สืบค้นงานวิจัย
ผลของอุณหภูมิและความหนาแน่นของการลำเลียงลูกกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) ลูกกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) และกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii) ระยะโพสลาวา ต่อการรอดตาย ความแข็งแรงและการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำที่ใช้ลำเลียงบางประการ
บุญรัตน์ ประทุมชาติ - มหาวิทยาลัยบูรพา
ชื่อเรื่อง: ผลของอุณหภูมิและความหนาแน่นของการลำเลียงลูกกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) ลูกกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) และกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii) ระยะโพสลาวา ต่อการรอดตาย ความแข็งแรงและการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำที่ใช้ลำเลียงบางประการ
ชื่อเรื่อง (EN): Effects of temperature and density for transportationthe post larva ofLitopenaeus vanname, Penaeus monodon and Macrobrachium rosenbergii on survival rate and changeable some properties of transported medium.
บทคัดย่อ: การลาเลียงลูกกุ้งระยะโพสลาวา 3 ชนิด ได้แก่ กุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) กุ้งกุลาดา (Penaeus monodon) และกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii) ในถุงพลาสติกที่ความหนาแน่น 4 ระดับ (750, 1,000, 1,500 และ 2,000 ตัว/ลิตร) ร่วมกับการใช้อุณหภูมิ 2 ระดับ ได้แก่ 29.2?0.3 ?C และ 22.5 ?0.2 ?C โดยแบ่งการทดลองเป็น 8 การทดลองต่อชนิดลูกกุ้งตามแผนการทดลองแบบ Factorial design ทาการทดลองละ 3 ซ้า ใช้ลูกกุ้งขาวและกุ้งกุลาดาระยะโพสลาวา 15 ลูกกุ้งก้ามกรามระยะคว่า 1-2 วัน (อายุ 25 วัน) การลาเลียงใส่น้า 2 ลิตร/ถุง โดยใช้น้าทะเลความเค็ม 15 ppt สาหรับลูกกุ้งขาวและกุ้งกุลาดา และใช้น้าจืดสาหรับกุ้งก้ามกราม เติมอากาศด้วยปริมาตรของอากาศ 2 เท่าของปริมาตรน้าในขั้นตอนต่อไปก่อนนามาใส่กล่องโฟม กล่องโฟมที่ควบคุมอุณหภูมิ 22.5 ?0.2 ?C ใช้น้าแข็ง 500-600 กรัม/กล่อง ทดสอบการลาเลียงเป็นเวลา 10 ชั่วโมง ตรวจสอบอุณหภูมิ ความเค็ม ออกซิเจนที่ละลายน้า (DO), pH, แอมโมเนีย (NH3), ไนไตรท์ (NO2-), อัลคาไลนิตี้ (Alkalinity) และอัตรารอดลูกกุ้งเมื่อเริ่มต้นและที่สิ้นสุดของการลาเลียง จากการทดลองพบว่าทั้งอุณหภูมิและความหนาแน่นลูกกุ้งมีผลกระทบต่ออัตรารอดภายหลังการลาเลียงลูกกุ้ง (p<0.05) ทั้ง 3 ชนิด กล่าวคือการลาเลียงที่อุณหภูมิ 22.5?0.2 ?C มีอัตรารอดสูงกว่าที่ 29.2?0.3 ?C (p<0.05) และเมื่อเพิ่มระดับความหนาแน่นในการลาเลียงเพิ่มสูงขึ้นมีผลทาให้ต่ออัตรารอดลดลง (p<0.05) เมื่อเปรียบเทียบที่ระดับความหนาแน่นที่สูงของการลาเลียงลูกกุ้งแต่ละชนิด พบอัตรารอดสูงกว่า (p<0.05) ที่ 22.5?0.2 ?C ทั้ง 2 ปัจจัยยังมีผลต่อคุณภาพน้า กล่าวคือ pH และ DO มีค่าการลดลง (p<0.05) เมื่อเพิ่มระดับความหนาแน่นในการลาเลียง และมีค่าลดมากขึ้นเมื่อลาเลียงที่อุณหภูมิ 29.2?0.3?C ขณะที่เมื่อลาเลียงที่อุณหภูมิ 29.2?0.3?C พบแอมโมเนียและไนไตรท์สูงกว่า (p<0.05) โดยระดับความหนาแน่นที่สูงขึ้นส่งผลให้ทั้งความเข้มข้นของแอมโมเนียและไนไตรท์สูงขึ้น (p<0.05) แต่ไม่มีผลกระทบต่ออัลคาไลนิตี้ อุณหภูมิ และความเค็ม จากผลการทดลองชี้ชัดได้ว่าการลาเลียงลูกกุ้งทั้ง 3 ชนิด นาน 10 ชั่วโมงนั้น สามารถลาเลียงได้สูงสุดที่ระดับ 1,000 ตัวต่อลิตร เมื่อใช้อุณหภูมิน้า 22.5?0.2 ?C และสามารถลาเลียงได้สูงสุดไม่เกิน 750 ตัวต่อลิตร เมื่อลาเลียงที่อุณหภูมิ 29.2?0.3 ?C อย่างไรก็ตามหากลาเลียงในช่วงเวลาที่สั้นกว่า 10 ชั่วโมง สามารถลาเลียงลูกกุ้งได้หนาแน่นขึ้นได้ กล่าวคือ การลาเลียงลูกกุ้งทั้ง 3 ชนิด สามารถลาเลียงได้ถึง 2,000 ตัวต่อลิตร ที่ 22.5?0.2?C และ 1,000-1,500 ตัวต่อลิตร ที่อุณหภูมิ 29.2?0.3?C ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาลาเลียง
บทคัดย่อ (EN): Transportation of the three post larva species of Litopenaeus vannamei, Penaeus monodon and Macrobrachium rosenbergii in transparency plastic bag at four densities (750, 1,000, 1,500 and 2,000 ind/L) and combining with 2 levels of temperature (29.2?0.3 ?C and 22.5 ?0.2 ?C) which was divided in to eight treatments in each species followed as completely randomized design (CRD). The three replications were used. Post larva-15 was used for L. vannamei and P. monodon and post larva 1-2 (25 day-old of larval stage) for M. rosenbergii. The two liters of medium at 15 ppt was applied for L. vannamei and P. monodon while the freshwater was applied for M. rosenbergii in each plastic bag. The oxygen was added up to a double of medium volume in the next step then laid each bag in Styrofoam box. Styrofoam with 22.5 ?0.2 ?C inside was using ice at 500-600g. Duration for transportation test was 10 hours. Water qualities Temperature, salinity, dissolved oxygen (DO), pH, total ammonia (NH3), total nitrite (NO2-), alkalinity and survival rate were examined at start and final of transportation. From the experiment found that both temperature and larval density affected on survival rate after transportation. The survival rate of transported larva at 22.5?0.2 ?C was higher (p<0.05) than those of at 29.2?0.3 ?C. Survival rate was decreased (p<0.05) while was increasing of larval density. Survival rate of transportation in each species at 22.5?0.2 ?C was higher (p<0.05) those of at 29.2?0.3 ?C when comparing at high larval density. Both factors were also affected to water quality, pH and DO were decreased (p<0.05) if density larval increased and their values were significantly (p<0.05) decreased if transportation at 29.2?0.3?C. Transportation at 29.2?0.3?C found higher (p<0.05) concentrations ammonia and nitrite and their values also increased (p<0.05) when increasing the density of larva. But both factors were not affected to alkalinity, temperature and salinity. The results indicates that larval transportation for 10 hours among the three species can use 1,000 ind/L at 22.5?0.2 ?C and less than 750 ind/L at 29.2?0.3 ?C. However the higher density can apply if period of transportation is less than 10 hours. Transportation of the three larval species can be applicable to 2,000 ind/L at 22.5?0.2 ?C and 1,000-1,500 ind/L at 29.2?0.3 ?C depending on transportation period.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยบูรพา
คำสำคัญ: การลำเลียงกุ้ง
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ผลของอุณหภูมิและความหนาแน่นของการลำเลียงลูกกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) ลูกกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon) และกุ้งก้ามกราม (Macrobrachium rosenbergii) ระยะโพสลาวา ต่อการรอดตาย ความแข็งแรงและการเปลี่ยนแปลงของคุณภาพน้ำที่ใช้ลำเลียงบางประการ
มหาวิทยาลัยบูรพา
30 กันยายน 2559
วิธีที่เหมาะสมในการลำเลียงกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) ให้มีชีวิตแบบแห้งที่อุณหภูมิต่ำ การทดลองเลี้ยงกุ้งกุลาดำ (Penaeus monodon Fabricius, 1798) ร่วมกับกุ้งแชบ๊วย (Penaeus merguiensis De Man, 1888) และกุ้งขาวแปซิฟิค (Litopenaeus vannamei Boone, 1931) ในบ่อดิน ด้วยระบบน้ำหมุนเวียน ผลของการเสริมธาตุทองแดงในรูปคีเลตในอาหาร ต่อการเจริญเติบโต การรอดตาย อัตราการแลกเนื้อ สรีระเคมี กิจกรรมเอนไซม์ทริปซิน และประสิทธิภาพการย่อยอาหารของกุ้งขาว (Litopenaeus vannamei) การเปลี่ยนแปลงความเข้มข้นของแร่ธาตุบางชนิดในพลาสมาของกุ้งขาววัยรุ่น (Litopenaeus vannamei) ในสภาวะช็อก การศึกษาการแพร่กระจายเชื้อไวรัส Macrobrachium rosenbergii Nodavirus (MrNV) ในฟาร์มเลี้ยงกุ้งก้ามกรามจังหวัดชลบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา การจัดการพ่อแม่พันธุ์กุ้งก้ามกรามเพื่อเพิ่มผลผลิต การวิจัยรูปแบบโครงการฟาร์มเลี้ยงกุ้งแชบ๊วยแบบพัฒนาโดยใช้ระบบรีไซเคิลผสมผสานกับระบบมีนเกษตร การสร้าง infectious clones ของไวรัส Infectious myonecrosis virus (IMNV) และการผลิตไวรัส IMNV ของกุ้ง ในเซลล์แมลงเพาะเลี้ยงโดยใช้ Baculovirus vector เป็นตัวช่วย การอนุบาลลูกกุ้งก้ามกรามจากระยะ post larvae ให้ได้ขนาด 2 เซนติเมตร ที่ระดับความหนาแน่นต่างกัน การศึกษาวิธีการลำเลียงกบนา
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก