สืบค้นงานวิจัย
การจัดการปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตมะละกอฮอลแลนด์ในดินทราย
ฎานุภา อยู่อุ่นพะเนา - กรมพัฒนาที่ดิน
ชื่อเรื่อง: การจัดการปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตมะละกอฮอลแลนด์ในดินทราย
ชื่อเรื่อง (EN): Management of compost and biofertilizer mixing to Liquid organic fertilizer to yield of papaya (Holland cultivar ) in sandy soil
บทคัดย่อ: การจัดการปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตมะละกอฮอลแลนด์ในดินทราย ดำเนินการในพื้นที่ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบครีขันธ์ ในปี พ.ศ. 2556 – 2558 พิกัด 48 P 0198484 E/1652385 N มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกวิธีการจัดการที่เหมาะสมในแต่ละกล่มชุดดิน(great group) เพื่อเพิ่มผลผลิตมะละกอ ศึกษาสัดส่วนการแสดงเพศของต้นมะละกอจากการใช้น้ำหมักชีวภาพ และผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD จำนวน 3 ซ้ำ จำนวน 8 ตำรับ ดังนี้ ตำรับที่ 1 แปลงควบคุม ตำรับที่ 2 ปุ๋ยเคมีอัตราตามคำแนะนำ ตำรับที่ 3 ปุ๋ยชีวภาพ อัตรา 5 กิโลกรัมต่อหลุม พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ ตำรับที่ 4 ปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 20 กิโลกรัมต่อหลุม พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ ตำรับที่ 5 ปุ๋ยชีวภาพ อัตรา 5 กิโลกรัมต่อหลุม ร่วมกับอัตราตามคำแนะนำ พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ ตำรับที่ 6 ปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 20 กิโลกรัมต่อหลุม ร่วมกับปุ๋ยอัตราตามคำแนะนำ พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ ตำรับที่ 7 ปุ๋ยชีวภาพ อัตรา 5 กิโลกรัมต่อหลุม ร่วมกับ 1/2 ปุ๋ยเคมีอัตราตามคำแนะนำ พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ และตำรับที่ 8 ปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 20 กิโลกรัมต่อหลุม ร่วมกับ 1/2 ปุ๋ยเคมีอัตราตามคำแนะนำ พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ โดยได้วิเคราะห์ดินก่อนการทดลองได้มีการวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของดินพบว่า ความเป็นกรดเป็นด่างเท่ากับ 7.10 อินทรียวัตถุ 0.64 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ แคลเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ และแมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 8.60 74.00 816 และ 131 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ตามลำดับ และหลังการทดลองได้มีการวิเคราะห์สมบัติทางเคมีของดิน จากการทดลองพบว่า ทุกตำรับการทดลองไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ซึ่งแนวโน้มจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี พร้มอฉีดน้ำหมักชีวภาพจะมีปริมาณธาตุอาหารมากที่สุด ซึ่งมีอินทรียวัตถุ เท่ากับ 2.80 – 3.52 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ เท่ากับ 1942 – 2001.20 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 234.67 – 295.67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แคลเซียมที่แลกเปลี่ยน เท่ากับ 3131 - 3488 แมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยน เท่ากับ 573 – 690 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งมีปริมาณสูงกว่าการใช้ปุ๋ยชีวภาพ ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ ทั้งนี้เนื่องจากมีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีปริมาณมาก การสะสมธาตุอาหารในดินจึงมีปริมาณสูงกว่าการใช้ปุ๋ยชีวภาพในดินหลังการทดลอง ซึ่งมีอินทรียวัตถุ เท่ากับ 0.93 – 1.17 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ เท่ากับ 321.00 – 658.70 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 132.33 – 178.33 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แคลเซียมที่แลกเปลี่ยน เท่ากับ 1140.70 – 1609.30 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยน เท่ากับ 275.70 – 396.70 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เปรียบเทียบกับการใช้ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียว มีอินทรียวัตถุ เท่ากับ 0.66 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ เท่ากับ 139.90 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ เท่ากับ 125.67 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แคลเซียมที่แลกเปลี่ยน เท่ากับ 1824 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยน เท่ากับ 344 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่เนื่องจากการทดลองได้วิเคราะห์ใบมะละกอก่อนการเก็บเกี่ยว ปรากฏว่า การนำธาตุอาหารพืชไปใช้ในการเจริญเติบโตไม่แตกต่างกัน และจากการศึกษาการจัดการดินในการเพิ่มการเจริญเติบโตและผลผลิตจากการทดลอง พบว่า การเจริญเติบโตและผลผลิตของมะละกอ ในตำรับที่ 5 การใช้ปุ๋ยชีวภาพ อัตรา 5 กิโลกรัมต่อหลุม ร่วมกับปุ๋ยเคมีอัตราตามคำแนะนำ พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ มีผลผลิตต่อไร่มากที่สุด เท่ากับ 5,079 กิโลกรัมต่อไร่ และให้ผลตอบแทนทางทางเศรษฐกิจดีที่สุดในทุกตำรับทดลอง เท่ากับ 52,629 บาทต่อไร่ ทั้งนี้เนื่องจากปุ๋ยชีวภาพมีประสิทธิภาพในการปลดปล่อยธาตุอาหารได้ จึงเป็นผลให้ผลผลิตมากกว่าตำรับการทดลองที่ 6 การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ อัตรา 20 กิโลกรัมต่อหลุม ร่วมกับปุ๋ยเคมีอัตราตามคำแนะนำ พร้อมฉีดน้ำหมักชีวภาพ มีผลผลิตต่อไร่ เท่ากับ 4,541 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับสัดส่วนการแสดงเพศของดอกมะละกอ ซึ่งมะละกอยังเป็นดอกที่มีกะเทยทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการศึกษายังมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากกว่าหนึ่งปัจจัย ทั้งทางด้านพันธุกรรมและการจัดการดิน ดังนั้น จึงควรมีการทดสอบเฉพาะการใช้น้ำหมักชีวภาพเท่านั้น
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: กรมพัฒนาที่ดิน
คำสำคัญ: เอทิลีน
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การจัดการปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยชีวภาพร่วมกับน้ำหมักชีวภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตมะละกอฮอลแลนด์ในดินทราย
กรมพัฒนาที่ดิน
30 กันยายน 2558
การศึกษาวิธีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากเศษวัสดุอินทรีย์ที่ได้จากการตัดแต่งกิ่งไม้ การผลิตน้ำหมักชีวภาพจากใบหญ้าแฝก การเพิ่มผลผลิตข้าวนาหว่านน้ำตมภายใต้การจัดการปุ๋ยในชุดดินพัทลุง การจัดการดินพื้นที่นากุ้งร้าง ด้วยปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงสูตรไนโตรเจน ฟอสฟอรัสร่วมกับปุ๋ยชีวภาพ พด.12 และน้ำหมักชีวภาพซุปเปอร์พด.2 เพื่อเพิ่มผลผลิตของปาล์มน้ำมัน ผลของชนิดน้ำหมักชีวภาพที่มีต่อผลผลิต และคุณภาพของชา ในกลุ่มชุดดินที่ 29 อัตราปุ๋ยอินทรีย์ที่เหมาะสมต่อการให้ผลผลิตของผักกาดหอม อิทธิพลของปุ๋ยอินทรีย์ที่มีผลต่อผลผลิตแตงขาวหนามดำ ผลของปุ๋ยชีวภาพร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์ ต่อการเจริญเติบโต และผลผลิตข้าวขาวดอกมะลิ 105 ในพื้นที่ดินเค็ม การจัดการดินเค็มด้วยปุ๋ยชีวภาพร่วมกับเพอร์ไลต์ในการส่งเสริมกิจกรรมของจุลินทรีย์ เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตข้าวโพด ศึกษาอัตราปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มผลผลิตผักและความอุดมสมบูรณ์ของดิน จังหวัดปทุมธานี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก