สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์และบริหารจัดการความเสี่ยงด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำ ของสินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าและศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาด รวมทั้ง ส่งเสริมการพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัตนาวรรณ มั่งคั่ง - มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์และบริหารจัดการความเสี่ยงด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำ ของสินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าและศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาด รวมทั้ง ส่งเสริมการพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว
ชื่อเรื่อง (EN): Risk analysis and management of agri-food products on carbon, and water footprints for value adding, competiveness enhancing and green economy promoting
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัตนาวรรณ มั่งคั่ง
บทคัดย่อ: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ “การวิเคราะห์และบริหารจัดการความเสี่ยงด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำ ของสินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าและศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาด รวมทั้ง ส่งเสริมการพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว” แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย ผศ.ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง เป็นหัวหน้าโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์คาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำในระดับฟาร์ม เพื่อจำแนกจุดเสี่ยงอันนำไปสู่การหาแนวทางในการจัดการเพื่อบริหารความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำ จากการศึกษาวิจัย พบว่า การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไก่เนื้อ พบว่า โรงเรือนแบบใหม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 0.10 (G2G) และ 1.09 (C2G) กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อกิโลกรัมไก่เนื้อ โรงเรือนสองชั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 0.10 (G2G) และ 1.14 (C2G) กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อกิโลกรัมไก่เนื้อ และโรงเรือนแบบเก่ามีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 0.12 (G2G) และ 1.15 (C2G) กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อกิโลกรัมไก่เนื้อ เมื่อพิจารณาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกุ้งขาวแวนนาไม พบว่า มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแตกต่างกันในแต่ละฟาร์มเนื่องจากมีวิธีการเลี้ยงที่ประยุกต์ใช้เป็นของตนเองจากการแก้ไขปัญหาโรคตายด่วน โดยมีค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ที่ 0.013 ถึง 10.34 (G2G) และ 2.57 – 12.66 (C2G) กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อกิโลกรัมกุ้งขาวแวนนาไม ในส่วนของฟุตพริ้นท์น้ำของไก่เนื้อ พบว่า โรงเรือนแบบใหม่มีค่าฟุตพริ้นท์น้ำ 10.98 (G2G) และ 191.23 (C2G) ลิตรน้ำเทียบเท่าต่อกิโลกรัมไก่เนื้อ โรงเรือนสองชั้นมีค่าฟุตพริ้นท์น้ำ 9.95 (G2G) และ 192.66 (C2G) ลิตรน้ำเทียบเท่าต่อกิโลกรัมไก่เนื้อ และโรงเรือนแบบเก่ามีค่าฟุตพริ้นท์น้ำ 9.72 (G2G) และ 190.04 (C2G) ลิตรน้ำเทียบเท่าต่อกิโลกรัมไก่เนื้อ เมื่อพิจารณาฟุตพริ้นท์น้ำของกุ้งขาวแวนนาไม พบว่า มีค่าฟุตพริ้นท์น้ำอยู่ที่ 1.99 – 24.03 (C2G) ลิตรน้ำเทียบเท่าต่อหนึ่งกิโลกรัมกุ้งขาวแวนนาไม จุดปรับปรุงที่สำคัญในการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำของฟาร์มไก่เนื้อ ประกอบด้วยการลดการใช้ไฟฟ้า และ LPG ในขั้นตอนการเลี้ยง การดูแลจัดการมูลสัตว์อย่างเหมาะสมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับปรุงประสิทธิภาพของการให้น้ำไก่เนื้อ การนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่/ใช้ซ้ำ สำหรับการลดฟุตพริ้นท์น้ำในส่วนของฟาร์มกุ้งขาวแวนนาไมนั้น คาร์บอนฟุตพริ้นท์ส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องจักรในฟาร์ม รวมทั้งอาหารกุ้ง จุดปรับปรุงที่สำคัญควรดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการให้อาการ ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร การใช้พลังงานอย่างเหมาะสม หรืออาจพิจารณาใช้พลังงานทดแทน นอกจากนี้ ควรลดสัดส่วนการใช้ปลาป่นและน้ำมันปลาในวัตถุดิบอาหารสัตว์ ในส่วนของฟุตพริ้นท์น้ำนั้นเกิดจากน้ำที่ใช้ทางอ้อมจากการผลิตอาหารสัตว์ โดยเฉพาะวัตถุดิบจากการเกษตรซึ่งควรนำไปพิจารณาในการพัฒนาสูตรอาหารสัตว์ด้วย ประโยชน์ที่จะได้รับของโครงการนี้คือ แนวทางในการจัดการเพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำ และข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ณ ฟาร์มและแนวทางการจัดการคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำของฟาร์ม
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คำสำคัญ: การวิเคราะห์และบริหารจัดการความเสี่ยง
คำสำคัญ (EN): Risk analysis and management
เจ้าของลิขสิทธิ์: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์และบริหารจัดการความเสี่ยงด้านคาร์บอนฟุตพริ้นท์และฟุตพริ้นท์น้ำ ของสินค้าเกษตรและอาหาร เพื่อเพิ่มมูลค่าและศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาด รวมทั้ง ส่งเสริมการพัฒนาเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
31 สิงหาคม 2557
แนวทางตัดสินใจการวางแผนผลิตสินค้าเกษตรเพื่อบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจสีเขียว มาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารของประเทศไทย โครงการวิจัยและพัฒนาการทำไร่พริกแบบเกษตรธรรมชาติ ตามมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (GAP) บนพื้นฐานปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แนวทางการเพิ่มมูลค่าสินค้าสีเขียวในทัศนคติของผู้บริโภคเจนวายในจังหวัดเชียงใหม่ การศึกษาแนวทางการพัฒนาพันธุ์และการผลิตปทุมมาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ศักยภาพการจัดการตลาดผลิตผลทางการเกษตรของกลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน แนวทางการพัฒนาศักยภาพการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน การศึกษาและพัฒนาคอนกรีตโปร่งแสงสู่เทคโนโลยีสีเขียว แนวทางการส่งเสริมการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ : กรณีศึกษาสินค้า OTOP ในภาคตะวันออก การวิเคราะห์ความเสี่ยงทางการเงินของธุรกิจสินเชื่อ ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของสหกรณ์ กรณีศึกษา สหกรณ์การเกษตรเชียงดาว จำกัด
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก