สืบค้นงานวิจัย
การพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากสัมโอพันธุ์ท่าข่อยตกเกรด
ขนิษฐา รุตรัตนมงคล - มหาวิทยาลัยนเรศวร
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากสัมโอพันธุ์ท่าข่อยตกเกรด
ชื่อเรื่อง (EN): Value added product development of Low Grade Tha Khoi pomelo fruits
บทคัดย่อ: โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อศึกษาวิเคราะห์และตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมี สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพต่างๆที่สำคัญของส้มโอพันธุ์ท่าข่อย และพัฒนากระบวนการแปรรูปส้มโอพันธุ์ท่าข่อยตกเกรดในรูปแบบต่างๆ โดยศึกษาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ได้แก่ ปริมาณวิตามินซี นารินจิน ฟีนอลิคทั้งหมด ฟลาโวนอยด์ และกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระ 3 วิธีคือ DPPH FRAP และ ABTS assay ของส่วนประกอบผลส้มโอสด ได้แก่ เปลือกนอก เปลือกใน เยื่อ และเนื้อส้มโอ และส้มโอแปรรูป ได้แก่ ส้มโอตัดแต่ง น้ำส้มโอและน้ำส้มโอผง จากการวิเคราะห์ส่วนต่างๆของผลส้มโอสด พบว่าในส่วนเยื่อของส้มโอมีปริมาณฟีนอลิคทั้งหมด (350.60 มิลลิกรัม GAE ต่อตัวอย่าง 100 กรัม) ปริมาณฟลาโวนอยด์ทั้งหมด (293.60 มิลลิกรัม QE ต่อตัวอย่าง 100 กรัม) ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี ABTS assay (3390.99 มิลลิกรัม TE ต่อตัวอย่าง 1 กรัม) และปริมาณนารินจิน (36.9 มิลลิกรัม ต่อตัวอย่าง 1 กรัม) สูงที่สุด ซึ่งปริมาณนารินจินจะพบเรียงตามลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ เยื่อ เปลือกใน เปลือกนอกและเนื้อส้มโอ อย่างไรก็ตามพบว่าเนื้อส้มโอมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดเมื่อวิเคราะห์ด้วยวิธี DPPH (ร้อยละ 83.42) และ FRAP assay (3693.01 มิลลิกรัม TE ต่อตัวอย่าง 1 กรัม) และในเนื้อส้มโอมีปริมาณวิตามินซีเท่ากับ 71.0 มิลลิกรัมต่อตัวอย่าง 100 กรัม จากการศึกษาผลของอุณหภูมิในการเก็บรักษาต่อการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางเคมีกายภาพ สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระของเนื้อส้มโอตัดแต่งโดยอุณหภูมิที่ใช้ในการเก็บได้แก่ 4 และ 35 องศาเซลเซียส พบว่าอุณหภูมิการเก็บรักษาของส้มโอตัดแต่งไม่มีผลต่อสมบัติทางเคมีกายภาพ (ความเป็นกรด-ด่าง ปริมาณกรดทั้งหมดและปริมาณของแข็งที่ละลายน้ำได้) ตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา 7 วัน เมื่อเก็บรักษาส้มโอตัดแต่งที่อุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียสทำให้ปริมาณวิตามินซี ปริมาณฟีนอลลิค ปริมาณฟลาโวนอยด์ และความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) และพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของปริมาณแบคทีเรียและยีสต์และรา การเก็บรักษาส้มโอตัดแต่งที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสช่วยรักษาปริมาณสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และชะลอการเสื่อมเสียของส้มโอจากเชื้อจุลินทรีย์ จากการศึกษาการผลิตน้ำส้มโอจากส้มโอที่มีความสุก 90 และ 100% โดยให้ความร้อนโดยกระบวนการพาสเจอร์ไรซ์ 2 แบบ ได้แก่ แบบอุณหภูมิต่ำเวลานาน (65 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาที) และแบบอุณหภูมิสูงเวลาสั้น (95 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 15 วินาที) จากนั้นบรรจุใส่ขวดพลาสติก ปิดผนึกและเก็บรักษาที่ 4 องศาเซลเซียส พบว่าการให้ความร้อนแบบอุณหภูมิต่ำเวลานาน สามารถรักษาปริมาณวิตามินซี และสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพได้ดีกว่าการให้ความร้อนสูงระยะเวลาสั้น และสามารถเก็บรักษาน้ำผลไม้ไว้ได้ประมาณ 10 วันเมื่อพิจารณาจากผลเชื้อจุลินทรีย์ (น้อยว่า 103 CFU/g) สำหรับการผลิตน้ำส้มโอผงโดยกระบวนการทำแห้งแบบพ่นฝอย โดยศึกษาอิทธิพลของอุณหภูมิขาเข้า (160 180 และ 200 องศาเซลเซียส) และปริมาณมอลโตเด็กตริน (ร้อยละ 5 8 และ 12) ต่อสมบัติทางเคมีกายภาพ และสมบัติทางเคมีของน้ำส้มโอผง พบว่าที่ อุณหภูมิการทำแห้งที่ 180 องศาเซลเซียสและมอลโตเด็กทริน ร้อยละ 8 เป็นสภาวะที่เหมาะสมที่สุดในการผลิตน้ำส้มโอผง เนื่องจากผงส้มโอที่ได้มีวิตามินซีมากที่สุด (37.261 มิลลิกรัมต่อตัวอย่าง 100 กรัม) มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี DPPH และ FRAP assay สูงสุด คือ 6.638 มิลลิกรัม TE ต่อตัวอย่าง 1 กรัม และ 16.319 มิลลิกรัม TE ต่อตัวอย่าง 1 กรัม ตามลำดับ และผงที่ได้มีกลิ่น รสชาติและการละลายได้ดี ผลสำเร็จของงานวิจัยนี้ก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากส้มโอพันธุ์ท่าข่อยตกเกรดเพื่อการเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์ในอนาคตได้ คำสำคัญ: ส้มโอพันธุ์ท่าข่อย, สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ, การเพิ่มมูลค่า, ส้มโอตัดแต่ง, น้ำส้มโอพาสเจอร์ไรซ์, น้ำส้มโอผง
บทคัดย่อ (EN): This project aimed at studying the chemical compositions and bioactive compounds in Tha Khoi pomelo fruit and developing the new food products from its low-grade fruits. Different parts of pomelo fruits were separated into flavedo (exocarp), albedo (mesocarp), endocarp and pulp, respectively and analyzed for ascorbic acid content, naringin content, total phenolic content, flavonoid contents and antioxidant capacity by radical scavenging assays (1,1 diphenyl- 1-picrylhydrazyl, DPPH; ferric reducing antioxidant power, FRAP; 2,2?-azino-bis-3-ethylbenzthiazoline-6-sulphonic acid, ABTS). The results indicated that endocarp contained highest total phenolic content (350.60 mg GAE/100g), flavonoids content (293.60 mg QE/100g), and antioxidant activity by ABTS assay (3390.99 mg TE/g) and naringin content (36.9 mg/g). Naringin content was found highest in endocarp (36.97mg/g DW) followed by albedo (23.06 mg/g DW), flavedo (5.89 mg/g DW), and pulp (4.43 mg/g DW), respectively. However pomelo pulp possessed highest antioxidant activities as measured by DPPH (83.42%) and FRAP (3693.01 ?mol TE/g DW) assays. Ascorbic acid content in the pomelo juice was measured and reported as 71.0 mg/100g. The effect of storage temperature (4 and 35 ?C) on physico-chemical properties and antioxidant activities of fresh-cut pomelo was studied. The results indicated that storage temperature did not affect the physico-chemical properties (pH, total acidity, total soluble solid) of the fresh-cut pomelo fruit over 7 days storage. However, the significant reduction (p < 0.05) of ascorbic acid, total phenolic, flavonoid contents and antioxidant activities at 35 ?C storage with an increase in total plate count, yeast and mold was observed. Fresh cut pomelo stored at 4 ?C contained higher bioactive compound contents and had longer shelf life. Manufacturing of pomelo juice from 90 and 100% maturity pomelo fruits was also studied. Two different pasteurization methods (low temperature long time and high temperature short time) were investigated during storage at 4 ?C. The results showed that low temperature short time could preserve more ascorbic acid and bioactive compounds in juice than at high temperature long time and the juice could be stored for over 10 days without microbial contamination. Pomelo juice powder was produced using spray drying technique at various inlet temperatures (160, 180 and 200 ?C) and maltodextrin levels (5, 8 and 12%). The optimal inlet temperature and maltodextrin level was found to be 180 ?C and 8%, respectively, due to its highest ascorbic content (37.261 mg/100 g) and antioxidant activities by DPPH (6.638 mg TE/g) and FRAP (16.319 mg TE/g) assay. The pomelo juice powder maintained its pomelo juice flavor, taste and high solubility. The outcome of this project will lead to the value addtion of low grade Tha Khoi pomelo fruit as the commercial food products in the future. Keyword. Tha Khoi pomelo fruit, Bioactive compounds, Value added, Fresh-cut pomelo, Pasteurized pomelo juice, Pomelo juice powder
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยนเรศวร
คำสำคัญ: ผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากสัมโอพันธุ์ท่าข่อยตกเกรด
มหาวิทยาลัยนเรศวร
30 กันยายน 2558
การยอมรับการดำเนินโครงการส่งเสริมการจัดการศัตรูส้มโอพันธุ์ท่าข่อยแบบผสมผสานของเกษตรกรจังหวัดพิจิตร การวิจัยและพัฒนากั้งตั๊กแตนเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การพัฒนาข้าวก่ำล้านนาสู่อุตสาหกรรม - การพัฒนาวิธีการสกัดแยกสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากข้าวก่ำ, และการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากข้าวก่ำล้านนาสู่อุตสาหกรรม (ต่อเนื่องปีที่ 2) การสร้างมูลค่าเพิ่มจากการเลี้ยงปลาหมอร่วมกับปลานิล การสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อาหารจากปลาตะเพียน การแสดงออกของพันธุ์และสายพันธุ์ถั่วฝักยาวในการปลูกแบบอินทรีย์และแบบใช้สารเคมี การสร้างมูลค่าเพิ่มลำไยตกเกรด การพัฒนาข้าวก่ำล้านนาสู่อุตสาหกรรม : การพัฒนาวิธีการสกัดแยกสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากข้าวก่ำ, และการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากข้าวก่ำล้านนาสู่อุตสาหกรรม การพัฒนาข้าวก่ำล้านนาสู่อุตสาหกรรม - การพัฒนาวิธีการสกัดแยกสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากข้าวก่ำ, และการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากข้าวก่ำล้านนาสู่อุตสาหกรรม การพัฒนาข้าวก่ำล้านนาสู่อุตสาหกรรม : การพัฒนาวิธีการสกัดแยกสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากข้าวก่ำ, และการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มจากข้าวก่ำล้านนาสู่อุตสาหกรรม
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก