สืบค้นงานวิจัย
โครงการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารปลาต้นทุนต่ำสำหรับเกษตรกรรายย่อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สนอง เทียบศรี - มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง: โครงการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารปลาต้นทุนต่ำสำหรับเกษตรกรรายย่อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ชื่อเรื่อง (EN): The Study and Development Low Cost of Fish Feed Technology for Small Farmers in the northeast
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: สนอง เทียบศรี
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Sanong Theabsri
หน่วยงานสังกัดผู้แต่ง:
  1. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
บทคัดย่อ: การพัฒนาและการใช้ประโยชน์จากเศษปลาเพื่อเป็นวัตถุดิบทางเลือกหนึ่งในการผลิตอาหารปลาแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นการผลิตเศษปลาหมักโดยใช้เศษปลาหมักด้วยกรดซัลฟูริค หรือ กรดฟอร์มิก ในอัตราร้อยละ 2.5 โดยน้ำหนัก หมักร่วมกบเกลือในอัตราร้อยละ3โดยน้ำหนักเปรียบเทียบกับ สูตรไม่หมักร่วมกับเกลือ โดยแต่ละสูตร มีมันสําปะหลังร้อยละ10 เป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรต พบว่า ภายใน 7 วัน เศษปลาหมักมีความเหมาะสมที่จะนําไปใช้เป็นอาหารสัตว์ได้โดยสังเกตจากค่าพีเอชที่คงที่ ส่วนของเกล็ด กาง ครีบและกระโหลกหัวจะอ่อนนุ่ม แต่มีความชื้นสูงอยู่ระหว่าง ร้อยละ 65-70 จึงปรับปรุงสภาพด้วยการนํามันสําปะหลังบดมาผสมในสัดส่วน 1 ต่อ 1 โดยนํ้าหนักก่อนตากแดด2-3 วันให้แห้งและบดละเอียดก่อนใช้งานจะได้ปลาหมักแห้งซึ่งมีค่าโปรตีนอยู่ในช่วงร้อยละ 5.1 - 8.6 ใช้ปลาหมักแห้งแต่ละสูตรในสูตรอาหารในระดับร้อยละ 10 และ 20 สําหรับเลี้ยงปลานิลและปลาดุก เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ไมมีปลาหมัก ่ ผลการศึกษาพบวาปลาหมัก ่ แห้งในสูตรอาหาร มีผลต่อสมรรถนะการเจริญเติบโตของปลานิลไม่แตกต่างกนทางสถิติกับกลุ่มควบคุมในทุกระดับการใช้ (P>0.05) และปลานิลที่เลี้ยงด้วยอาหารสูตรปลาหมักแห้งทุกสูตรมีการเจริญเติบโตดีกวา่กลุ่มควบคุม ปลานิลที่เลี้ยงด้วยอาหารสูตรปลาหมักแห้งกรดฟอร์มิค จะให้ผลดีกวา่ ปลาหมักแห้งกรดซัลฟูริค การหมักร่วมกับเกลือหรือไม่หมักเกลือไม่มีผลทําให้สมรรถนะการเจริญเติบโตของปลาแตกต่างกนัและมีแนวโน้มวาสมรรถนะการเจริญเติบโตจะลดลงตามระดับ ่ การใช้ปลาหมักเกลือที่เพิ่มในอาหาร ผลการศึกษาในปลาดุกพบวาอาหาร ่ สูตรปลาหมักแห้งทุกสูตรไม่มีผลทําให้สมรรถนะการเจริญเติบโตของปลาแตกต่างกนทางสถิติ ั (P>0.05) กับกลุ่มควบคุมเช่นกน แต่อาหารสูตรปลาหมักแห้งกรดซัลฟูริคล้วนๆและสูตรหมักร่วมกบเกลือ ั มีแนวโน้มให้ผลดีกวาสูตรหมัก ่ ปลาหมักแห้งกรดฟอร์มิค ในทุกระดับการใช้และสูตรที่หมักด้วยกรดฟอร์มิคทุกระดับการใช้จะให้ผลด้อยกวา กลุ่มควบคุมผลการศึกษาในส่วนที่ 2 เป็นการศึกษาในฟาร์ม การใช้ปลาหมักแห้งสูตรกรดซัลฟูริค สูตรกรดฟอร์มิค และสูตรปลาหมักมันสําปะหลัง (เศษปลาหมักด้วยมันสําปะหลังในอัตราร้อยละ25โดยนํ้าหนัก)เป็นส่วนประกอบในสูตรอาหารในระดับร้อยละ 20 และ30 เปรียบเทียบกบอาหารสูตรควบคุมที่ไม่ผสมปลาหมักและอาหารสําเร็จรูปทางการค้า ทําการเลี้ยงทดสอบในปลานิลในสภาพการเลี้ยงในกระชัง และเลี้ยงทดสอบในปลาดุกในสภาพการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์เป็ นเวลา 8 สัปดาห์ผลการศึกษาในปลานิลพบวา่การใช้ปลาหมักในสูตรอาหารไม่มีผลทําให้สมรรถนะการเจริญเติบโตของปลานิลแตกต่างกนทางสถิติกับกลุ่มควบคุมหรืออาหารสําเร็จรูปทางการค้า (P>0.05)และมีแนวโน้มวาการใช้ปลาหมักใน ่ สูตรอาหารในระดับร้อยละ 30 ปลามีสมรรถนะการเจริญเติบโตดีกวาและมีผลผลิตรวมของกลุ่มสูงกวากลุ่มควบคุมและกลุ่มที่เลี้ยงด้วยอาหารสําเร็จรูปทางการค้า ผลการศึกษาในปลาดุกพบวาปลาดุกที่เลี้ยงด้วยอาหารปลาหมักทุกกลุ่มมีสมรรถนะการเจริญเติบโตตํ่ากวากลุ่มควบคุมแต่ไม่แตกต่างกีนทางสถิติ (P>0.05) การใช้ปลาหมักกรดซัลฟูริค และปลาหมักมันสําปะหลังในสูตรอาหารทั้งสองระดับให้ผลต่อสมรรถนะการเจริญเติบโตไม่แตกต่างกนั อยางไรก็ตามการใช้ปลาหมักกรดฟอร์มิกในสูตรอาหารที่ระดับการใช้ร้อยละ30 มีผลทําให้สมรรถนะการเจริญเติบโตของปลาดุกลดลงคุณภาพนํ้าระหวางการเลี้ยง (ค่าดีโอและพีเอช) พบวามีค่าลดลงตํ่ากวาระดับที่เหมาะสม ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของปลา ดัชนีราคา (relative cost index; RCI, %) แสดงให้เห็นว่า อาหารสูตรปลาหมักทุกสูตรมีราคาตํ่ากวาอาหารสูตรควบคุม ร้อยละ3ถึงร้อยละ4.92 และตํ่ากวาอาหาร ่ สําเร็จรูปทางการค้าตั้งแต่ร้อยละ 20.65 ถึงร้อยละ 22.35 ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า เศษปลา ซึ่งเป็นของเหลือทิ้งไม่ได้ใช้ประโยชน์สามารถนํามา ปรับปรุงใช้ประโยชน์ด้วยการหมัก และใช้ร่วมกับมันสําปะหลัง ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นมีราคา ถูก จะได้วัตถุดิบอาหารทางเลือกใหม่ ที่มีคุณค่าใกล้เคียงกบปลายข้าวและข้าวโพด ได้ ซึ่งเกษตรกร สามารถผลิตได้เอง อยางไรก็ตามควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในกรรมวิธีการหมัก การปรับสภาพปลาหมักก่อนการนําไปใช้เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพนํ้าที่เลี้ยง
บทคัดย่อ (EN): The development and use of fish waste as alternative raw material for fish feed production. Divided in to two parts: the first part was the production of fish silage from fish waste which marinated in acid, sulfuric acid or formic acid at a rate of 2.5 % (wet weight, W/W) and fermented with sodium salt at rate of 3 %(W/W) compared with no salt formula, cassava meal at 10% (W/W) was used as carbohydrate source for fermentation in all fish silages formula. It was found that within 7 days, all fish silage was suitable to be use as fish feed by observation of the scales, fins and bone skull head is soft. However, high humidity is between 65-70 percent, thus to improve the dry matters, the introduction of cassava meal was mixed in the ratio of 1 to1 (w/w) then sundry (2-3 days) and powdered before use were dried fish silage, which is protein content in the range of 5.1-8.6 %. The dried fish silage of each was formulated for tilapia (Oeiochromis niloticus) and catfish (Clarias acrocepphalus x C. gariepinus) diets in the 10 and 20 %. Feeding trials were compared with the control diet which without fish silage. The study indicated that the dried fish silage diets affected growth performance of tilapia did not differ statistically from the control diet at all level of use (P>0.05) and tilapia fed diets of dried fish silage showed a better growth performance group. Fish fed diets of fish silage dried formic acid showed more effective growth than fish silage dried sulfuric acid. Enhancing fermented with salt or no salt, showed no significant different effect (P>0.05) on growth performance of tilapia. The result in catfish, fish silage diets and the control diet showed no significant different (P>0.05) on growth performance. Catfish fed with sulfuric acid fish silage diets, with or without salt, showed tendency of better growth than catfish fed with the control diet, while catfish fed with formic acid silage diets showed lower growth in every levels. The second part of the study was concerned about using sulfuric acid fish silage, formic acid fish silage and cassava fish silage (fish waste fermented with 25 %cassava meal by weight) as feed ingredients formulated to fish formula diets at level 20 and 30 % compared to the control diet which without fish silage and compared to the commercial diet. The studies were in the fish farm, diets were fed to tilapia raised in cages placed on the fish pond and catfish raised in the cement ponds for 8 weeks. The results indicated that the use of fish silage in the diets was not effected growth performance of tilapia differ from the control and the commercial diet (P>0.05). It likely that the use of fish silage of 30% in diets showed better growth performance and had total yield of more than tilapia fed with the control and the commercial diet. The result found in the catfish study was using fish silage in diets depressed growth performance of catfish as compared to the control, but not statistically different (P>0.05). Using sulfuric acid fish silage or cassava fish silage at 20% and 30 % in catfish diets showed no significant different (P>0.05) on growth performance. However, the use of formic acid fish silage in diet resulted in a 30 % growth performance of fish decreased. Water quality detection, DO and pH value during studied periods, was lower than optimal level, which affected the growth of catfish. The relative cost index (RCI, %) of these study found that the price of fish silage diet is lower than the control diet from 3 to 4.92 %and below the commercial diet from 20.65 to22.35 %. In conclusion, fish waste fermented with acid and cassava meal can be improve by combined with cassava at ratio 1 to 1 can develop to be alternative feed ingredient for low cost fish diet. However, there should be more study of fish silage making and pretreatment fish silage before adoption and reducing the impact on the water quality.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คำสำคัญ: เกษตรกรรายย่อย
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

สนอง เทียบศรี. "โครงการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารปลาต้นทุนต่ำสำหรับเกษตรกรรายย่อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือThe Study and Development Low Cost of Fish Feed Technology for Small Farmers in the northeast". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2551

สนอง เทียบศรี. "โครงการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารปลาต้นทุนต่ำสำหรับเกษตรกรรายย่อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือThe Study and Development Low Cost of Fish Feed Technology for Small Farmers in the northeast". มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 2551. Print.



TARR Wordcloud:
โครงการศึกษาและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารปลาต้นทุนต่ำสำหรับเกษตรกรรายย่อยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สนอง เทียบศรี
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
30 กันยายน 2551
โครงการศึกษาและการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอาหารปลาหมอไทย โครงการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหอมแดงคุณภาพในภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โครงการวิจัยการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตหัวพันธุ์มันฝรั่ง การทดสอบเทคโนโลยีการผลิตหญ้ากินนีสีม่วงหมักในถุงพลาสติกสำหรับเกษตรกรรายย่อยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยอมรับเทคโนโลยีการผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกรรายย่อยในจังหวัดชุมพร การศึกษาวิธีการปรับปรุงพันธุ์ปลานิลของเกษตรกรรายย่อยใน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โครงการวิจัยการศึกษาการยอมรับเทคโนโลยีการผลิตพืชของเกษตรกรในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตผักหวานบ้านที่เหมาะสมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โครงการวิจัยทดสอบเทคโนโลยีการผลิตปาล์มน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน โครงการวิจัยการทดสอบเทคโนโลยีการผลิตพริกคุณภาพภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair