สืบค้นงานวิจัย
การวิเคราะห์อาการไส้สีน้ำตาลในสับปะรดที่อุณหภูมิต่ำ
พรรณิภา ยั่วยล - มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ชื่อเรื่อง: การวิเคราะห์อาการไส้สีน้ำตาลในสับปะรดที่อุณหภูมิต่ำ
ชื่อเรื่อง (EN): Analysis of Internal Browning Symptoms in Chilled Pineapple
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ: พรรณิภา ยั่วยล
ผู้แต่ง / หัวหน้าโครงการ (EN): Pannipa Youryon
บทคัดย่อ: ผลสับปะรดเกิดไส้สีน้ำตาลได้ง่ายเมื่อเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำแม้เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับเก็บ รักษาพืชเมืองร้อนโดยทั่วไป ทำให้เกิดปัญหาในการเก็บรักษาระยะยาวและการขนส่งออก งานวิจัยนี้ ทำการศึกษาการเกิดไส้น้ำตาลในสับปะรดกลุ่ม 'Queen' และ 'Smooth Cayenne' ที่เก็บรักษาใน อุณหภูมิต่ำระดับต่าง ๆ และควบคุมอาการไส้สีน้ำตาล สับปะรดพันธุ์ตราดสีทองเกิดอาการไส้สี น้ำตาลหลังจากเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำนาน 5 วัน โดยเกิดที่ไส้ก่อนจะขยายไปที่เนื้อ ผลสับปะรดเก็บ รักษาที่ 8 และ 10 องศาเซลเซียส เกิดรอยช้ำที่มีลักษณะฉ่ำน้ำสีน้ำตาลอ่อน ส่วนผลที่การเก็บรักษาที่ 13 และ 15 องศาเซลเซียส เกิดสีน้ำตาลเข้มเริ่มที่บริเวณไส้ก่อนขยายไปที่เนื้อ ใขขณะที่เก็บรักษา 20 องศาเซลเซียส ไม่แสดงอาการไส้สีน้ำตาลแต่เกิดการเน่าเมื่ออายุการเก็บรักษามากขึ้น และการเก็บ รักษาที่ 20 องศาเซลเซียสผลสับปะรดมีการหายใจ การผลิตเอทิลีนและมีการสูญเสียน้ำหนักสูงกว่า ทุกอุณหภูมิตลอดการเก็บรักษา นอกจากนี้ผลสับปะรดที่เก็บตอนเช้าตรู่ (06.00 น.) และเที่ยงวัน (12.00 น.) มีการสะสมกรดอินทรีย์ไม่แตกต่างกันซึ่งต่างจากในใบที่มีการสะสมกรดสูงในตอนเช้า และลดลงในตอนเที่ยง และช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวไม่มีผลต่อการต่อการเกิดไส้สีน้ำตาลเมื่อเก็บรักษาที่ อุณหภูมิต่ำ ปริมาณของ titratable acidity มีในส่วนของเนื้อมากกว่าในส่วนของไส้ เมื่อนำผลย่อย บริเวณที่เกิดสีน้ำตาลมาตรวจดูด้วยกล้อง confocal ระบบ 3 มิติ เปรียบเทียบกับเนื้อเยื่อปกติพบว่า เซลล์บริเวณที่เกิดสีน้ำตาลมีลักษณะของผนังเซลล์เหยี่วทำให้รูปร่างเซลล์เปลี่ยนแปลงไป การทดลองใช้แคลเซียมเพื่อรักษาความสมดุลของเซลล์ โดยการแช่ผลสับปะรดในแคลเซียมคลอไรด์ และสตรอนเตียมคลอไรด์ ความเข้มข้น 0.18 M และใช้ซึมผ่านผลภายใต้สภาพแบบสุญญากาศที่ ความดัน 30 kPa เป็นเวลา 2 นาที และวิธีการจุ่มก้านสับประรดในการละลายที่อุณหภูมิเก็บรักษาเป็น ระยะเวลา 3 วัน แล้วนำมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 8 13 และ 20 องศาเซลเวียส พบว่าวิธีการจุ่มก้าม สับปะรดด้วยละลายทั้งสองเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพทำให้ระดับความเข้มข้นของแคลเซียม และสตรอนเตรียมสูงขึ้นในส่วนของไส้สับปะรดและได้ผลดีในการลดการเกิดไส้สีน้ำตาลของ สับปะรด
บทคัดย่อ (EN): Fruit of most cultivars of pineapple are susceptible to internal browning (IB) when stored at low temperature even at recommended temperatures for tropical fruits. This is the crucial problem for the long storage and export. In this research, the development and control of IB were studied in the fruit of the Queen and Smooth Cayenne groups. 'Trad Srithong' pineapple (Queen group), an IB sensitive cultivar, initially developed browning symptoms in the core tissue on day 5 of storage at low temperature before spreading out to the flesh. Fruit storage at 8 and 10 OC exhibited light brown symptoms in the core tissue while dark brown symptoms developed in fruit kept at 13 and 15 C. No symptoms developed in fruit stored at 20 C, but these fruit were susceptible to decay. Respiration, ethylene production and water loss were higher in fruit stored at 20 C than at others temperatures. Moreover, no difference of titratable acidity (TA) was found in 'Trad Srithong' fruit harvested at different times of 0600 and 1200, but TA accumulated high in the leaves in the morning and reduced in the afternoon. Harvesting time of the day did not affect IB during storage. Juice extracted from the pulp contained higher titratable acidity and total soluble solids than the core tissue and symptoms of internal browning were more severe in the flesh surrounding the core. The 3D appearance of fruitlet tissue monitored by confocal microscopy showed that intact cells comprised of normal tissue whereas deformation of cell wall and cell shape occurred in tissue with the IB symptoms. Since Ca is known to be involved in maintaining cell integrity, pineapple fruit were treated with CaC12 and SKI2 solution. These solutions (0.18 M) were applied by dipping for 2 minutes of vacuum infiltration (30 kPa) or by immersing the peduncles in solution for 3 days and then stored at 8, 13 or 20 C. Infiltration via the peduncle was found to be the most effective method of increasing Ca or Sr levels in the core of pineapple and effectively reduced the IB of stored fruit.
บทคัดย่อ: ไม่พบข้อมูลจากหน่วยงานต้นทาง
ภาษา (EN): th
เผยแพร่โดย: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
คำสำคัญ (EN): Pineapple
เจ้าของลิขสิทธิ์: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
รายละเอียด: ผลสับปะรดเกิดไส้สีน้ำตาลได้ง่ายเมื่อเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำแม้เป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับเก็บ รักษาพืชเมืองร้อนโดยทั่วไป ทำให้เกิดปัญหาในการเก็บรักษาระยะยาวและการขนส่งออก งานวิจัยนี้ ทำการศึกษาการเกิดไส้น้ำตาลในสับปะรดกลุ่ม 'Queen' และ 'Smooth Cayenne' ที่เก็บรักษาใน อุณหภูมิต่ำระดับต่าง ๆ และควบคุมอาการไส้สีน้ำตาล สับปะรดพันธุ์ตราดสีทองเกิดอาการไส้สี น้ำตาลหลังจากเก็บรักษาที่อุณหภูมิต่ำนาน 5 วัน โดยเกิดที่ไส้ก่อนจะขยายไปที่เนื้อ ผลสับปะรดเก็บ รักษาที่ 8 และ 10 องศาเซลเซียส เกิดรอยช้ำที่มีลักษณะฉ่ำน้ำสีน้ำตาลอ่อน ส่วนผลที่การเก็บรักษาที่ 13 และ 15 องศาเซลเซียส เกิดสีน้ำตาลเข้มเริ่มที่บริเวณไส้ก่อนขยายไปที่เนื้อ ใขขณะที่เก็บรักษา 20 องศาเซลเซียส ไม่แสดงอาการไส้สีน้ำตาลแต่เกิดการเน่าเมื่ออายุการเก็บรักษามากขึ้น และการเก็บ รักษาที่ 20 องศาเซลเซียสผลสับปะรดมีการหายใจ การผลิตเอทิลีนและมีการสูญเสียน้ำหนักสูงกว่า ทุกอุณหภูมิตลอดการเก็บรักษา นอกจากนี้ผลสับปะรดที่เก็บตอนเช้าตรู่ (06.00 น.) และเที่ยงวัน (12.00 น.) มีการสะสมกรดอินทรีย์ไม่แตกต่างกันซึ่งต่างจากในใบที่มีการสะสมกรดสูงในตอนเช้า และลดลงในตอนเที่ยง และช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวไม่มีผลต่อการต่อการเกิดไส้สีน้ำตาลเมื่อเก็บรักษาที่ อุณหภูมิต่ำ ปริมาณของ titratable acidity มีในส่วนของเนื้อมากกว่าในส่วนของไส้ เมื่อนำผลย่อย บริเวณที่เกิดสีน้ำตาลมาตรวจดูด้วยกล้อง confocal ระบบ 3 มิติ เปรียบเทียบกับเนื้อเยื่อปกติพบว่า เซลล์บริเวณที่เกิดสีน้ำตาลมีลักษณะของผนังเซลล์เหยี่วทำให้รูปร่างเซลล์เปลี่ยนแปลงไป การทดลองใช้แคลเซียมเพื่อรักษาความสมดุลของเซลล์ โดยการแช่ผลสับปะรดในแคลเซียมคลอไรด์ และสตรอนเตียมคลอไรด์ ความเข้มข้น 0.18 M และใช้ซึมผ่านผลภายใต้สภาพแบบสุญญากาศที่ ความดัน 30 kPa เป็นเวลา 2 นาที และวิธีการจุ่มก้านสับประรดในการละลายที่อุณหภูมิเก็บรักษาเป็น ระยะเวลา 3 วัน แล้วนำมาเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 8 13 และ 20 องศาเซลเวียส พบว่าวิธีการจุ่มก้าม สับปะรดด้วยละลายทั้งสองเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพทำให้ระดับความเข้มข้นของแคลเซียม และสตรอนเตรียมสูงขึ้นในส่วนของไส้สับปะรดและได้ผลดีในการลดการเกิดไส้สีน้ำตาลของ สับปะรด
หากไม่พบเอกสารฉบับเต็ม (Full Text) โปรดติดต่อหน่วยงานเจ้าของข้อมูล

การอ้างอิง


TARR Wordcloud:
การวิเคราะห์อาการไส้สีน้ำตาลในสับปะรดที่อุณหภูมิต่ำ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
2555
การสกัดสีจากกะหล่ำปลีสีแดงเพื่อใช้เป็นสีย้อมสไลด์ ผลของอุณหูมิความร้อนที่มีต่อการเกิดสีน้ำตาลในสารสกัดจากเนื้อไก่ การลดการเกิดสีน้ำตาลของเปลือกผลลำไยพันธุ์ดอหลังการเก็บเกี่ยวโดยการรมด้วยก๊าซคลอรีนไดออกไซด์ การศึกษาสารสกัดสีน้ำตาลแดงจากเปลือกอินทนิลน้ำเพื่อใช้ในการย้อมเส้นใยฝ้าย ในการผลิตเม็ดสี การใช้สมบัติทางความร้อนเฝ้าติดตามอาการสะท้านหนาวของมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดและกลไกการออกฤทธิ์ของสารสกัดจากครอบฟันสี ดัชนีน้ำตาลของทุเรียน, ม ศักยภาพของสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล Padina minor Yamada ในการเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเวชสำอาง การวิเคราะห์ผลตอบแทนของการลงทุนทำสวนมะขามหวานพันธุ์สีทอง : กรณีศึกษา อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์
คัดลอก URL
กระทู้ของฉัน
ผลการสืบค้นทั้งหมด โพสต์     เรียงลำดับจาก