สืบค้นงานวิจัย
การคัดเลือกและศึกษาประสิทธิภาพการย่อยสลายเซลลูโลสของแบคทีเรียทนเค็ม : กรณีศึกษาในชุดดินท่าจีน
Sirirat Pinrod - มหาวิทยาลัยมหิดล
ชื่อเรื่อง: การคัดเลือกและศึกษาประสิทธิภาพการย่อยสลายเซลลูโลสของแบคทีเรียทนเค็ม : กรณีศึกษาในชุดดินท่าจีน
ชื่อเรื่อง (EN): Selection of cellulose degrading Halobacteria : a case study of Tha Chin soil series
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sirirat Pinrod
บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกและศึกษาประสิทธิภาพในการย่อยสลายเซลลูโลสของแบคทีเรีย ทนเค็มจากดินเค็มชายทะเล โดยแยกแบคทีเรียที่สร้างเอนไซม์เซลลูเลสจากดินบริเวณป่าชายเลนปากแม่น้ำท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่อุณหภูมิ 25 oซ ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ความเค็ม 10% ได้แบคทีเรียจำนวน 8 สายพันธุ์ ทำการ คัดเลือกโดยการวัดกิจกรรมของเอนไซม์เซลลูเลสในการย่อยกระดาษกรองเบอร์ 1 (FPase) ได้แบคทีเรียที่มี กิจกรรมของเซลลูเลสที่ย่อยกระดาษกรองสูง 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ TC6 และ TC1 (1,930.16 mU/mgTP และ 1,134.06 mU/mgTP ตามลำดับ) ซึ่งได้จำแนกสกุลและสปีชีส์ของแบคทีเรียที่คัดเลือกได้โดยการวิเคราะห์ลำดับ เบสบางส่วนของ 16S rDNA พบว่า สายพันธุ์ TC6 และ TC1 จัดจำแนกได้เป็น Pseudoidiomarina taiwanensis และ Halomonas sp. ตามลำดับ และได้ศึกษากิจกรรมของเอนไซม์เซลลูเลสของแบคทีเรียที่คัดเลือกได้ในการย่อย carboxymethylcellulose (CMCase) , avicel (avicelase) และสำลี (cotton cellulase) และทำการศึกษาปัจจัย สิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการสร้างเอนไซม์เซลลูเลส ซึ่งได้แก่ อุณหภูมิ (oซ) , ระดับพีเอช และความเค็ม (%) โดยได้ วัดกิจกรรมของเซลลูเลสที่ย่อย carboxymethylcellulose (CMCase) พบว่า แบคทีเรียทั้งสองสายพันธุ์สามารถเจริญ ได้ในช่วงอุณหภูมิ 20-40 oซ , ระดับพีเอช 5-8 และระดับความเค็ม 3-29% โดยสายพันธุ์ TC6 สร้างเอนไซม์ CMCase สูงสุดที่อุณหภูมิ 30 oซ , ระดับพีเอช 5 และความเค็ม 29% ส่วนสายพันธุ์ TC1 สร้างเอนไซม์ CMCase ได้สูงสุดที่อุณหภูมิ 20 oซ , ระดับพีเอช 5 และความเค็ม 29% จากนั้นได้ทำการศึกษาการสร้างเอนไซม์ FPase , CMCase และ cellobiase ของแบคทีเรียทั้งสองสายพันธุ์เมื่อเลี้ยงในฟางข้าวที่ปราศจากเชื้อในห้องปฏิบัติการ โดย ควบคุมสภาพความชื้น 55-65% ที่ระดับพีเอช 5 , ความเค็ม 29% และอุณหภูมิ 30 และ 20 oซ สำหรับสายพันธุ์ TC6 และ TC1 ตามลำดับ ซึ่งพบว่า แบคทีเรียทั้งสองสายพันธุ์สามารถสร้างเอนไซม์เซลลูเลสได้ตลอดระยะการทดลอง 6 สัปดาห์ ส่วนค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนของฟางข้าว พบว่า ไม่แตกต่างกันตลอดการทดลอง เนื่องจาก เป็นการย่อยสลายโดยแบคทีเรียชนิดเดี่ยว (Single culture) จากผลการทดลองพบว่า แบคทีเรียที่คัดเลือกได้ทั้งสอง สายพันธุ์สามารถนำไปพัฒนาใช้ในพื้นที่ดินเค็มได้ และควรใช้เชื้อผสม (mixed culture) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ย่อยสลายซากพืชในดิน
บทคัดย่อ (EN): This research involved with selection and study of cellulose degradation of halobacteria isolated from coastal saline soil in the estuary in mangrove forest areas of the Tha Chin river, Samutsakon province. Under the cultivating conditions (10%salinity and 25oC), eight strains of cellulolytic bacteria were isolated and the cellulase activity (mU/mgTP) was determined with hydrolyzing filter paper No.1 (FPase). Two isolates, TC6 and TC1, were selected for highly efficient cellulase production (1,930.16 mU/mgTP and 1,134.06 mU/mgTP, respectively). Using of 16S rDNA sequence, TC6 and TC1 strains were identified as Pseudoidiomarina taiwanensis PIT1 and Halomonas sp., respectively. The enzyme activity of these isolates was studied with relation to hydrolyzing of carboxymethylcellulose (CMCase), avicel (avicelase) and cotton (cotton cellulase). The, environmental factors on temperature (oC), pH value and salinity (%NaCl) and their effected on cellulase production were also studied by determination of CMCase activity. The experiment was conducted with both TC6 and TC1 strains to be growth in temperature ranges of 20-40oC, pH ranges of 5-8 and salinity ranges of 3-29%. The optimum factors to produce high CMCase activity of TC6 strain were 30oC, pH 5 and 29%salinity and for TC1strain were 20oC, pH5 and 29% salinity. The strain was selected from the decomposition of rice straw in the laboratory (55- 65%moisture content, pH 5, 29% salinity, 30oC and 20oC for TC6 and TC1, respectively) and were also investigated for FPase, CMCase and cellubase activity, including carbon/nitrogen ratio(C/N ratio) at the period of six weeks. Both TC6 and TC1 strains were growth and produced cellulase during the cultivation periods. However, C/N ratio of rice straw was shown no significant different through the experiment periods due to the decomposition was occurred by single cultural. The experiment showed that selected of such the two strains of the bacteria have potential to be developed for applying to saline soils and mixed cultural should be used for increasing decomposition efficiency in the soil.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=126&RecId=3675&obj_id=3532
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ (EN): Euryarchaeota
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยมหิดล
รายละเอียด: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกและศึกษาประสิทธิภาพในการย่อยสลายเซลลูโลสของแบคทีเรีย ทนเค็มจากดินเค็มชายทะเล โดยแยกแบคทีเรียที่สร้างเอนไซม์เซลลูเลสจากดินบริเวณป่าชายเลนปากแม่น้ำท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่อุณหภูมิ 25 oซ ในอาหารเลี้ยงเชื้อที่ความเค็ม 10% ได้แบคทีเรียจำนวน 8 สายพันธุ์ ทำการ คัดเลือกโดยการวัดกิจกรรมของเอนไซม์เซลลูเลสในการย่อยกระดาษกรองเบอร์ 1 (FPase) ได้แบคทีเรียที่มี กิจกรรมของเซลลูเลสที่ย่อยกระดาษกรองสูง 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ TC6 และ TC1 (1,930.16 mU/mgTP และ 1,134.06 mU/mgTP ตามลำดับ) ซึ่งได้จำแนกสกุลและสปีชีส์ของแบคทีเรียที่คัดเลือกได้โดยการวิเคราะห์ลำดับ เบสบางส่วนของ 16S rDNA พบว่า สายพันธุ์ TC6 และ TC1 จัดจำแนกได้เป็น Pseudoidiomarina taiwanensis และ Halomonas sp. ตามลำดับ และได้ศึกษากิจกรรมของเอนไซม์เซลลูเลสของแบคทีเรียที่คัดเลือกได้ในการย่อย carboxymethylcellulose (CMCase) , avicel (avicelase) และสำลี (cotton cellulase) และทำการศึกษาปัจจัย สิ่งแวดล้อมที่มีผลต่อการสร้างเอนไซม์เซลลูเลส ซึ่งได้แก่ อุณหภูมิ (oซ) , ระดับพีเอช และความเค็ม (%) โดยได้ วัดกิจกรรมของเซลลูเลสที่ย่อย carboxymethylcellulose (CMCase) พบว่า แบคทีเรียทั้งสองสายพันธุ์สามารถเจริญ ได้ในช่วงอุณหภูมิ 20-40 oซ , ระดับพีเอช 5-8 และระดับความเค็ม 3-29% โดยสายพันธุ์ TC6 สร้างเอนไซม์ CMCase สูงสุดที่อุณหภูมิ 30 oซ , ระดับพีเอช 5 และความเค็ม 29% ส่วนสายพันธุ์ TC1 สร้างเอนไซม์ CMCase ได้สูงสุดที่อุณหภูมิ 20 oซ , ระดับพีเอช 5 และความเค็ม 29% จากนั้นได้ทำการศึกษาการสร้างเอนไซม์ FPase , CMCase และ cellobiase ของแบคทีเรียทั้งสองสายพันธุ์เมื่อเลี้ยงในฟางข้าวที่ปราศจากเชื้อในห้องปฏิบัติการ โดย ควบคุมสภาพความชื้น 55-65% ที่ระดับพีเอช 5 , ความเค็ม 29% และอุณหภูมิ 30 และ 20 oซ สำหรับสายพันธุ์ TC6 และ TC1 ตามลำดับ ซึ่งพบว่า แบคทีเรียทั้งสองสายพันธุ์สามารถสร้างเอนไซม์เซลลูเลสได้ตลอดระยะการทดลอง 6 สัปดาห์ ส่วนค่าอัตราส่วนคาร์บอนต่อไนโตรเจนของฟางข้าว พบว่า ไม่แตกต่างกันตลอดการทดลอง เนื่องจาก เป็นการย่อยสลายโดยแบคทีเรียชนิดเดี่ยว (Single culture) จากผลการทดลองพบว่า แบคทีเรียที่คัดเลือกได้ทั้งสอง สายพันธุ์สามารถนำไปพัฒนาใช้ในพื้นที่ดินเค็มได้ และควรใช้เชื้อผสม (mixed culture) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการ ย่อยสลายซากพืชในดิน
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

Sirirat Pinrod. "การคัดเลือกและศึกษาประสิทธิภาพการย่อยสลายเซลลูโลสของแบคทีเรียทนเค็ม : กรณีศึกษาในชุดดินท่าจีนSelection of cellulose degrading Halobacteria : a case study of Tha Chin soil series". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2550

Sirirat Pinrod. "การคัดเลือกและศึกษาประสิทธิภาพการย่อยสลายเซลลูโลสของแบคทีเรียทนเค็ม : กรณีศึกษาในชุดดินท่าจีนSelection of cellulose degrading Halobacteria : a case study of Tha Chin soil series". มหาวิทยาลัยมหิดล. 2550. Print.



TARR Wordcloud:
การคัดเลือกและศึกษาประสิทธิภาพการย่อยสลายเซลลูโลสของแบคทีเรียทนเค็ม : กรณีศึกษาในชุดดินท่าจีน
Sirirat Pinrod
มหาวิทยาลัยมหิดล
2550
การผลิตกระถางย่อยสลายได้จากเซลลูโลสแบคทีเรีย ความหลากหลายทางพันธุกรรมของแบคทีเรียที่ย่อยเซลลูโลสในกระเพาะรูเมนของโคขาวลำพูน ผลกระทบของการเติมเจลว่านหางจระเข้ต่อกระบวนการสังเคราะห์ แผ่นฟิล์มแบคทีเรียเซลลูโลสโดย Acetobacter Xylinum การปรับปรุงพันธุ์เบญจมาศโดยการคัดเลือกจากความแปรปรวนของเซลล์ (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต การประมาณเนื้อที่ยืนต้นและผลผลิตของลำไย โดยใช้ดัชนีพืชพรรณ กรณีศึกษา : ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่เกษตรกรรมกรณีศึกษาบริเวณบ้านท่าใหม่ตำบลปะตงอำเภอสอยดาวจังหวัดจันทบุรี การแยกและการคัดเลือก Bifidobacteria เพื่อเป็นจุลินทรีย์โพรไบโอติกในมนุษย์ การคัดเลือกถั่วลันเตาเพื่อต้านทานโรคราแป้ง การปรับปรุงกระบวนการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพแบบบูรณาการตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน กรณีศึกษาโรงปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตปุ๋ยบ้านไทรนอง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจ
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair