่มาใช้ควบคู่กับการอบดินด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ด้วยความคาดหวังว่าตัวสะท้อนรังสีนี้จะ เพิ่มรังสีอาทิตย์ ส่งผลให่อุณหภูมิดินสูงขึ้นซึ่งจะทำให้เกิดการควบคุมเชื้อโรคในดินได้มากชนิดขึ้น และยาวนานขึ้น เมื่อมีการเพิ่มตัวสะท้อนแสงจึงจำเป็นที่จะต้องหาความสัมพันธ์ระหว่างมุมเงยของแสงอาทิตย์ที่ถูก สะท้อนลงจากตัวสะท้อนแสงกับตำแหน่งของดวงอาทิตย์และกับมุมเอียงของตัวสะท้อนแสง การ เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับมุมเอียงได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับอัตราส่วนความกว้างของตัว สะท้อนแสงต่อความกว้างของแปลงดินที่ได้กำหนดให้เป็น 5:12 เมื่อพิจารณาละติจูดของกรุงเทพฯ เท่ากับ 13.75 มุมเอียงงที่เหมาะสมในแต่ละเดือนสำหรับพฤษภาคมถึงสิงหาคมควรที่จะปรับให้อยู่ ในช่วง 52.53-57.84 หันหน้าไปทางทิศเหนือขณะที่เดือนที่เหลือจะต้องปรับมุมให้อยู่ในช่วงของ 54.62-73.32 หันหน้าไปทางทิศใต้ ผู้วิจัยไดทำการทดลองวัดอุณหภูมิของดินที่ระดับความลึกต่างๆ โดยแบ่งกรณีการศึกษาดินเป็นสาม ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ดินเปล่า ดินที่ถูกอบด้วยแสงอาทิตย์โดยใช้วัสดุคลุมดินและดินที่มีทั้งการอบ และการสะท้อนของแสงอาทิตย์รวมกันอุณหภูมิดินที่ได้จากการวัดทั้งสามกรณีแสดงให้เห็นการ เปลี่ยนแปลงตามเวลาในช่วงขอองวันและการเปลี่ยนแปลงตามสภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงทั้ง สองแบบนี้มีค่าการเปลี่ยนแปลงที่มากสุดในดินที่พื้นผิวแล้วค่อยลดลงตามความลึกของดิน ผลของ อุณหภูมิโดยเฉลี่ยที่ผิวดิน และ ที่ความลึก 5, 10, 15 และ 25 เซนติเมตรอยู่ที่ 35.76 , 33.51 , 33.18, 33.07 และ 33.54 C สำหรับดินเปล่า , 42.29 , 38.51 , 37.48 , 36.81 และ 36.48 C สำหรับดินที่มีการคลุม ดิน และ 45.60 , 42.34 , 39.72 , 37.63 และ 36 .47 C สำหรับดินที่มีทั้งการอบและการสะท้อนของ แสงอาทิตย์รวมกันตามลำดับ เพื่อที่จะทำความอุณหภูมิดินทั้งสามกรณี ในสองกรณีแรก (กรณีดินเปล่า และกรณีกินที่มีการคลุมดิน) ผู้วิจัยได้อ้างอิงสมการแบบจำลอง และสมการการกำหนดตัวแปรมาจากสมการที่เสนอโดย Wu และ คณะ [1], Saito และ Simunek [2] และ Ham และ Kluitenberg [3] ส่วนในกรณีของดินที่ได้รับแสง สะท้อนร่วมกับการอบดินนั้น ผู้วิจัยได้ทำการประยุกต์สมการแบบจำลองมาจากสมการแบบจำลอง ของดินที่มีการคลุมดิน โดยการปรับเปลี่ยน เทอมของรังสีอาทิตย์ ในสมการเงื่อนไขขอบเขตที่ผิวดิน ใต้วัสดุคลุม และ ในสมการเงื่อนไขขอบเขตที่ผิววัสดุคลุม ผลของอุณหภูมิดินที่ได้จากการทำนายแสดงลักษณะที่คล้ายคลึงกับผลของอุณหภูมิดินที่ได้จากการวัด ต่างก็ตรงที่ผลที่ได้จากแบบจำลองมีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศมากกว่าจึงทำให้ดู เหมือนว่าอุณหภูมิดินในแบบจำลองมีการนำของอุณหภูมิ (lead - in - phase) การเหลื่อมล้ำของอุณหภูมิ นี้ทำให้มีช่วงความแตกต่างระหว่างผลที่ได้จากแบบจำลองและที่ได้จากการวัดกว้างและมีค่า Root Mean Square Error (RMSE) สูงแต่มีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อค่าความแตกต่างโดยเฉลี่ย สุดท้ายนี้ ผู้วิจัยยังได้ทำการเปรียบเทียบค่าของอุณหภูมิดินที่ดินทั้งสามกรณีกับอุณหภูมิของ การกำจัดเชื้อโรคในดินทั้งหลายที่ได้ถูกรวบรวมโดย Noble และ Roberts [4] เพื่อที่จะดูความเป็นไป ได้ว่าวิธีการควบคุมใดเหมาะใดเหมาะสมที่กำจัดเชื้อโรคในดินที่พิจารณาจนถึงความลึกของดินที่ต้องการ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ศึกษาการเพิ่มอุณหภูมิดินด้วยการเพิ่มตัวสะท้อนรังสีแบบแผ่นเรียบในระหว่างการอบดิน
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2554
แบบจำลองคณิตศาสตร์ทางทะเลของอุณหภูมิและความเค็มสำหรับอ่าวไทย ศักยภาพการสร้างกรดและการชะละลายโลหะจากดินและถ่านหินของเหมืองแร่ลิกไนต์ การปรับปรุงคุณภาพดินกระจายตัวของดินลำตะคองโดยใช้ซีเมนต์ที่ผสมสารผสมเพิ่ม การยอมรับเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำนมในสภาพร้อนเครียดของโคนมโดยวิธีการเพิ่มการให้ร่มเงาและการตัดขนในเกษตรกรรายย่อย จังหวัดบุรีรัมย์ การกำจัดตัวรบกวนและเพิ่มความเข้มข้นของสารตัวอย่างก่อนการตรวจวัดด้วย อินดัคทิ การศึกษาการเพิ่มการละลายของยาอาร์ทิมิซินินโดยใช้สารไคโตซานเป็นสารช่วยเพิ่มการละลาย การใช้วัสดุปรับปรุงดินของเกษตรกรในการเพิ่มผลผลิตข้าวในเขตพื้นที่ดินเปรี้ยว การกำหนดตำแหน่งอีพิโทปบนโปรตีนพีอาร์เอ็มเพื่อช่วยเพิ่มการติดเชื้อไวรัสเด็งกี่ผ่านกลไกการเพิ่มที่อาศัยแอนติบอดี ผลของอัตราการเพิ่มอุณหภูมิต่อสมบัติทางแสงของฟิล์มบางไทเทเนียมไดออกไซด์ที่เตรียมด้วยวิธีการเคลือบปั่นเหวี่ยง การทดสอบวิเคราะห์ระบบระบายความร้อนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าด้วยแผ่นเพลเทียร์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก