สืบค้นงานวิจัย
การออกแบบที่เหมาะสมสำหรับระบบรางน้ำเพาะปลูกสาหร่ายขนาดใหญ่
กวิสรา สมเพชร - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การออกแบบที่เหมาะสมสำหรับระบบรางน้ำเพาะปลูกสาหร่ายขนาดใหญ่
ชื่อเรื่อง (EN): Optimal Design of Large Raceway Culture Systems for Microalgae
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: กวิสรา สมเพชร
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Kawisra Sompech
บทคัดย่อ: บ่อรางน้ำ เป็นระบบที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดสำหรับการเพาะปลูกสาหร่ายภายนอกอาคาร อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการดำเนินงานที่ใส่เข้าไปในระบบนั้น ขึ้นอยู่กับระบบการผสมรวมทั้งการออกแบบรูปร่างของ บ่อรางน้ำ นอกจากนี้บริเวณที่มีความเร็วต่ำเป็นบริเวณที่มีความไวต่อการตกตะกอนของสาหร่ายและ ส่งผลให้สาหร่ายตายในที่สุด งานวิจัยนี้ได้ศึกษาการออกแบบบ่อรางน้ำขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อการบริโภค พลังงานในระบบและส่งผลต่อขนาดของบริเวณที่มีความเร็วต่ำ โดยสร้างแบบจำลองการไหลแบบสอง สถานะ (ของแข็ง-ของหลว) โดยใช้วิธีเคราะห์พลศาสตร์ของไหลโดยคอมพิวเตอร์มาแสดงรูปแบบการ ไหลของน้ำทะเลและตำแหน่งของบริเวณที่มีความเร็วต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่มีการเลี้ยวกลับของ บ่อรางน้ำการออกแบบจำลองที่ถูกนำมาศึกษาในงานวิจัยนี้ได้แก่ แบบจำลองผนังกั้นกลาง และ แบบจำลองของชุดแผ่นกั้นที่ปลายบ่อสองด้าน แบบจำลองสองแบบนี้จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับ แบบจำลองทั่วไปของรางน้ำ ซึ่งงานวิจัยนี้กำหนดให้ขนาดพื้นที่ของบ่อรางน้ำขนาดพื้นผิวเท่ากับ 0.5 เฮคเตอร์ (5,000 ตารางเมตร) โดยยึดความกว้างของบ่อที่ 8 เมตร และความสูงที่ 0.3 เมตร งานวิจัยนี้ได้นำ คุณสมบัติทางกายภาพของสาหร่ายเกลียวทองมาใช้ในการวิเคราะห์ และกำหนดอุณหภูมิเพาะปลูกที่ 20 องศาเซลเซียสน้ำทะเล ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าความเร็วรอบขอบใบพัดส่งผลกระทบโดยตรงต่อ ความเร็วในการไหลของน้ำทะเลในทุกกรณี อย่างไรก็ดีแบบจำลองทุกรูปแบบในงานวิจัยนี้จะถูก เปรียบเทียบที่ความเร็วเฉลี่ยของน้ำทะเลที่ค่าเท่ากัน ผลการศึกษาพบว่า แบบจำลองผนังกั้นกลางสามารถ กำจัดการไหลปั่นป่วนที่มักเกิดขึ้นที่ด้านหลังของผนังกั้นกลางได้ แต่จะยังคงพบบริเวณที่มีความเร็วต่ำใน ส่วนโค้งนอกของบริเวณที่มีการเลี้ยว ในขณะที่แบบจำลองแผ่นกั้นที่ปลายบ่อสองด้านได้ถูกศึกษาในเรื่อง ของจำนวนแผ่นกั้นที่ใส่เข้าระบบ (มากที่สุดสามแผ่น) และพบว่าการใช้ชุดแผ่นให้ผลดีที่สุด ในเรื่องของการใช้พลังงานและการลดบริเวณที่มีความเร็วต่ำ ดังนั้นแบบจำลองชุดแผ่นนี้จึงถูก เสนอเป็นแนวความคิดหลักเพื่อพัมนาเป็นแบบจำลองใหม่ สำหรับแบบจำลองใหม่เมื่อนำไปเปรีบยเทียบ กับรูปแบบทั่วไปของบ่อรางน้ำที่ความเร็วเฉลี่ยของน้ำเท่ากับ 0.14 เมตรต่อวินาที พบว่าแบบจำลอง ปรับแต่งสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ราว 18.4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันก็สามารถกำจัดบริเวณที่มี ความเร็วต่ำที่บริเวณเลี้ยวโค้งได้ทั้งหมด
บทคัดย่อ (EN): Raceway pond is one type of open-pond systems which has become the most popular for outdoor algal production. However, the cost of pond operation depends not only on the mixing system but also the raceway pond design. The dead zone is the sensible area causing algae cell to settle and die. This research focuses on the design of a large raceway pond concerning the energy consumption and the size of dead spot area. The two-phase model (solid-liquid) is studied by computational fluid dynamics in order to visualize the flow pattern of seawater and to allocate the position of dead spot in the returned bends of raceway. The proposed design models are the central baffle model and flow deflector baffles. These two models are compared with the standard model of raceway. This studied raceway pond has a total surface area of 0.5 hectare (5000 m2) with fixed 8 meters width and 0.3 meters height. This system applies physical properties of Spirulina platensis at 20 C of seawater temperature. The simulation results show that the rotational speed of a paddle wheel directly affects the seawaterflow velocity. All of model in this research are then compared at the same velocity. As a result, the central baffle model can eliminate the vortex flow which regularly occurs behind the central baffle but still has the dead zone at the outer bend. The deflector baffle in series are studied in a number of baffles added (three is maximum). In addition, the three deflector baffles provide the optimum operating condition in terms of the energy consumption and the dead zone area reduction. Therefore, this model is proposed as the main concept to develop a new configuration. With the new model, the comparison to the standard configuration at the average velocity of 0.14 m-s-'1, showed that this model can reduce the energy requirement by about 18.4% and also eliminate all of the dead area at bends.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ (EN): Algae cultivation
เจ้าของลิขสิทธิ์: โครงการพัฒนาเครือข่ายระบบห้องสมุดในประเทศไทย
รายละเอียด: บ่อรางน้ำ เป็นระบบที่ถูกนำมาใช้มากที่สุดสำหรับการเพาะปลูกสาหร่ายภายนอกอาคาร อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการดำเนินงานที่ใส่เข้าไปในระบบนั้น ขึ้นอยู่กับระบบการผสมรวมทั้งการออกแบบรูปร่างของ บ่อรางน้ำ นอกจากนี้บริเวณที่มีความเร็วต่ำเป็นบริเวณที่มีความไวต่อการตกตะกอนของสาหร่ายและ ส่งผลให้สาหร่ายตายในที่สุด งานวิจัยนี้ได้ศึกษาการออกแบบบ่อรางน้ำขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อการบริโภค พลังงานในระบบและส่งผลต่อขนาดของบริเวณที่มีความเร็วต่ำ โดยสร้างแบบจำลองการไหลแบบสอง สถานะ (ของแข็ง-ของหลว) โดยใช้วิธีเคราะห์พลศาสตร์ของไหลโดยคอมพิวเตอร์มาแสดงรูปแบบการ ไหลของน้ำทะเลและตำแหน่งของบริเวณที่มีความเร็วต่ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณที่มีการเลี้ยวกลับของ บ่อรางน้ำการออกแบบจำลองที่ถูกนำมาศึกษาในงานวิจัยนี้ได้แก่ แบบจำลองผนังกั้นกลาง และ แบบจำลองของชุดแผ่นกั้นที่ปลายบ่อสองด้าน แบบจำลองสองแบบนี้จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับ แบบจำลองทั่วไปของรางน้ำ ซึ่งงานวิจัยนี้กำหนดให้ขนาดพื้นที่ของบ่อรางน้ำขนาดพื้นผิวเท่ากับ 0.5 เฮคเตอร์ (5,000 ตารางเมตร) โดยยึดความกว้างของบ่อที่ 8 เมตร และความสูงที่ 0.3 เมตร งานวิจัยนี้ได้นำ คุณสมบัติทางกายภาพของสาหร่ายเกลียวทองมาใช้ในการวิเคราะห์ และกำหนดอุณหภูมิเพาะปลูกที่ 20 องศาเซลเซียสน้ำทะเล ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าความเร็วรอบขอบใบพัดส่งผลกระทบโดยตรงต่อ ความเร็วในการไหลของน้ำทะเลในทุกกรณี อย่างไรก็ดีแบบจำลองทุกรูปแบบในงานวิจัยนี้จะถูก เปรียบเทียบที่ความเร็วเฉลี่ยของน้ำทะเลที่ค่าเท่ากัน ผลการศึกษาพบว่า แบบจำลองผนังกั้นกลางสามารถ กำจัดการไหลปั่นป่วนที่มักเกิดขึ้นที่ด้านหลังของผนังกั้นกลางได้ แต่จะยังคงพบบริเวณที่มีความเร็วต่ำใน ส่วนโค้งนอกของบริเวณที่มีการเลี้ยว ในขณะที่แบบจำลองแผ่นกั้นที่ปลายบ่อสองด้านได้ถูกศึกษาในเรื่อง ของจำนวนแผ่นกั้นที่ใส่เข้าระบบ (มากที่สุดสามแผ่น) และพบว่าการใช้ชุดแผ่นให้ผลดีที่สุด ในเรื่องของการใช้พลังงานและการลดบริเวณที่มีความเร็วต่ำ ดังนั้นแบบจำลองชุดแผ่นนี้จึงถูก เสนอเป็นแนวความคิดหลักเพื่อพัมนาเป็นแบบจำลองใหม่ สำหรับแบบจำลองใหม่เมื่อนำไปเปรีบยเทียบ กับรูปแบบทั่วไปของบ่อรางน้ำที่ความเร็วเฉลี่ยของน้ำเท่ากับ 0.14 เมตรต่อวินาที พบว่าแบบจำลอง ปรับแต่งสามารถลดการใช้พลังงานลงได้ราว 18.4 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันก็สามารถกำจัดบริเวณที่มี ความเร็วต่ำที่บริเวณเลี้ยวโค้งได้ทั้งหมด
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การออกแบบที่เหมาะสมสำหรับระบบรางน้ำเพาะปลูกสาหร่ายขนาดใหญ่
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2554
การใช้สาหร่ายทะเลบำบัดคุณภาพน้ำในระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การติดตามประสิทธิภาพของระบบบำบัดน้ำเสียแบบ Upflow Anaerobic Sludge Blanket ขนาดใหญ่ในโรงงานอาหารทะเลแช่แข็ง ช่วงการเริ่มต้นเดินระบบ การผลิตน้ำมันชีวภาพจากสาหร่ายขนาดเล็กด้วยระบบน้ำเขียว การพัฒนาสูตรอาหารที่เหมาะสมสำหรับการเพาะเลี้ยงกลุ่มประชากรสาหร่ายขนาดเล็กเพื่อผลิตน้ำมันชีวภาพ สภาวะที่เหมาะสมสำหรับการผลิตไบโอมีเทนโดยการดูดซึมด้วยน้ำ การประเมินหาพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการตั้งระบบบำบัดน้ำเสียรวมเพื่อการผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์จากฟาร์มสุกรและน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมอาหารขนาดกลางและเล็กในจังหวัดนครปฐม ความหลากหลายของสาหร่ายขนาดใหญ่ ไดอะตอมพื้นท้องน้ำและความสัมพันธ์กับสารอาหารในแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน การคำนวณต้นทุนการผลิตด้วยระบบต้นทุนฐานกิจกรรมสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กรณีศึกษาโรงงานการผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวขนาดย่อม การออกแบบระบบระบายน้ำในท้องถิ่น การประเมินความยั่งยืนของระบบการชลประทานแบบปล่อยน้ำบนผิวดินและแบบน้ำหยดสำหรับการปลูกกล้วยในเขตแห้งแล้งของประเทศศรีลังกา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก