สืบค้นงานวิจัย
การวิจัยและพัฒนาน้ำหมักชีวภาพสำหรับโคนมอินทรีย์
นันทิยา สุวรรณปัญญา - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
ชื่อเรื่อง: การวิจัยและพัฒนาน้ำหมักชีวภาพสำหรับโคนมอินทรีย์
ชื่อเรื่อง (EN): Research and Development of Biologically Fermented Products for Organic Dairy Cows
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: นันทิยา สุวรรณปัญญา
บทคัดย่อ: การทดลองที่ 1 ผลของน้ำหมักชีวภาพต่อประชากรของแบคทีเรียในกระเพาะรูเมน โดยการ ใช้เทคนิค Roll Tube เป็นการศึกษาผลของน้ำหมักชีวภาพจากของเหลวในกระเพาะรูเมน (rumen fluid) ของโดนมพันธุ์โยสไตน์ฟรีเขียน ชำนวน 1 ตัว ศึกษาในห้องปฏิบัติการด้วยเทดนิดวิธี roll tube วางแผน ทคลองแบบสุ่มตลอด (CRD) ด้วยกลุ่มควบคุม (T1) น้ำหมักชีวกาพชนิดต่างๆ ได้แก่ ขิง (T2), ข่า (T3), พลูคาว (T4), กล้วย (TS), มะละกอ (T6), ลูกยอ (17) และสับปะรด (18) ผลการศึกษาพบว่า น้ำหมัก พช่วยเพิ่มประชากรแบที่รีย่อยสลายเซลลูโลส ประชากรแบคที่เรียย่อยสลายแป้งแ แบคทีเรียย่อยสลายโปรตีน พบว่า ประชากรแขคทีเรียทุกกลุ่มไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (P>0.05) จำนวนประชากรแบที่เรียย่อยสลายเซลลูโลสสูงสุดในพลูคาวและสับปะรด (5.6 and 5.4 x 108 CFU/ml ตามลำดับ) ประชากรแบคที่เรียย่อยสลายแป้งสูงสุดในกลุ่มควบกุม ลูกยอและสับปะรด (4.9, 3.6 and 3.6 x 107 CPU/ml ตามลำดับ) จำนวนประชากรแบคที่เรียย่อยสลายโปรตื่นสูงสุดในกล้วย (5.6x107CFU/ml) นอกจากนี้พบว่าน้ำหมักชีวภาพช่วยเพิ่มจำนวนประชากรแบกทีเรียในของเหลวในกระเพาะรูเมน การทดลองที่ 2 ผลของน้ำหมักชีวภาพจากห้องปฏิบัติการต่อจุลินทรีย์ในกระเพาะรูเมน โก การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสัดส่วนของผลไม้ : น้ำ : น้ำนม ในการทำน้ำหมักชีวกาพต่อการ เจริญเติบโตของแบคทีเรีย ในกระเพาะรูเมนของโคเนื้อในห้องปฏิบัติการโดยวิธี Roll tube technique วางแผนการทดลยงแบบ 3x3 Factorial in Completely Randomized Design ปัจจัยสิ่งทดลองเป็นชนิด ผลไม้ต่อสัดส่วน น้ำต่อสัดส่วนน้ำนม โดยผลไม้มี 3 ชนิด (ปัจจัยที่ A) คือ กล้วย สับปะรด และมะละกอ และสัดส่วนน้ำต่อน้ำนม (ปัจจัยที่ B) 3 ระดับคือ 100 : 0, 50 : 0 และ 0 : 100 รวมเป็น 9 ทรีทเมนต์ ผล การทดลองพบว่า ปฏิสัมพันธ์ระหว่างชนิดและสัดส่วนของน้ำต่อน้ำนมในน้ำหมักชีวภาพมีผลต่อการ เจริญเติบโตของเชื้อจุดินทรีย์แลกโคบาซิลัส 4.1 x 105 CFU/ml คือ น้ำหมักที่มีกถ้วยต่อน้ำต่อน้ำนม 0:100 (13) (P-0.01) และ ทรีทเมนต์ที่ 5 สับปะรด ต่อน้ำน้ำนม 0.50 มีจำนวนประชากรย่อยสลายแป้งสูงชุด 5.2. x 107 CFU/ml และ ทรีทเมนต์ที่ 9 มะละกอะ น้ำนมมีจำนวนประชากรย่อยสลายโปรคืนสูงสุด 5.0 x 107 CFU/ml การทดลองที่ 3 ผลของน้ำหมักชีวภาพสมุนไพรต่อการยับยั้งเชื้อ Staphylococus aureus ที่เป็นสาเหตุของโรคเต้านมอักเสบในโดนม โดยใช้น้ำหมักจากสมุนไพรพื้นบ้าน 9 ชนิดคือ ขิง ข่า ไพล ขมิ้นชัน ใบพถู ใบบัวบก ใบสาบเสือ ฟ้าทะลายโจร และรวมสมุนไพรทุกชนิด โดยทคสอบ ความสามารถในการยับยั้งเชื้อ Staphylococus aureus ที่ 3 ระยะ คือ ชั่วโมงที่ 24, 48 และ 72 ด้วยวิธี Agar Disc diffusion Susceptibility พบว่าน้ำหมักใบสาบเสือที่ 24 ชั่วโมง มีพื้นที่วงใส ( 10.33 มิลลิเมตร มีการยับยั้งการเจริณเติบโตของเชื้อ Staphylococcus aureus ร ได้ดีที่สุด พบว่า น้ำหมักใบ สาบเสือที่ 24, 48.72 ชั่วโมง มีพื้นที่วงใส (clear z0ne) 10.32, 9.82, 10.15 มิลลิเมตรสามาร เจริญเติบโตของเชื้อ Staphylococcus aureus ได้ดีที่สุด (p-0.01) การวัดขนาควงใสจากมากไปหาน้อย คือ น้ำหมักใบสาบเสือ 1032 มิลลิเมตร ที่ 24 ชั่วโมง น้ำหมักรวมสมุนไพร 9.37 มิลลิเมตรที่ 72 ชั่วโมง มักข่าที่ 9.35 มิลลิเมตรที่ 24 ชั่วโมง น้ำหมักฟ้าทะลายโจรที่ 9.08 มิลลิเมตรที่ 48 ชั่วโมง บพลู 9.05 มิลลิเมตร ที่ 48 ชั่วโมง น้ำหมักไพล 8.90 มิลลิเมตรที่ 24 ชั่วโมง น้ำหมักใบบัวบก 8.57 มิลลิเมตรที่ 24 ชั่วโมง น้ำหมักขมิ้นชัน 8.08 มิลลิเมตรที่ 48 ชั่วโมง น้ำหมักขิง 7.5 มิลลิเมตร ที่ 48 ชั่วโมงมีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p0.05) ระบบภูมิคุ้มกันคือ ปริมาณเม็ดเลือดขาวพบว่าไม่มีความแตกต่าง กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P>0.05) แต่เสริมน้ำหมักชีวภาพสมุนไพรในอาหารขันมีแนวโน้มสูงกว่า รเสริมโปรใบโอติก โคยให้ผลผลิตปริมาณน้ำนม 16.60 กก/วัน ไขมัน 4.2% ของแข็งไม่รวมไขมัน 9. 99% และโปรตีน 3.64%อาหารขันที่ผสมโปรไบโอติกมีปริมาณสูงกว่าแต่น้ำหมักชีวกาพสมุนไพรมี ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟีวสูงกว่าทรีเมนต์อื่นๆผลตอบแทนทางเศรษฐกิจพบว่า ได้รับการเสริมสมุนไพรในอาหารข้นให้รายได้สูงเป็นอันดับ 1 (P<0.05) การทดลองที่ 7 ผลของน้ำหมักชีวกาพพืชผสมอาหารชันสำหรับโคนมอินทรีย์ ผลของน้ำ หมักชีวกาพจากพืชคือส่วนๆของพืช คือส่วนๆของพืช ได้แก่ ส่วนของลำต้นหรือหัว (ขิง ข่า ขมิ้น กระชาย กระเทียม) ส่วนของใบ (ตะไคร่ ใบบัวบก กระเพรา พลูคาว) ส่วนของผล (กล้วย ลูกยอ มะละกอ ฟักทอง สับปะรด) นำมาเสริมผสมอาหารขันสำหรับโดนมอินทรีย์ โคยวางแผนทดถองแบบ ลุ่มตลอด (CRD) โดย ทรีทเมนต์ที่ 1 ควบคุม ทรีทเมนต์ที่ 2 อาหารขันผสมน้ำหมักชีวภาพชนิดลำดัน หรือหัว (ขิง ข่า ขมิ้น ไพล กระชาย ตะไครี กระเทียม) ทรีทเมนต์ที่ 3 อาหารขันผสมน้ำหมักชีวภาพ ชนิดใบ (ใบบัวบก กระเพรา พลูกาว) ทรีทเมนต์ที่ 4 หารข้นผสมน้ำหมักชีวภาพชนิดผล ( กล้วย ลูกยอ มะละกอ ฟักทอง สับปะรด ทรีทเมนต์ที่ 5 อาหารข้นผสมโปรไบโอติก (บริษัท) พบว่า น้ำหมัก ชีวภาพจากพืชมีความเป็นกรด-ด่าง (PH) 3.7-4.3 มีปริมาณกรดอินทรีย์ที่มีดวามสำคัญในการสังเคราะห์ น้ำนมคือ กรดแถกติก กรดอะซิติก (C) กรดโพรพิโอนิก (C) กรดบิวทิริก (C) น้ำหมักชีวภาพมีปริมาณ เอททิลแฮลกอฮอล์ เมททิลแอลกอฮอล์ โลหะ ปรอท แดดเมี่ยม ตะกั่ว ในระดับปลอดภัย อาหารชันใน ทรีทเมนต์ที่ 5 โปรไบโอติก มี %โปรตีนสูงที่สุดมี CP 17.06% รองลงไปคืออาหารข้นผสมน้ำหมัก ชีวภาพจากลำดัน, ผล, ใบ, และควบคุม คือ 16.85, 16.66, 1647 และ 16.06% ตามลำดับ ปริมาณน้ำนม พบว่า น้ำหมักชีวภาพชนิดผลให้ปริมาณสูงสุด 17.2 กก/วัน และพบว่าให้ Fat 4.54% (P<0.05) SNF Protein 3.60% น้ำหมักชนิดลำต้นจะตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกันคือ ปริมาณเม็ ชนิดนิวโทรฟิวสูงสุดมี 37% และน้ำหมักชีวภาพชนิดผลให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสูงสุด สรุป จากผลการทดลอง 7 งานทดลองขี้ให้เห็นว่า น้ำหมักชีวภาพจากพืชเช่น พืชทั่วไป สมุนไพรและผลไม้ โดยมีจุลินทรีย์ในสภาพที่มีสารอาหารที่เหมาะสมต่อการเจริญ การวิจัยทดลอง เพื่อให้ใได้ข้อมูลวิทยาศาสตร์เพื่อนำไปสู่ฟาร์มโดนมอินทรีย์ ซึ่งโคนมควรได้รับการเสริมน้ำหมักชีวภาพ
บทคัดย่อ (EN): Experiment 1 The study was to determine effect of biologically fermented juice on rumen fluid. The experiment conducted using an in vitro roll tube technique. One Holstein Friesian cow was used as rumen fluid donor. Completely Randomized Design were control (T1), biologically fermented juice from plant such as ginger (T2), galangal (T3), plookao (T4), banana (T5), papaya (T6), noni (T7) and pincapple (T8). The results found that biologically fermented juicoe increased with cellulolytic bacteria, amylolytic bacteria and protcolytic bacteria. Total bacteria were not significantly different among treatments (P>0.05). Cellulolytic bacteria were highest in plookao and pincapplo (5.6 and 5.4 x 108 CFU/ml respectively). Amylolytic bacteria were highest in control, noni and pineapple (4.9, 3.6 and 3.6 x 107 CFU/ml respectively). Proteolytic bacteria were highest in banana (5.6 x 107 CFU/ml). Morcover biologically fermented juice increased bacterial population in rumen fluid. Experiment II Effects of in vitro biologically fermented juice on rumen fiuid. The objective of this study was to detcrmine biologically fermented juice from fruits: water and milk ration of fermentod juice. The experimental design was a 3 x 3 Factorial in completely randomized design. When factor A was fruit supplemcntation such as banana, pineapple and papaya. Ration of water and milk (factor B) were 100:0, 50:50 and 0:100. The treatment were nine treatment combination. Rcsults showed that Lactobacillus sp. Were highest in banana 0:100 milk 4.1 x 105 CFU/ml (P0.05). Supplementation of BFHJ were increased by white blood cells, neutrophil numbers (P>0.05). and shown greater innate immune response. Milk yield and income were slight increased by BFHJ over contol and probiotics. BFHI is the one choice for farmer to reduce the cost of production and can solve the sustainable problem. Experiment VII The objective of this study was to determine effect of biologically fermented plants juice (BFPJ) made from the part of plants. The experimental design was Completely Randomized Design, CRD. Twenty 75% Holstein Friesian were randomly received 1 of 5 dietary treatments : Tl = concentrate control, T2 - concentrate mixed with plant stem: ginger, galigle, curcumin, galigle, lemon grass and garlic, T3 = concentrate mixed with leaves: holy basil leaves, holy basil leaves and plookao leaves, T4 = concentrate mixed with fruit: banana, great morind, papaya, pumgkin and pineapple, T5 = concentrate mixed with probiotic. The results showed that concentrate mixed with probiotic was higher protein 17.06% and followed by T2 (16.85%), T4 (16.66%), T3 (16.47%) and T1 (16.06), respectively. BFPJ had higher milk yield (17.2 kg/d), 4.54% fat (P<0.05), 9.90% SNF, 3.60% protein. Concentrate mixed with plant stem were increased white blood cell, nutrophil number (37%) and shown great innate immune responsc. BFPJ had higher economic income. In conclusion, the results from the seven experiments indicated the biologically fermented products from plants such as plants, herbs and fruits with the help of microorganism in the appropriate circumstance. Scientific data obtained from our study will be used as a guide to organic dairy farm. Dairy cows should be supplemented with biologically fermented products from plants.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
คำสำคัญ: โคนมอินทรีย์
คำสำคัญ (EN): Organic dairy cow
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง

นันทิยา สุวรรณปัญญา. "การวิจัยและพัฒนาน้ำหมักชีวภาพสำหรับโคนมอินทรีย์Research and Development of Biologically Fermented Products for Organic Dairy Cows". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. 2552

นันทิยา สุวรรณปัญญา. "การวิจัยและพัฒนาน้ำหมักชีวภาพสำหรับโคนมอินทรีย์Research and Development of Biologically Fermented Products for Organic Dairy Cows". มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน. 2552. Print.



TARR Wordcloud:
การวิจัยและพัฒนาน้ำหมักชีวภาพสำหรับโคนมอินทรีย์
นันทิยา สุวรรณปัญญา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
30 กันยายน 2552
การใช้ประโยชน์ของวัสดุเหลือใช้จากการเพาะเลี้ยงแมลงวันผลไม้ในอาหารโคนม พัฒนาน้ำหมักชีวภาพสมุนไพรไทยโปรไบโอติคเพื่อการส่งออก การพัฒนาระบบการผลิตผักสวนครัวอินทรีย์ด้วยปุ๋ยมูลไส้เดือนคุณภาพสูงในจังหวัดเพชรบูรณ์ การพัฒนาวงจรการผลิตโคนมเพื่อเศรษฐกิจชุมชนที่ยั่งยืน การวิจัยและพัฒนากั้งตั๊กแตนเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การออกแบบและพัฒนาเครื่องลดขนาดอาหารหยาบเพื่อผลิตอาหาร สมบูรณ์ สำหรับใช้ในฟาร์มโคนมขนาดเล็ก การจัดการและพัฒนาองค์ความรู้ด้านอาชีพการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรแบบมีส่วนร่วมเพื่อการเปลี่ยนแปลงการเรียนรู้ไปสู่การพึ่งตนเองของชุมชนที่ยั่งยืนบนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง การวิจัยถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการการสืบพันธุ์โคนมแบบบูรณาการเพื่อเพิ่มการผลิตอย่างยั่งยืนของสมาชิกสหกรณ์โคนมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน การพัฒนาแคลเซี่ยมโซป เพื่อเป็นแหล่งอาหารเสริม กรดไขมันไม่อิ่มตัว โปรตีนและวิตามินอีสำหรับโคนม การลดต้นทุนและเพิ่มปริมาณ CLA และ Omega3 ในน้ำนมโดยการเลี้ยงโคนมอินทรีย์ด้วยหญ้าคุณภาพดี
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก
พัฒนาระบบโดยศูนย์ความรู้เฉพาะด้านวิศวกรรมความรู้และวิศวกรรมภาษาDeveloped by Center of Excellence for Unified Knowledge and Language Engineering
สนับสนุนโดยสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)Supported by the Agricultural Research Development Agency (Public Organization)
แบบสำรวจความพึงพอใจQuestionair