สืบค้นงานวิจัย
รายงานการวิจัยเรื่อง การป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเกษตรกรผู้ปลูกผักในจังหวัดเพชรบูรณ์
จินตนา สนามชัยสกุล - มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
ชื่อเรื่อง: รายงานการวิจัยเรื่อง การป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเกษตรกรผู้ปลูกผักในจังหวัดเพชรบูรณ์
ชื่อเรื่อง (EN): The Pest Control of the Vegetable Farmers in Phetchabun Province
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: จินตนา สนามชัยสกุล
บทคัดย่อ: จาการศึกษาวิธีการป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเกษตรกรผู้ปลูกผักในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการสุ่มตัวอย่างเกษตรกรจาก 4 อำเภอ ที่มีการปลูกผักเป็นการค้า คือ อำเภอเมือง อำเภอหล่มสัก อำเภอเขาค้อ และอำเภอหนองไผ่ รวมประชากรที่ให้ข้อมูลทั้งหมด 23.5 ราย เพื่อศึกาวิธีการป้องกันกำจัดโรคและแมลงที่เกษตรกรปฏิบัติและความต้องการความช่วยเหลือของเกษตรกร ผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้ 1. ข้อมูลทั่วไปของเกษตรกรที่ตอบแบบสัมภาษณ์ พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศชายร้อยละ 67.6 มีอายุอยู่ระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 37.9 อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองมากที่สุด ร้อยละ 40.9 มีการศึกษาต่ำจบระดับชั้นประถมศึกษาถึงร้อยละ 80.0 รายได้จากการปลูกผักน้อยเพียง 1,000-10,000 บาทต่อรุ่น พื้นที่ที่ใช้ปลูกผักส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของตนเอง พื้นที่ที่ใช้ปลูกผักอยู่ระหว่าง 1.1-3 ไร่ เกษตรกรนิยมปลูกผักตระกูลกะหล่ำมากที่สุด 2. กรรมวิธีการที่เกษตรกรใช้ในการป้องกันกำจัดแมลง ที่ทำกันเป็นประจำได้แก่ การตากดิน การใช้พันธุ์ต้านทาน ใช้สารฆ่าแมลงรองก้นหลุมและคลุกดิน วิธีการที่เกษตรกรไม่ปฏิบัติเลยได้แก่ การปลูกพืชหมุนเวียน การปลูกพืชผสมผสาน การใช้มือจับทำลาย การใช้กับดักกาวเหนียว การปลูกผักกางมุ้ง การใช้ไฟล่อ การใช้ตัวห้ำตัวเบียน การใช้เชื่อแบคทีเรีย การใช้เชื่อไวรัส การใช้สารสะกัดจากสะเดา การใช้สกัดจากใบยาสูบ การใช้น้ำหมัก EM และการใช้น้ำหมักจากพืชและสัตว์ 3. โรคและแมลงที่ระบาดทำความเสียหายในแปลงผักของเกษตรกร ที่เป็นปัญหาในระดับปานกลาง ได้แก่ หนอนใยผัก ด้วงหมัดผัก เพลี้ยอ่อน แมลงหวี่ขาว และโรคเน่าเละ 4. ปัญหาเกิดจากการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดโรคและแมลง พบปัญหาที่มีความรุนแรงมากที่สุดคือ เสียค่าใช้จ่ายในการป้องกันกำจัดสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 37.3 ปัญหาอื่นมีความรุนแรงในระดับปานกลางทั้งหมดได้แก่ โรคและแมลงระบาดมากขึ้น แมลงเกิดการดื้อยา เป็นอันตรายต่อสุขภาพและอานามัย ทำลายสิ่งแวดล้อมและพืชผักขายไม่ได้ราคา 5. ความต้องการความช่วยเหลือในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเกษตรกร พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ต้องการเงินกู้ยืมปลอดดอกเบี้ย รองลงมาคือ ต้องการสารกำจัดศัตรูพืชราคาถูกและต้องการฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องโรคแมลงและการป้องกันกำจัด 6. ความต้องการที่จะปลูกผักโดยไม่ใช้สารเคมี (ผักปลอดสาร) พบว่า เกษตรส่วนใหญ่ต้องการปลุกผักปลอดสารเคมี คิดเป็นร้อยละ 54.4 เหตุผลที่ต้องการคือ ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากสารเคมี และต้องการลดต้นทุนในการผลิต เพราะสารเคมีราคาแพง ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการให้เหตุผลว่า วิธีการป้องกันกำจัดวิธีอื่นๆ ยุ่งยากซับซ้อน ไม่มั่นใจว่าจะได้ผลหรือไม่ The study was conducted on how the Petchabun farmers control pests in vegetables. The sample were randomized from 4 districts : Muang, Lom Sak, khoq Khor, and Nong Phai. 235 farmers were interviewed and the findings were as follows: 1. General status of the farmers : Most farmers were males (67.6 per cent) with 31-40 years of age (37.9 per cent). Most farmers (40.9 per cent) lived in the area of Muang district. Most farmers (80.0 per cent) held primary education level. The income obtained from vegetable growing was only 1,000-10,000 bah per growing term. Most land used for growing vegetables belonged to the farmers themselves. The area used was 1.1-3 rai per a farmer. And they prefer growing craciferae. 2. Pest control : It was found that most farmers usually sun-dried the vegetable beds, user resistance varieties, put insecticide in the bed bottom, and mixed it with soil. The method that was never used was crop rotation, multiple crop, hand destruction, sticky trap, net-covering plantation, light trap, predator and parasite use, bacteria use, virus use, neem seed extract use, tobacco extract use, Effective Microorganism (EM) use, and plant and animal ferment use. 3. The pests destroying the vegetables, which were taken as the medium-level problem, included diamond-back moth, flea beetle, aphid, white fly, and soft rot. 4. The most serious problems caused b pesticide was the high cost of pest control (37.3 per cent). Other problems which were taken as a medium level. 5. For help needs in pest control, it was found that most farmers needed non-interest loan, cheap pest insecticide, and the training on how to control pests respectively. 6. For the need to grow vegetable without using pesticide, it was revealed that most farmers (54.4 per cent) wanted to grow free-pesticide vegetables. The reasons were that they did not need to take the risk with chemical substance and wanted to reduce the capital cost by avoiding using expensive pesticide. For those who want to remain the same method gave the reason that other methods to control pests were complicate and they were not certain if those methods were effective.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เอกสารแนบ: http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=35&RecId=3&obj_id=8
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
คำสำคัญ: การวิจัย
คำสำคัญ (EN): 632.9
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
รายละเอียด: จาการศึกษาวิธีการป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเกษตรกรผู้ปลูกผักในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยการสุ่มตัวอย่างเกษตรกรจาก 4 อำเภอ ที่มีการปลูกผักเป็นการค้า คือ อำเภอเมือง อำเภอหล่มสัก อำเภอเขาค้อ และอำเภอหนองไผ่ รวมประชากรที่ให้ข้อมูลทั้งหมด 23.5 ราย เพื่อศึกาวิธีการป้องกันกำจัดโรคและแมลงที่เกษตรกรปฏิบัติและความต้องการความช่วยเหลือของเกษตรกร ผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้ 1. ข้อมูลทั่วไปของเกษตรกรที่ตอบแบบสัมภาษณ์ พบว่า เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นเพศชายร้อยละ 67.6 มีอายุอยู่ระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 37.9 อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองมากที่สุด ร้อยละ 40.9 มีการศึกษาต่ำจบระดับชั้นประถมศึกษาถึงร้อยละ 80.0 รายได้จากการปลูกผักน้อยเพียง 1,000-10,000 บาทต่อรุ่น พื้นที่ที่ใช้ปลูกผักส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ของตนเอง พื้นที่ที่ใช้ปลูกผักอยู่ระหว่าง 1.1-3 ไร่ เกษตรกรนิยมปลูกผักตระกูลกะหล่ำมากที่สุด 2. กรรมวิธีการที่เกษตรกรใช้ในการป้องกันกำจัดแมลง ที่ทำกันเป็นประจำได้แก่ การตากดิน การใช้พันธุ์ต้านทาน ใช้สารฆ่าแมลงรองก้นหลุมและคลุกดิน วิธีการที่เกษตรกรไม่ปฏิบัติเลยได้แก่ การปลูกพืชหมุนเวียน การปลูกพืชผสมผสาน การใช้มือจับทำลาย การใช้กับดักกาวเหนียว การปลูกผักกางมุ้ง การใช้ไฟล่อ การใช้ตัวห้ำตัวเบียน การใช้เชื่อแบคทีเรีย การใช้เชื่อไวรัส การใช้สารสะกัดจากสะเดา การใช้สกัดจากใบยาสูบ การใช้น้ำหมัก EM และการใช้น้ำหมักจากพืชและสัตว์ 3. โรคและแมลงที่ระบาดทำความเสียหายในแปลงผักของเกษตรกร ที่เป็นปัญหาในระดับปานกลาง ได้แก่ หนอนใยผัก ด้วงหมัดผัก เพลี้ยอ่อน แมลงหวี่ขาว และโรคเน่าเละ 4. ปัญหาเกิดจากการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดโรคและแมลง พบปัญหาที่มีความรุนแรงมากที่สุดคือ เสียค่าใช้จ่ายในการป้องกันกำจัดสูงขึ้น คิดเป็นร้อยละ 37.3 ปัญหาอื่นมีความรุนแรงในระดับปานกลางทั้งหมดได้แก่ โรคและแมลงระบาดมากขึ้น แมลงเกิดการดื้อยา เป็นอันตรายต่อสุขภาพและอานามัย ทำลายสิ่งแวดล้อมและพืชผักขายไม่ได้ราคา 5. ความต้องการความช่วยเหลือในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเกษตรกร พบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ต้องการเงินกู้ยืมปลอดดอกเบี้ย รองลงมาคือ ต้องการสารกำจัดศัตรูพืชราคาถูกและต้องการฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องโรคแมลงและการป้องกันกำจัด 6. ความต้องการที่จะปลูกผักโดยไม่ใช้สารเคมี (ผักปลอดสาร) พบว่า เกษตรส่วนใหญ่ต้องการปลุกผักปลอดสารเคมี คิดเป็นร้อยละ 54.4 เหตุผลที่ต้องการคือ ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากสารเคมี และต้องการลดต้นทุนในการผลิต เพราะสารเคมีราคาแพง ส่วนผู้ที่ไม่ต้องการให้เหตุผลว่า วิธีการป้องกันกำจัดวิธีอื่นๆ ยุ่งยากซับซ้อน ไม่มั่นใจว่าจะได้ผลหรือไม่ The study was conducted on how the Petchabun farmers control pests in vegetables. The sample were randomized from 4 districts : Muang, Lom Sak, khoq Khor, and Nong Phai. 235 farmers were interviewed and the findings were as follows: 1. General status of the farmers : Most farmers were males (67.6 per cent) with 31-40 years of age (37.9 per cent). Most farmers (40.9 per cent) lived in the area of Muang district. Most farmers (80.0 per cent) held primary education level. The income obtained from vegetable growing was only 1,000-10,000 bah per growing term. Most land used for growing vegetables belonged to the farmers themselves. The area used was 1.1-3 rai per a farmer. And they prefer growing craciferae. 2. Pest control : It was found that most farmers usually sun-dried the vegetable beds, user resistance varieties, put insecticide in the bed bottom, and mixed it with soil. The method that was never used was crop rotation, multiple crop, hand destruction, sticky trap, net-covering plantation, light trap, predator and parasite use, bacteria use, virus use, neem seed extract use, tobacco extract use, Effective Microorganism (EM) use, and plant and animal ferment use. 3. The pests destroying the vegetables, which were taken as the medium-level problem, included diamond-back moth, flea beetle, aphid, white fly, and soft rot. 4. The most serious problems caused b pesticide was the high cost of pest control (37.3 per cent). Other problems which were taken as a medium level. 5. For help needs in pest control, it was found that most farmers needed non-interest loan, cheap pest insecticide, and the training on how to control pests respectively. 6. For the need to grow vegetable without using pesticide, it was revealed that most farmers (54.4 per cent) wanted to grow free-pesticide vegetables. The reasons were that they did not need to take the risk with chemical substance and wanted to reduce the capital cost by avoiding using expensive pesticide. For those who want to remain the same method gave the reason that other methods to control pests were complicate and they were not certain if those methods were effective.
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
รายงานการวิจัยเรื่อง การป้องกันกำจัดโรคและแมลงของเกษตรกรผู้ปลูกผักในจังหวัดเพชรบูรณ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
2543
รายงานการวิจัยเรื่อง การวิจัยและพัฒนาการผลิตพืชผักปลอดภัยสารพิษ การสำรวจแมลงศัตรูส้มและการป้องกันกำจัดในสถาบันวิจัยและฝึกอบรมการเกษตรลำปาง รายงานการวิจัยเรื่อง ฟักแม้ว (ซาโยเต้) เพื่อสุขภาพ พืชเศรษฐกิจอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ รายงานการวิจัยเรื่อง เทคนิคการเพิ่มผลผลิตว่านกระชายดำ รายงานการวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลิตภัณฑ์บะหมี่โดยใช้แป้งข้าวกล้องทดแทนแป้งสาลีบางส่วน รายงานการวิจัยเรื่อง อิทธิพลของน้ำสกัดชีวภาพต่อการเจริญเติบโตของผักกวางตุ้ง รายงานการวิจัยเรื่องการประเมินศักยภาพพืชพลังงาน 7 สายพันธุ์เพื่อการผลิตก๊าซชีวภาพ รายงานการวิจัยการเร่งกระบวนการแปรรูปน้ำปลา รายงานการวิจัยเรื่อง การศึกษาสำรวจพืชสมุนไพรในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี รายงานการวิจัยเรื่องการศึกษาส่วนประกอบทางเคมีของพืชสกุลสเทพฟาเนียบางชนิด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก