สืบค้นงานวิจัย
ความยั่งยืนของระบบเกษตรในชุมชนเกษตรรอบพื้นที่เขื่อนห้วยหลวง
มยุลา ไชยคำบัง - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: ความยั่งยืนของระบบเกษตรในชุมชนเกษตรรอบพื้นที่เขื่อนห้วยหลวง
ชื่อเรื่อง (EN): The Sustainbility of Agricultural Systems in Agricultural Community around Huay Laung Dam
บทคัดย่อ: ชุมชนเกษตรรอบพื้นที่เขื่อนห้วยหลวงเป็นชุมชนหนึ่งได้เข้าสู่กระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมจากกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจ ตั้งแต่ในปี พ. ศ. 2512 เมื่อกรมชลประทานได้ตัดสินใจสร้างเขื่อนห้วยหลวงในพื้นที่เดิมของชุมชน จึงเป็นที่น่าสนใจว่า ระบบการเกษตรของชุมชนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรตั้งแต่ก่อนสร้างเขื่อนจนถึงปัจจุบัน และในปัจจุบันระบบเกษตรของชุมชนมีความยั่งยืนมากน้อยเพียงไร การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์ 3 ประการ คือ ประการแรกศึกษาระบบการผลิตของชุมชนเกษตรรอบพื้นที่เขื่อนห้วยหลวงตั้งแต่ก่อนสร้างเขื่อนจนถึงปัจจุบัน ประการที่สอง วิเคราะห์และจำแนกฟาร์มตามลักษณะการผลิตของครัวเรือนเกษตร และประการสุดท้าย ประเมินความยั่งยืนระบบการเกษตรของครัวเรือนเกษตรแต่ละประเภท วิธีการศึกษาเป็นการใช้วิธีวิจัยเชิงพรรณนาประกอบกับวิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ข้อมูลทั้งปฐมภูมิและทุติยภูมิ สำหรับข้อมูลปฐมภูมิรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามครัวเรือนเกษตร และข้อมูลทุติยภูมิรวบรวมข้อมูลจาก กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษา พบว่า ระบบการผลิตของครัวเรือนเกษตร ประกอบด้วย 3 ระบบ คือ (1) ระบบการผลิตพืช ประกอบด้วย ระบบการผลิตพืชเพื่อยังยังชีพ ระบบการผลิตพืชเพื่อยังชีพและการค้า และ ระบบการผลิตพืชเพื่อการค้า (2) ระบบการผลิตสัตว์ ประกอบด้วย 3 ระบบ คือ ระบบการผลิตสัตว์เพื่อยังชีพ ระบบการผลิตสัตว์เพื่อยังชีพและการค้า และระบบการผลิตสัตว์เพื่อการค้า (3) ระบบการผลิตประมง ประกอบด้วย ระบบการผลิตประมงเพื่อยังชีพ และระบบการผลิตประมงเพื่อยังชีพและการค้า ระบบการผลิตพืชมีการเปลี่ยนแปลงจากระบบการผลิตเพื่อยังชีพสู่ระบบการผลิตเพื่อการค้ามากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก การปลูกพืชเพื่อการยังชีพเกือบทุกชนิดลดลง ขณะที่การปลูกเพื่อการค้าและยังชีพ และการปลูกพืชเพื่อการค้าส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น แต่ระบบการผลิตสัตว์และระบบการผลิตประมงมีการผลิตลดลงทุกระบบ จากการจำแนกฟาร์ม พบว่า ครัวเรือนเกษตรส่วนที่ใหญ่ทำการผลิตเพื่อการค้าเป็นหลัก (ประเภทฟาร์ม D) รองลงมา ผลิตเพื่อยังชีพเป็นหลัก (ประเภทฟาร์ม A) ผลิตทั้งเพื่อยังชีพและการค้าแต่ผลิตเพื่อการค้ามากกว่า (ประเภทฟาร์ม C) ผลิตแบบลงทุนระยะยาว (ประเภทฟาร์ม E) และ ผลิตทั้งเพื่อยังชีพและการค้าแต่ผลิตเพื่อยังชีพมากกว่า (ประเภทฟาร์ม B) ตามลำดับ และจากการประเมินความยั่งยืนระบบการเกษตร พบว่า ครัวเรือนประเภทฟาร์ม E มีรายได้ทั้งหมดเฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงสุด ครัวเรือนทุกประเภทฟาร์มมีความหลากหลายของแหล่งรายได้ระดับปานกลาง ครัวเรือนประเภทฟาร์ม B มีค่าดัชนีความหลายของแหล่งรายได้สูงสุด ครัวเรือนเกษตรส่วนใหญ่มีการอนุรักษ์ดินและน้ำค่อนข้างต่ำ ครัวเรือนประเภทฟาร์ม E มีค่าดัชนีมีค่าดัชนีการอนุรักษ์ดินและน้ำสูงสุด ครัวเรือนเกษตรส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมระดับปานกลาง ครัวเรือนประเภทฟาร์ม A และ B มีค่าดัชนีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมต่ำสุด ครัวเรือนเกษตรโดยส่วนใหญ่มีความมั่นคงทางสังคมค่อนข้างสูง ครัวเรือนประเภทฟาร์ม D และ E มีความมั่นคงทางสังคมสูงสุด ชุมชนเกษตรรอบพื้นที่เขื่อนห้วยหลวงเป็นชุมชนหนึ่งได้เข้าสู่กระแสแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมจากกระบวนการพัฒนาเศรษฐกิจ ตั้งแต่ในปี พ. ศ. 2512 เมื่อกรมชลประทานได้ตัดสินใจสร้างเขื่อนห้วยหลวงในพื้นที่เดิมของชุมชน จึงเป็นที่น่าสนใจว่า ระบบการเกษตรของชุมชนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรตั้งแต่ก่อนสร้างเขื่อนจนถึงปัจจุบัน และในปัจจุบันระบบเกษตรของชุมชนมีความยั่งยืนมากน้อยเพียงไร การศึกษาครั้งนี้มีจุดประสงค์ 3 ประการ คือ ประการแรกศึกษาระบบการผลิตของชุมชนเกษตรรอบพื้นที่เขื่อนห้วยหลวงตั้งแต่ก่อนสร้างเขื่อนจนถึงปัจจุบัน ประการที่สอง วิเคราะห์และจำแนกฟาร์มตามลักษณะการผลิตของครัวเรือนเกษตร และประการสุดท้าย ประเมินความยั่งยืนระบบการเกษตรของครัวเรือนเกษตรแต่ละประเภท วิธีการศึกษาเป็นการใช้วิธีวิจัยเชิงพรรณนาประกอบกับวิธีการทางสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ข้อมูลทั้งปฐมภูมิและทุติยภูมิ สำหรับข้อมูลปฐมภูมิรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามครัวเรือนเกษตร และข้อมูลทุติยภูมิรวบรวมข้อมูลจาก กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานราชการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษา พบว่า ระบบการผลิตของครัวเรือนเกษตร ประกอบด้วย 3 ระบบ คือ (1) ระบบการผลิตพืช ประกอบด้วย ระบบการผลิตพืชเพื่อยังยังชีพ ระบบการผลิตพืชเพื่อยังชีพและการค้า และ ระบบการผลิตพืชเพื่อการค้า (2) ระบบการผลิตสัตว์ ประกอบด้วย 3 ระบบ คือ ระบบการผลิตสัตว์เพื่อยังชีพ ระบบการผลิตสัตว์เพื่อยังชีพและการค้า และระบบการผลิตสัตว์เพื่อการค้า (3) ระบบการผลิตประมง ประกอบด้วย ระบบการผลิตประมงเพื่อยังชีพ และระบบการผลิตประมงเพื่อยังชีพและการค้า ระบบการผลิตพืชมีการเปลี่ยนแปลงจากระบบการผลิตเพื่อยังชีพสู่ระบบการผลิตเพื่อการค้ามากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก การปลูกพืชเพื่อการยังชีพเกือบทุกชนิดลดลง ขณะที่การปลูกเพื่อการค้าและยังชีพ และการปลูกพืชเพื่อการค้าส่วนใหญ่เพิ่มขึ้น แต่ระบบการผลิตสัตว์และระบบการผลิตประมงมีการผลิตลดลงทุกระบบ จากการจำแนกฟาร์ม พบว่า ครัวเรือนเกษตรส่วนที่ใหญ่ทำการผลิตเพื่อการค้าเป็นหลัก (ประเภทฟาร์ม D) รองลงมา ผลิตเพื่อยังชีพเป็นหลัก (ประเภทฟาร์ม A) ผลิตทั้งเพื่อยังชีพและการค้าแต่ผลิตเพื่อการค้ามากกว่า (ประเภทฟาร์ม C) ผลิตแบบลงทุนระยะยาว (ประเภทฟาร์ม E) และ ผลิตทั้งเพื่อยังชีพและการค้าแต่ผลิตเพื่อยังชีพมากกว่า (ประเภทฟาร์ม B) ตามลำดับ และจากการประเมินความยั่งยืนระบบการเกษตร พบว่า ครัวเรือนประเภทฟาร์ม E มีรายได้ทั้งหมดเฉลี่ยต่อครัวเรือนสูงสุด ครัวเรือนทุกประเภทฟาร์มมีความหลากหลายของแหล่งรายได้ระดับปานกลาง ครัวเรือนประเภทฟาร์ม B มีค่าดัชนีความหลายของแหล่งรายได้สูงสุด ครัวเรือนเกษตรส่วนใหญ่มีการอนุรักษ์ดินและน้ำค่อนข้างต่ำ ครัวเรือนประเภทฟาร์ม E มีค่าดัชนีมีค่าดัชนีการอนุรักษ์ดินและน้ำสูงสุด ครัวเรือนเกษตรส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมระดับปานกลาง ครัวเรือนประเภทฟาร์ม A และ B มีค่าดัชนีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมต่ำสุด ครัวเรือนเกษตรโดยส่วนใหญ่มีความมั่นคงทางสังคมค่อนข้างสูง ครัวเรือนประเภทฟาร์ม D และ E มีความมั่นคงทางสังคมสูงสุด
บทคัดย่อ (EN): Agricultural Community at the adjacent Huay Luang Dam area is one of the communities, which has come to the dynamic of economic and social changes from economic development process since the Irrigation Department decided to construct Huay Luang Dam at the previous community area in 1968. It is necessary to study how the agricultural system of the community has been changed until now and to what extent the agricultural system of the community is sustainable at present. This research objectives were (1) to study the production system of the agricultural community before and after Huay Luang Dam were constructed; (2) to analyze and classify farm types of farm households based on farm household production; and (3) to evaluate sustainability of agricultural system of the farm households. The study is basically descriptive, with statistical analysis. The primary data were collected by using questionnaires, and interview. The secondary data were derived from The Community Development Department, Ministry of Interior and other concerned agencies. The results of the study indicated that production systems of farm household consist of three systems: (1) plant production systems comprise of three systems which were plant production system for subsistence, plant production system for subsistence-commerce, and plant production system for commerce; (2) Animal production systems consist of three systems which were animal production system for subsistence, animal production system for subsistence-commerce, and animal production system for commerce; and (3) Fishery production systems include two systems which were fishery production system for subsistence and fishery production system for subsistence- commerce. Plant production systems have transformed from subsistence system to commerce as subsistence cropping had been decreased, whereas most subsistence-commerce cropping and commerce cropping had been increased. The study also indicated that most farm households produce for commerce (farm D), succeeding subsistence (farm A), subsistence-commerce but underlining commerce (farm C), long term investment (farm E), and subsistence-commerce but underlining subsistence ( farm B) respectively. According to sustainability evaluation, it was found that farm E earned the highest income. All farm household types showed moderately diversified revenue. Farm B had the highest diversify index. The majority of farm household types showed quite low land and waters conservation use. Farm E had the highest conservation indicator. Most of the farm household types were moderately at an environmental risk. Farm A and B showed the lowest environmental risk indicator. Most of the farm household types were quite highly socially secure. Farm D and E showed the highest social security indicator. Agricultural Community at the adjacent Huay Luang Dam area is one of the communities, which has come to the dynamic of economic and social changes from economic development process since the Irrigation Department decided to construct Huay Luang Dam at the previous community area in 1968. It is necessary to study how the agricultural system of the community has been changed until now and to what extent the agricultural system of the community is sustainable at present. This research objectives were (1) to study the production system of the agricultural community before and after Huay Luang Dam were constructed; (2) to analyze and classify farm types of farm households based on farm household production; and (3) to evaluate sustainability of agricultural system of the farm households. The study is basically descriptive, with statistical analysis. The primary data were collected by using questionnaires, and interview. The secondary data were derived from The Community Development Department, Ministry of Interior and other concerned agencies. The results of the study indicated that production systems of farm household consist of three systems: (1) plant production systems comprise of three systems which were plant production system for subsistence, plant production system for subsistence-commerce, and plant production system for commerce; (2) Animal production systems consist of three systems which were animal production system for subsistence, animal production system for subsistence-commerce, and animal production system for commerce; and (3) Fishery production systems include two systems which were fishery production system for subsistence and fishery production system for subsistence- commerce. Plant production systems have transformed from subsistence system to commerce as subsistence cropping had been decreased, whereas most subsistence-commerce cropping and commerce cropping had been increased. The study also indicated that most farm households produce for commerce (farm D), succeeding subsistence (farm A), subsistence-commerce but underlining commerce (farm C), long term investment (farm E), and subsistence-commerce but underlining subsistence ( farm B) respectively. According to sustainability evaluation, it was found that farm E earned the highest income. All farm household types showed moderately diversified revenue. Farm B had the highest diversify index. The majority of farm household types showed quite low land and waters conservation use. Farm E had the highest conservation indicator. Most of the farm household types were moderately at an environmental risk. Farm A and B showed the lowest environmental risk indicator. Most of the farm household types were quite highly socially secure. Farm D and E showed the highest social security indicator.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: เขื่อนห้วยหลวง
คำสำคัญ (EN): Huay Laung Dam
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
ความยั่งยืนของระบบเกษตรในชุมชนเกษตรรอบพื้นที่เขื่อนห้วยหลวง
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 กันยายน 2551
การจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดินเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพของข้าวหอมมะลิอินทรีย์ใน ระบบเกษตรอินทรีย์เพื่อความยั่งยืน โครงการวิจัยการฟื้นฟูระบบเกษตรยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงโป่งคำ โครงการวิจัยการฟื้นฟูระบบเกษตรยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงโป่งคำ โครงการย่อยที่ 4 การวิจัยศึกษาระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อการจัดการที่ดินและน้ำของชุมชนบนพื้นที่สูง โครงการวิจัยการฟื้นฟูระบบเกษตรยั่งยืนในพื้นที่ขยายผลโครงการหลวงโป่งคำ โครงการย่อยที่ 2 การศึกษาปัจจัยและเงื่อนไขความสำเร็จของชุมชนต้นแบบที่ประสบผลสำเร็จด้านการทำเกษตรแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้านการฟ การศึกษาความสำเร็จของการเลี้ยงแพะในระบบเกษตรแบบต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน การวิจัยและพัฒนาศักยภาพการพึ่งตนเองของชุมชนด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ จังหวัดกาฬสินธุ์ การปรับปรุงพันธุ์ผักเพื่อระบบเกษตรอินทรีย์ ศึกษาพัฒนาการของการผลิตพืชในระบบเกษตรอินทรีย์ การศึกษาวิจัยและพัฒนาระบบเกษตรอินทรีย์ จังหวัดกาฬสินธุ์ สาธิตการจัดการฟาร์มระบบเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ 1 ไร่ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก