สืบค้นงานวิจัย
ข้าวนาบุญและนาทองเพื่อพัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและความสงบสุขชายแดนไทย-กัมพูชา
อัจฉรา ภานุรัตน์ - มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ชื่อเรื่อง: ข้าวนาบุญและนาทองเพื่อพัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและความสงบสุขชายแดนไทย-กัมพูชา
ชื่อเรื่อง (EN): Merit Farm and Golden Farm Rice for Education Economic Environmentsand Peace to Development in Thailand and Cambodia Boundary
บทคัดย่อ: บทคัดย่อ ประเทศไทยตั้งอยู่บนพื้นที่ทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศเพื่อนบ้านล้อมรอบหลายประเทศ จึงมีปัญหาบริเวณชายแดนหลายประการ ซึ่งการแก้ปัญหาและพัฒนาบริเวณชายแดนมักถูกแก้ไขที่ปลายเหตุ การวิจัยครั้งนี้จึงค้นหาสาเหตุและรากเหง้าของชุมชน 2 ประเทศ แล้วสร้างอัตลักษณ์ร่วมเพื่อให้ชนชาติทั้งสองเข้าใจลุเห็นความสำคัญที่จะขับเคลื่อนนิเวศวิทยาวัฒนธรรมเพื่อสันติภาพ โดยพิจารณาผ่านการศึกษา เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม การศึกษาครั้งนี้เลือกศึกษาแนวชายแดนไทยกัมพูชาที่มีทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นกั้นเขตแดน การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิทยาการวิจัยเชิงคุณภาพแนวชาติพันธุ์วรรณนา ใช้ “ต้นไม้การศึกษา” ซึ่งเปรียบเสมือนรากแก้วคือศาสนา รากแขนงและรากฝอยคือวัฒนธรรม ลำต้นคือท่อลำเลียงธาตุอาหารเสมือนธาตุรู้หรือกระบวนการศึกษา ใบดอกผลและเมล็ดคือเศรษฐกิจที่สัมพันธ์กับสันติภาพ ส่วนการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นใช้การสังเกตแบบมีส่วนร่วม สัมภาษณ์เชิงลึกเพื่อค้นหารหัสลับภูมิปัญญาที่ปรากฏเป็นรูปธรรมในนิเวศวิทยาวัฒนธรรมนาข้าวของไทยและกัมพูชา มีบุคคลซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลหลักฝ่ายปกครอง พระภิกษุและฆราวาสทั้งคนไทยและกัมพูชา 60 คน ผลการวิจัยค้นพบว่า การสร้างนัยสำคัญ “ข้าวนาทอง สู่นาบุญ” พร้อมกับการพัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ และสันติภาพตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ควรจัดกิจกรรมตอกย้ำและฟื้นฟูนิเวศวิทยาวัฒนธรรมต่อไปนี้ 1. ส่งเสริมให้ชาวนาอีสานใต้ ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวระราชดำริพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 เพื่อฟื้นฟูหัวเชื้ออินทรีย์ดินและน้ำ 2. วัดและโรงเรียนฟื้นฟูบุญประเพณีสิบสองเดือนให้เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนและผู้ปกครอง โดยสร้างความหมายข้าวนาทองและนาบุญเป็นสำคัญ 3. ชุมชนในอีสานใต้ ร่วมกันคัดสรรกิจกรรมพุทธศาสนา โดยให้ความหมายผ้าไตรจีวรแทนสัญลักษณ์คันนาและนิเวศวิทยาวัฒนธรรมข้าว ที่เอื้อประโยชน์ต่อการผลิต แรงงานการแจกจำหน่าย การลำเลียง และทุนมนุษย์ อันอาจเรียกรวมว่าพุทธเศรษฐกิจ 4. ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ “วงจรอาหาร” ข้างนาทองสู่นาบุญและความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มชนบนที่ราบสูง (ชาวบก) และกลุ่มชนชาวน้ำหรือที่ราบต่ำในประเทศไทยและกัมพูชา เพื่อการสร้างสันติภาพตามแนวชายแดน 5. เชื่อมโยงอุตสาหกรรมบริการท่องเที่ยวให้สัมพันธ์กับบุญประเพณี 12 เดือนที่มีข้าวทองและข้าวบุญเป็นนัยสำคัญทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ 6. พัฒนาครอบครัว วัดและโรงเรียน ด้วนการสร้างความรู้ความเข้าใจนิเวศวิทยาศาสนา เรื่องข้าวและความเป็นเนื้อนาบุญ เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมร่วมกัน และแลกเปลี่ยนภูมิปัญญาเทคโนโลยีข้าวนาอุดม นาทอง และนาบุญ 7. จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิเทคโนโลยีข้าวนาทองสู่นาบุญ ระหว่างชาวนาที่ราบสูงอีสานใต้กับชาวนาที่ราบต่ำหรือชาวน้ำในกัมพูชา 8. อัตลักษณ์เรื่อง”ข้าวและนา” บนอาณาบริเวณเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย กัมพูชา คือรหัสยุทธศาสตร์การพัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสันติสุขตามแนวชายแดน 9. ผลลัพธ์ของการวิจัยครั้งนี้ อาจนำไปพัฒนาอ่างเป็นรูปธรรมและจัดทำเป็นแผนยุทธศาสตร์มานุษยวิทยาวัฒนธรรมเพื่อความมั่นคงของชนชาติต่อไป ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยครั้งต่อไป ควรใช้แนวทางหรือฐานคติบางส่วนจากงานวิจัยนี้ ไปศึกษาแนวชายแดนประเทศไทยกับประเทศอื่นต่อไป คำสำคัญ : ข้าว นาข้าว ต้นไม้แห่งการศึกษา เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สันติสุข อีสานใต้ประเทศไทย ตอนเหนือกัมพูชา ชายแดนบริเวณพนมดงรัก
บทคัดย่อ (EN): Keywords: Rice, Rice Field, Educational Tree, Economy, Environment, Peace, Northeastern Thailand, Northern Cambodia, Border along Phnom Dongrek Mountain Range Thailand located in Southeast Asia continent is surrounded by many neighboring countries; then, there are many problems along these borders. The solutions and developments along the borders have been generally processed at the end of scene. This research aimed to investigate the causes and origins of communities in 2 countries, and to create the combined identity for leading 2 nationalities understanding and foreseeing the importance in order to drive cultural ecology to peace. These were considered via education, economy and environment. This research studied Thai and Cambodian border, which has Phnom Dongrek Mountain Range as borderline. This research used the qualitative methodology as Ethnographic research, comparative using the figure called “Educational Tree”. Taproot, branch or fibrous root, stem, and leaf, flower, fruit and seed are compared as religion, culture, educational process, and economy relating to peace, respectively. Data was collected from participatory observation and in-depth interview for searching the wisdom cryptography (secret code) that is the entity in cultural ecology of Thai and Cambodia rice. There were totally 60 Thai and Cambodian informants who are administrative officers, monks and villagers. The research found that the creation of significance called “Nathong Rice to Naboon (Merit Content)” accompanied by educational, economic and peaceful development along Thai and Cambodia border should be processed by creating the emphasizing andrestoring activities of cultural ecology as the followings. 1. There should be the promotion of New Theory Agriculture of the King Rama 9 of Thailand to famers in the South of Northeastern Thailand in order to restore the organic leavening agent for soil and water. 2. Temples and schools should restore “The 12 Month Merit Tradition” to the learning activities of students and parents in order to create the important meanings of Nathong Rice and Naboon Rice. 3. Communities in the South of Northeastern Thailand should corporate to select Buddhism activities using the three clothes of Buddhist monk referred as the symbol of rice ridge and rice cultural ecology for supporting the production, workforce for selling, transportation, and human capital, that should be called Buddhism Economy. 4. There should be the promotion of knowledge and understanding of “Food Cycle” of Nathong Rice to Naboon and of relationship between the people groupon plateau (land people) and the people on lowland (water people) in Thailand and Cambodia for creating the peace along the border. 5. There should be the linkage of tourism industries conforming to the 12 month merit tradition that there are Nathong Rice and Naboon Rice as significance of economic restoring. 6. There should be the development of family, temple and school with the creation of knowledge and understanding of Religious Ecology about rice and merit content accomplishment for associatively environmental preservation and wisdom exchange of plentiful rice technology for Nathong Rice and Naboon. 7. There should be the creation of knowledge exchange activities about rice technology from Nathong Rice to Naboon among farmers on plateau in the South of Northeastern Thailand and on lowland in Cambodia. 8. The identity named “Rice and Field” on Phnom Dongrek Mountain Range area as Thai and Cambodian border is the cryptography of strategies for educational, economic, environmental and peaceful development along the border. 9. These research results would lead to develop as entity and create a strategic plan of Cultural Anthropology for national security. Suggestions for further research. There should be the usage of ways and assumptions from this research to study the borderlines of Thailand and other countries.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
คำสำคัญ: การผลิตข้าวนาบุญทั้งในบุญประเพณี
เจ้าของลิขสิทธิ์: ฐานข้อมูล NRMS
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

อัจฉรา ภานุรัตน์. "ข้าวนาบุญและนาทองเพื่อพัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและความสงบสุขชายแดนไทย-กัมพูชาMerit Farm and Golden Farm Rice for Education Economic Environmentsand Peace to Development in Thailand and Cambodia Boundary". มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์. 2557

อัจฉรา ภานุรัตน์. "ข้าวนาบุญและนาทองเพื่อพัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและความสงบสุขชายแดนไทย-กัมพูชาMerit Farm and Golden Farm Rice for Education Economic Environmentsand Peace to Development in Thailand and Cambodia Boundary". มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์. 2557. Print.



TARR Wordcloud:
ข้าวนาบุญและนาทองเพื่อพัฒนาการศึกษา เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและความสงบสุขชายแดนไทย-กัมพูชา
อัจฉรา ภานุรัตน์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
30 ตุลาคม 2557
การอนุรักษ์แหล่งพันธุกรรมไม้พยูงและพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎร บริเวณป่าตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย คัพภะและพัฒนาการของลูกปลาตะพาก ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: การค้าชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (ไทย – ลาว) การพัฒนาศักยภาพและแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ สภาวะการรับรู้วัฒนธรรมร่วมในพื้นที่ชายขอบประเทศไทย ลาว และกัมพูชา ความชุกของไข้มาลาเรียในทหารพรานและตำรวจตะเวนชายแดนที่ปฏิบัติการบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ปี 2548 พัฒนาการของลูกปลาหมอบัตเตอร์วัยอ่อน การพัฒนาเอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นตามแนวบริเวณชายแดน ไทย ลาว กัมพูชา พัฒนาการของธงชาติไทย การค้าโค - กระบือ ชายแดนไทย - พม่า
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair